สร้าง Passive Income ในวันที่เศรษฐกิจผันผวน

ในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนเช่นปัจจุบัน การพึ่งพารายได้หลักเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการรักษาระดับคุณภาพชีวิตและการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตอีกต่อไป โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้และมีอายุมากกว่า 40 ปี ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความรับผิดชอบทางการเงินสูง ทั้งค่าใช้จ่ายครอบครัว การศึกษาบุตร และการเตรียมตัวเพื่อการเกษียณอายุที่ใกล้เข้ามา

สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้และมีประสบการณ์ในการทำงานมายาวนาน การสร้าง Passive Income ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากการทำงานเพียงอย่างเดียว และเป็นการสร้างความมั่นใจในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพต่อเนื่องแม้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ทั้งยังสามารถถ่ายทอดความมั่งคั่งให้กับคนรุ่นต่อไปได้อีกด้วย

รูปแบบการสร้าง Passive Income ที่เหมาะสมสำหรับวัยกลางคน

1. การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ สร้างรายได้โดยไม่ต้องบริหารเอง

   การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์เป็นหนึ่งในรูปแบบการสร้าง Passive Income ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักลงทุนที่มีความพร้อมทางการเงินและต้องการรายได้เสริมที่มั่นคง เนื่องจากธุรกิจแฟรนไชส์มีโมเดลธุรกิจที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ มีระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจน และสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ในระยะยาว

   
   

   ข้อดีของการลงทุนแฟรนไชส์คือ นักลงทุนสามารถเข้าถึงธุรกิจที่มีชื่อเสียงและมีฐานลูกค้าที่มั่นคงอยู่แล้ว โดยไม่ต้องเริ่มต้นสร้างแบรนด์และหาลูกค้าใหม่ด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรได้มากกว่าการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ นอกจากนี้ เจ้าของแฟรนไชส์ยังจะได้รับการสนับสนุนด้านการตลาด การฝึกอบรม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากบริษัทแม่ ทำให้สามารถบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจนั้นๆ มาก่อน

   
   

   อย่างไรก็ตาม การเลือกลงทุนในแฟรนไชส์ต้องพิจารณาถึงปัจจัยสำคัญหลายประการ เช่น ความแข็งแกร่งของแบรนด์ ระบบการสนับสนุนจากบริษัทแม่ ผลตอบแทนที่คาดหวัง ระยะเวลาคืนทุน และที่สำคัญคือ การศึกษาสัญญาแฟรนไชส์อย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งการวิเคราะห์ตลาดในพื้นที่ที่จะลงทุนให้มีความเหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจนั้นๆ

   
   
2. การลงทุนในกองทุนรวม เสถียรภาพและการเติบโตในระยะยาว

   การลงทุนในกองทุนรวมถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการสร้าง Passive Income โดยเฉพาะสำหรับผู้มีรายได้ในระดับสูงที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว K WEALTH ขอแนะนำกองทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนในกลุ่มนี้

   
   

   กองทุน K-GHEALTH เป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพทั่วโลก โดยลงทุนในกองทุน JPMorgan Funds - Global Healthcare Fund, Class A (acc) - USD (กองทุนหลัก) ที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจดูแลสุขภาพทั่วโลก ด้วยนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง กองทุนนี้มีระดับความเสี่ยงที่ 6 และทาง K WEALTH มีมุมมองค่อนข้างบวก (Slightly Positive)

   
   

   กองทุน K-GINFRA-A(D) เป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในหุ้นและ REITs ของธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก โดยลงทุนในกองทุน Wellington Enduring Assets Fund, USD S Accumulating Unhedged (กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่มีลักษณะคงทนถาวรทั่วโลก เช่น บริษัทที่อยู่ในหมวดสาธารณูปโภค การขนส่ง พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าอุตสาหกรรม ด้วยนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง กองทุนนี้มีระดับความเสี่ยงที่ 6 และทาง K WEALTH มีมุมมองค่อนข้างบวก (Slightly Positive)

   
   

   ข้อดีของการลงทุนผ่านกองทุนรวมคือ ได้รับการบริหารจัดการจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และข้อมูลในการวิเคราะห์ตลาดอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งการกระจายความเสี่ยงไปยังหลากหลายสินทรัพย์ ทำให้ลดโอกาสการสูญเสียจากการลงทุนในสินทรัพย์เพียงประเภทเดียว นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถเข้าถึงตลาดการลงทุนระดับสากลที่อาจไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยตนเอง และได้รับประโยชน์จากขนาดของกองทุนในการต่อรองค่าธรรมเนียมการลงทุนที่ต่ำกว่าการลงทุนเป็นรายบุคคล

   
   
3. ประกันชีวิต 90/9 Super Bonus ความมั่นคงและผลตอบแทนสูงพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี

   ประกันชีวิต 90/9 Super Bonus เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการสร้าง Passive Income ที่มั่นคงและยั่งยืน เป็นทั้งรายได้ประจำและรายได้หลังเกษียณ โดยมีลักษณะเฉพาะที่น่าสนใจหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการวางแผนทางการเงินระยะยาว

   • การันตีเงินคืนสูงทุกปีถึง 12%-15% ของทุนเริ่มต้น ตั้งแต่ปีแรก
   • อายุรับประกันถึงอายุ 75 ปี
   • รับเงินก้อนโต 900% ของทุนประกัน** เมื่ออายุครบ 90 ปี
   • สามารถสร้าง Passive Income ทุกปี ต่อเนื่องระยะยาว ยิ่งซื้อเร็ว ยิ่งคุ้ม
   • สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจและตอบคำถามสุขภาพ

นอกจากนี้ ประกันชีวิตยังให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยสามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ซึ่งจะช่วยลดภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปีได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะผู้มีรายได้สูงซึ่งอยู่ในอัตราภาษีที่สูง

** เป็น % ของทุนเริ่มต้น หรือ 101% ของเบี้ยที่ได้ชำระไว้แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า

คำแนะนำสำหรับการเลือกลงทุนให้เหมาะกับคุณ

การเลือกรูปแบบการสร้าง Passive Income ที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญหลายประการ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเงิน เป้าหมายการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ของแต่ละบุคคล

สำหรับผู้ที่มีเงินทุนเริ่มต้นสูงและต้องการสร้างธุรกิจ การลงทุนในแฟรนไชส์อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยควรเลือกธุรกิจที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง มีระบบการสนับสนุนที่ดี และมีโอกาสเติบโตในพื้นที่ที่เลือกลงทุน อย่างไรก็ตาม ต้องพร้อมที่จะใช้เวลาในการติดตามและบริหารธุรกิจระดับหนึ่ง และมีความพร้อมในการรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดหรือสภาวะเศรษฐกิจ

สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว การลงทุนผ่านกองทุนรวมจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม โดยสามารถลงทุนในกองทุน K-GHEALTH หรือกองทุน K-GINFRA-A(D) ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว ซึ่งการลงทุนแบบ DCA หรือการทยอยลงทุนเป็นงวดๆ ด้วยเงินจำนวนเท่าๆ กันจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดและสร้างวินัยในการลงทุนระยะยาว

สำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงสูงสุดและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ประกันชีวิต 90/9 Super Bonus จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างรายได้ที่มั่นคงสำหรับการดำรงชีวิตหลังเกษียณ ควรพิจารณาจัดสรรเงินลงทุนส่วนหนึ่งไว้ในผลิตภัณฑ์นี้เพื่อสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงก่อน แล้วจึงกระจายเงินที่เหลือไปยังการลงทุนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่า แต่มีความเสี่ยงมากขึ้น

การสร้างความมั่งคั่งและ Passive Income ที่ยั่งยืนไม่มีสูตรเฉพาะหรือวิธีการเดียวที่เหมาะสมกับทุกคน แต่หลักการสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จคือ การเริ่มต้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ การลงทุนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและสภาวะเศรษฐกิจ

ในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวนและไม่แน่นอนเช่นปัจจุบัน การมี Passive Income ที่หลากหลายและมั่นคงจึงไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเสาหลักทางการเงินที่แข็งแกร่งสำหรับการดำรงชีวิตที่มีคุณภาพและการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ไม่แน่นอน การลงทุนที่ดีและการวางแผนทางการเงินที่รอบคอบจะเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินและสร้างมรดกที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เมืองไทยประกันชีวิต