-
กองทุน K-WealthPLUS Series ยังแรงต่อเนื่องสร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้ 4 เดือนติดส่งผลให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี K-WPBALANCED +4.3%, K-WPSPEEDUP +4.6% และ K-WPULTIMATE +5.5%
-
ผลตอบแทนจากหุ้นสหรัฐฯ เป็นแรงส่งที่สำคัญ หลังตลาดหุ้นทำ All Time High ได้อีกครั้ง เพิ่มเติมด้วยตลาดหุ้นเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน ใต้หวัน และก็ญี่ปุ่นที่มีส่วนช่วยให้ผลตอบแทนเติบโตโดดเด่นด้วยเช่นกัน
-
ความโดดเด่นนี้สะท้อนถึงศักยภาพของผู้จัดการกองทุนที่พร้อมปรับตัวรับทุกโอกาสและทุกภาวะตลาดการลงทุนทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่า การลงทุนผ่านกองทุน K-WealthPLUS Series ยังมีแรงขับเคลื่อนให้ก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
กองทุน K-WealthPLUS Series ยังแรงดี...ไม่มีตก
ยังคงเดินหน้าสร้างผลตอบแทนดีไม่มีตกได้ต่อเนื่อง สำหรับกองทุน K-WealthPLUS Series ที่ทำผลตอบแทนบวก 4 เดือนติดต่อกันแล้วครับท่าน ควบคู่ไปกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังคงวิ่งทำ All Time High แบบไม่หยุดพัก (ณ วันที่ 12 ก.ย. 2025) ซึ่งก็ส่งผลดีต่อกองทุนด้วยเช่นกัน โดยผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี K-WPBALANCED +4.3%, K-WPSPEEDUP +4.6% และ K-WPULTIMATE +5.5%
นอกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ส่งผลดีต่อกองทุนแล้วการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นจีน ใต้หวันและญี่ปุ่น รวมถึงตราสารหนี้ทั้งในไทยและสหรัฐฯ เองก็เป็นแรงส่งให้ผลตอบแทนดีต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของผู้จัดการกองทุนที่พร้อมปรับตัวรับทุกโอกาสการลงทุนและภาวะตลาดได้อย่างคล่องตัว ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่า การลงทุนผ่านกองทุน K-WealthPLUS Series ยังมีแรงขับเคลื่อนให้ก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรงยังดี...หวัง Fed ลดดอกเบี้ยให้ตลาดไปต่อ
ต้องยอมรับว่าสัดส่วนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ของกองทุน K-WealthPLUS Series เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นๆ ยังเป็นสัดส่วนหลัก ทั้งนี้ผู้จัดการกองทุนเห็นว่ามีโอกาสที่ยังคงได้รับประโยชน์อยู่ ถึงแม้ว่าตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ล่าสุดของเดือน ส.ค. ออกมาอ่อนแอก็ตาม แต่นั่นอาจจะส่งผลดีต่อตลาดก็เป็นได้ ที่ยังคงทำ All Time High จนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเพิ่มความเป็นไปได้ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. เกือบ 100% ไปแล้วและระดับการลดดอกเบี้ยอาจมากกว่าที่คาดก็เป็นไปได้
นอกจากการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่นักลงทุนจับตามองแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นสนับสนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดังนี้
- งบไตรมาส 2/2025 บริษัทหุ้นสหรัฐฯ S&P500 ยังคงแข็งแกร่งโดยเฉพาะบริษัทในกลุ่ม Communication Services, Consumer Discretionary, Financial และ Technology ออกมาดีกว่าตลาดคาด อีกทั้งนักลงทุนได้ลดความกังวลหุ้นในกลุ่ม AI อีกด้วย
- ภาพเศรษฐกิจอย่างดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อทั้งภาคการผลิตและบริการกลับมาปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้งและออกมาดีกว่าตลาดคาดไว้อีกด้วย
- ดัชนี VIX Index อยู่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว สะท้อนถึงความเสี่ยงหรือความผันผวนในอนาคตอยู่ในระดับต่ำ
กองทุน K-WealthPLUS Series ปรับพอร์ตได้โดนใจ พร้อมโอกาสใหม่ๆ จากทั่วโลก
การปรับพอร์ตได้โดนใจและเฉียบขาดทันต่อสถาณการณ์ลงทุน โดยในเดือน ส.ค. มีการปรับสัดส่วนการลงทุนดังนี้
- เพิ่มการลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กในยุโรป จากสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจรวมถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ ECB
- เพิ่มการลงทุนใน Global Corporate Bond จากดอกเบี้ยของตราสารหนี้ต่างประเทศยังทรงตัวในระดับสูงอีกทั้งเศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น
- เพิ่มสัดส่วนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3-7 ปี ที่จะได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนกันยายนนี้
- ลดสัดส่วนตราสารหนี้ไทย หลังจากสร้างผลตอบแทนได้ดีมาก่อนหน้านี้ เพื่อกระจายการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติมที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า
คำแนะนำลงทุนจาก K WEALTH
- K-WPBALANCED ลงทุนในหุ้นประมาณ 30% เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่หรือรับความผันผวนได้ปานกลาง ที่อยากเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนให้พอร์ตมากขึ้น
- K-WPSPEEDUP ลงทุนในหุ้นประมาณ 65% เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้นแต่ก็รับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้นเช่นกัน
- K-WPULTIMATE ลงทุนในหุ้นประมาณ 85% เหมาะกับนักลงทุนที่รับความผันผวนได้สูง เพื่อโอกาสสร้างพอร์ตเติบโตในระยะยาว