ประเด็นร้อน : GDP ไทยไตรมาส2ยังพอไหว ล่าสุดโตมากกว่าที่ตลาดคาด

กดฟัง
หยุด
  • GDP ไตรมาส 2/2568 โต 2.8% YoY ชะลอจาก Q1 ที่ 3.2% แต่ครึ่งปีแรกยังเฉลี่ย 3.0%
  • สศช. ปรับคาดการณ์ GDP ปี 2568 ขึ้นเป็น 2.0% (กลางช่วง 1.8–2.3%) จากเดิม 1.8% หลังภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ไม่สูงเกินคาด หนุนการส่งออกฟื้น
  • เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ แม้ชะลอจาก Q1 โดยได้แรงหนุนจากการส่งออก แต่ยังต้องระวังความไม่แน่นอนจากภาคท่องเที่ยวและมาตรการกีดกันทางการค้า แนะนำติดตามนโยบายการเงิน–การคลังและแนวโน้มส่งออกในครึ่งปีหลัง

GDP ไทยขยายตัว 2.8% ดีกว่าคาดที่ 2.7% ชะลอลงจาก 3.2% ในไตรมาส 1

เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ชะลอลงจากไตรมาส 1 ที่โต 3.2%

  • ครึ่งแรกของปี 2568 GDP ขยายตัวเฉลี่ย 3.0% สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2568 เป็นคาดว่าจะขยายตัวราว 2.0% (ค่ากลาง) จากเดิมที่คาดไว้ 1.8% (ช่วงคาดการณ์ของทั้งปี อยู่ในช่วง 1.8–2.3%)
  • การปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP เกิดขึ้นหลังความชัดเจนเรื่อง ภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ (Reciprocal Tariffs) ซึ่งออกมาในอัตราที่ไม่สูงเกินคาด ส่งผลให้การส่งออกฟื้นตัว หนุนกิจกรรมภาคการผลิตปรับตัวดีขึ้น
  • ดัชนี SET Index ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,254.70 จุด ลดลง 4.72 จุด (-0.37%)

มุมมองการลงทุน

เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ แม้อัตราการเติบโตชะลอลงจากไตรมาสแรก โดยแรงหนุนหลักมาจากการส่งออกที่ฟื้นตัวหลังความชัดเจนเรื่องภาษีสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงยังคงอยู่จากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และความไม่แน่นอนด้านมาตรการกีดกันทางการค้า นักลงทุนควรติดตามท่าทีของนโยบายการเงิน การคลัง และการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง


คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นไทย
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% แนะนำถือเพื่อรอติดตามพัฒนาการในระยะสั้น
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นไทย
    • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นไทย ยังไม่แนะนำให้ลงทุน
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
    • K-STAR-A, K-VALUE: ไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-STAR-A, K-VALUE: T+3
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6



คำเตือน

“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

“ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top