-
VN Index ร่วง -3.44% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายวันที่แรงที่สุดนับตั้งแต่ 29 ก.ค. สาเหตุหลักมาจากแรงขายทำกำไร หลังดัชนีปรับขึ้นร้อนแรงจากบรรยากาศผ่อนคลายความกังวลเรื่องภาษีการค้ากับสหรัฐฯ
-
หุ้นขนาดใหญ่กดดันดัชนี โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร Vietnam Prosperity JSC Bank, Techcombank และหุ้นอสังหาฯ อย่าง Vinhomes ที่ถูกแรงขายออกม
-
มุมมอง K WEALTH แม้มีโอกาสผันผวนในระยะสั้นเพราะตลาดอาจพักฐาน แต่ยังคงมุมมอง Slightly Positive ต่อเวียดนาม เพราะเศรษฐกิจมีศักยภาพดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติ ได้แรงหนุนจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน การปฏิรูปราชการ และกำไรบริษัทที่เติบโตต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นเวียดนามร่วง หลังนักลงทุนขายทำกำไร
ดัชนี VN Index ของเวียดนามปรับตัวลง 3.44% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายวันที่แรงที่สุดนับตั้งแต่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่าเกิดจากแรง ขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนีปรับขึ้นมาอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา นับตั้งแต่ผ่อนคลายความกังวลประเด็นภาษีการค้ากับสหรัฐฯ
หุ้นที่กดดันดัชนี ได้แก่ Vietnam Prosperity JSC Bank, Techcombank และ Vinhomes ซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี
นักวิเคราะห์ชี้ว่ามีแรงขายจากนักลงทุนหลายรายโดยเฉพาะผู้ที่เก็งกำไร และคาดว่าตลาดอาจเข้าสู่ช่วงพักฐาน (consolidation) ก่อนจะเข้าสู่รอบการฟื้นตัวใหม่
Related Indices & Funds
(ข้อมูลวันที่ 22 ส.ค. 2025 ณ เวลา 14.07 น.)
Market Outlook
K WEALTH มีมุมมอง Slightly Positive โดยมองว่าการย่อตัวของตลาดเวียดนามในครั้งนี้เป็นการปรับฐานหลังจากตลาดปรับขึ้นต่อเนื่อง อาจมีความผันผวนในระยะสั้นตามมา
แต่ภาพรวมประเทศเวียดนามยังมีความน่าสนใจดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติ พร้อมปัจจัยหนุนจากการปฏิรูปโครงการราชการและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ขณะเดียวกันระดับ Valuation อยู่ในระดับค่าเฉลี่ย หนุนด้วยกำไรยังเติบโต อัตราส่วน ROE ฟื้นตัวต่อเนื่อง
คำแนะนำการลงทุน
- สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นเวียดนาม
- หากมีสัดส่วนมากกว่า 20% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
- หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 20% แนะนำ “ยังคงถือต่อได้ และ ทยอยเพิ่มสัดส่วนให้ไม่เกิน 20%”
- สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนเวียดนาม
- สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนเวียดนาม “ทยอยสะสมได้”
- เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
- แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
- สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS
หมายเหตุ:
- ระดับความเสี่ยงกองทุน
- K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
- K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
- K-VIETNAM ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
- นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-VIETNAM : ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
- K-SFPLUS: T+1
- K-FIXEDPLUS-A: T+2
- K-VIETNAM: T+5
- K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6