ไทยรอดภาษี 36% หลังสหรัฐฯ เคาะอัตราแค่ 19% ลดแรงกดดันส่งออกครึ่งปีหลัง

ประเด็นร้อน : สิ้นสุดการรอคอย ไทยปิดดีลภาษีทรัมป์ที่ 19%

ไทยรอดภาษี 36% หลังสหรัฐฯ เคาะอัตราแค่ 19% ลดแรงกดดันส่งออกครึ่งปีหลัง

กดฟัง
หยุด
  • ไทยบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ได้ภาษีนำเข้าเพียง 19% ต่ำกว่ากรอบเดิมที่ขู่ไว้ที่ 36% และใกล้เคียงกับประเทศอาเซียนอื่นๆ ช่วยลดแรงกดดันต่อการส่งออกไทยในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเกษตร-อาหาร
  • แม้เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มชะลอ และเงินบาทอ่อนค่า จากดุลการค้าที่ลดลงและดอลลาร์แข็ง ดัชนี SET ขยับขึ้นแล้วกว่า 9% จากการคาดหวังข่าวดี ขณะที่ตลาดหุ้นอาจเคลื่อนไหวแบบ sideway up ในกรอบ 1,200–1,275 จุด
  • ระยะสั้นเน้นกระจายการลงทุน เพิ่มสัดส่วนในตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะที่มี Duration กลาง–ยาว รองรับแนวโน้มลดดอกเบี้ยจาก ธปท. และระวังแรงขายทำกำไรหลังข่าวดีสะท้อนไปในตลาดแล้ว

ไทยรอดภาษี 36% – สหรัฐฯ เคาะภาษีที่ 19% ใกล้เคียงอาเซียน

  • ไทยบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. โดยอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยอยู่ที่ 19% ต่ำกว่ากรอบเดิมที่สหรัฐฯ ขู่ใช้ภาษี 36% และใกล้เคียงกับคู่แข่งในอาเซียน เช่น เวียดนาม (20%), อินโดนีเซีย (19%), ฟิลิปปินส์ (19%) และมาเลเซีย (19%)
  • ข้อตกลงดังกล่าวช่วยลดแรงกดดันต่อการส่งออกไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเกษตร-อาหารที่มีความอ่อนไหวต่อภาษีนำเข้า
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเคยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค และการส่งออกไทยครึ่งปีหลังมีความเสี่ยงหดตัวกว่า -10% หลังจากครึ่งปีแรกเร่งส่งออกโตถึง +15% จากความกังวลเรื่องภาษี แต่ภาษีที่ออกมาจริงที่ระดับ 19% อาจช่วยให้การชะลอตัวของครึ่งปีหลังไม่รุนแรงเท่าที่เคยคาดการณ์
  • ด้านค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของปี จากการลดดุลการค้ากับสหรัฐฯ และทิศทางแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ คาดอ่อนจากระดับ 32.1 ไปสู่ 33.7 บาท/ดอลลาร์
  • ดัชนี SET ปรับขึ้นแล้วกว่า 9% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สะท้อนการคาดหวังข้อตกลงการค้าไปบางส่วนแล้ว หลักทรัพย์กสิกรไทยประเมินดัชนีหุ้นไทย Sideway up เคลื่อนไหวในกรอบ 1,200–1,275 จุด

คำแนะนำการลงทุนในระยะสั้น (1–2 สัปดาห์)

  • แม้ความเสี่ยงภาษีจะลดลง แต่ผลกระทบอาจยังไม่ชัดเจนในทันที ให้เน้นกระจายการลงทุนและกองทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า
  • ระมัดระวังความผันผวนของค่าเงินและแรงขายทำกำไรหลังตลาดตอบรับข่าวดีไปแล้วส่วนหนึ่ง

Market Outlook

K WEALTH มีมุมมอง Neutral ต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น แม้ความเสี่ยงภาษีลดลง แต่ตลาดได้ตอบรับข่าวดีไปบางส่วนแล้ว ขณะที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้าและมีความไม่แน่นอนด้านนโยบายภายในประเทศ


มุมมอง Slightly Positive ต่อตราสารหนี้ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มที่มี Duration กลาง–ยาว รองรับโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยจาก ธปท. ในไตรมาส 4


คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นไทย
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นไทย
    • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นไทย “รอโอกาสลงทุนที่น่าสนใจ”
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-STAR-A, K-VALUE: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
    • K-STAR-A, K-VALUE: ไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-STAR-A, K-VALUE: T+3
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6

คำเตือน

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

“ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top