-
หุ้นเทคฯ จีนปีนี้ทำผลตอบแทนแซงหน้าหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ จากปัจจัยหนุนรอบด้าน ทั้งมาตรการสนับสนุนอุตสาหรรมเทคโนโลยี Valuation ที่ถูกกว่า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างรวดเร็วท่ามกลางการแข่งขันที่สูง
-
การฟื้นตัวของหุ้นเทคฯ จีนในครั้งนี้ นับว่าเป็นโอกาสลงทุนครั้งใหญ่ในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ วันนี้ K WEALTH มีกองทุนหุ้นเทคจีนมาแนะนำ นักลงทุนสามารถเลือกให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของตนเอง
ปีนี้ผลตอบแทนหุ้นเทคฯ จีนโตแซงหน้าสหรัฐฯ กว่า 3 เท่า
นักลงทุนหลายท่านอาจคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ แต่รู้หรือไม่บริษัทเทคโนโลยีของจีนกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะปีนี้ ทำผลตอบแทนแซงหน้าหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ ไปกว่า 3 เท่า!!! โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาดัชนี Hang Seng Tech ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 68% ขณะที่ดัชนี S&P500 Technology ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 20% เท่านั้น
ถ้ามาดูผลตอบแทนในระดับหุ้นบิ๊กๆ รายตัวอย่างกลุ่ม 7 นางฟ้าของสหรัฐฯ (Magnificent 7) เทียบกับแก๊งค์ Terrific 10 ของจีน พี่จีนก็ชนะขาดลอยไปหลายตัว
ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีของจีน กองทุนไหนน่าสนใจบ้าง วันนี้ K WEALTH มีกองทุนหุ้นเทคฯ จีนที่น่าสนใจมาแนะนำ (ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 2568)
TICO China Technology Equity Fund: TCHTECH-A
- ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco China Tech ETF (CQQQ) เป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีของจีน มุ่งเน้นทำผลตอบแทนให้ใกล้เคียงดัชนี FTSE China Incl A 25% Technology Capped Index
- ถือหุ้นในกองทุนมากกว่า 150 ตัว
- ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ปัจจุบันป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนมากกว่า 90%
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-End) : 1.00%
- ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ (Management Fee) : 1.070%
👉 เหมาะกับนักลงทุนที่อยากกระจายการลงทุนในหุ้นเทคฯ จีนหลายบริษัท
PRINCIPAL China Technology Fund: PRINCIPAL CHTECH-A
- ลงทุนในกองทุนรวมมากกว่า 2 กองทุนขึ้นไป (Fund of Funds) ปัจจุบันลงทุนใน
- iShares Hang Seng TECH ETF 73.84% : กองทุนเน้นลงทุนใน 30 บริษัทเทคโนโลยีที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง
- CCB Principal China New Energy Innovation Fund 19.97% : เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม New Energy ของจีน
- KraneShares SSE STAR Market 50 Index 5.71% : มุ่งเน้นทำผลตอบแทนให้ใกล้เคียง กับ ดัชนี STAR 50 Index
- ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ปัจจุบันป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน 78%
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-End) : 1.50%
- ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ (Management Fee) : 1.6024%
👉 กองทุนนี้เทียบกับกองทุนเทคฯ จีนอื่นๆ มีการกระจายการลงทุนมากที่สุด ดังนั้นเหมาะกับนักลงทุนที่อยากลงทุนในหุ้นเทคฯ จีน แต่อยากได้ความหลากหลาย และโอกาสจากการลงทุนในกองทุนอื่นๆ เพิ่มเติม
DAOL China Tech Fund: DAOL-CHINATECH
- ลงทุนในหน่วยลงทุนของ HSBC HANG SENG TECH UCITS ETF Class HKD เป็นกองทุน ETF ที่มุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีของจีน มุ่งเน้นทำผลตอบแทนให้ใกล้เคียง กับ ดัชนี Hang Seng TECH Index ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้วัดผลการดำเนินงานของ 30 บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของจีน
- ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ปัจจุบันป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน 78%
- ถือครองหุ้นไม่เยอะ เพียง 30 ตัว
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-End) : 1.605%
- ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ (Management Fee) : 1.605%
👉 เหมาะกับนักลงทุนที่อยากลงทุนล้อกับดัชนี Hang Seng Tech ซึ่งเน้นหุ้นเทคฯ จีนตัวใหญ่ๆ 30 ตัว ไม่ได้อยากกระจายการลงทุนเยอะจนเกินไป
Krungsri China Tech 10 Plus Fund: KFCHINA-T10PLUS-A
- เน้นลงทุนตรงในหุ้นเทคฯ จีนที่อยู่ในดัชนี Hang Seng Tech หรือ หุ้นของบริษัทที่ลักษณะธุรกิจมีความเกี่ยวข้องกับธีมเทคโนโลยีที่มี market cap สูงและมีสภาพคล่อง
- ถือหุ้น 10-11 ตัว โดยจะมีการถ่วงน้ำหนักเท่ากันในแต่ละตัว
- ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-End) : 1.00%
- ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ (Management Fee) : 1.605%
👉 เหมาะกับนักลงทุนสายซิ่ง โฟกัสหุ้นใหญ่ รับความเสี่ยงได้สูง เนื่องจากลงทุนกระจุกตัวในหุ้นเพียง 10-11 ตัว ดังนั้นกองทุนอาจมีความผันผวนสูงกว่า หมายความว่าหากกองทุนเลือกหุ้นได้ถูกตัว ราคา NAV จะวิ่งได้แรงกว่ากองทุนที่ลงทุนกระจายมากๆ แต่หากหุ้นใหญ่ร่วงกองทุนนี้ก็มีโอกาสปรับตัวลงได้มากกว่าเช่นกัน

สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในหุ้นเทคฯจีน ไม่ว่าจะเลือกกองทุนไหนสิ่งสำคัญคือความเข้าใจ สไตล์การลงทุนของตนเอง และสไตล์การลงทุนของกองทุนว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับที่เหมาะสม เพราะการลงทุนในหุ้นเทคฯจีนแม้จะมีโอกาสเติบโตอีกมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีความผันผวนไม่น้อยเลยทีเดียว