เงินบาทแข็งสุดในรอบ 4 ปี จากแรงหนุนทองคำ Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ย และเสถียรภาพการเมืองไทย แนวรับสำคัญ 31.50 แนวต้าน 32.00 บาท/ดอลลาร์

ประเด็นร้อน : เงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบ 4 ปี

เงินบาทแข็งสุดในรอบ 4 ปี จากแรงหนุนทองคำ Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ย และเสถียรภาพการเมืองไทย แนวรับสำคัญ 31.50 แนวต้าน 32.00 บาท/ดอลลาร์

กดฟัง
หยุด
  • เงินบาทแข็งสุดรอบ 4 ปี จากแรงหนุนราคาทองพุ่ง คาด Fed ลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น และเสถียรภาพการเมืองไทย หนุนค่าเงินอยู่ที่แนวรับ 31.50 และแนวต้าน 32.00 บาท/ดอลลาร์ มุมมองลงทุนยังแนะนำ K-GDBOND รับประโยชน์จาก Yield สหรัฐที่ลดลง
  • K-WealthPlus ได้ผลกระทบจากบาทแข็งราว 2% โดยกอง Balance ยังบวก +0.28% ส่วน SpeedUp และ Ultimate ติดลบเล็กน้อย แต่โดยรวมตั้งแต่ต้นปียังบวก โดยเฉพาะ Balance +3% ขณะที่โอกาสบาทแข็งต่อมีจำกัดจากแนวต้าน 31.50 บาท/ดอลลาร์ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งกว่าไทย

เงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบ 4 ปี

ห้องค้ากสิกรไทยมองค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี มีแนวโน้มแข็งค่ามากกว่าเดิมที่เคยคาดไว้ก่อนหน้า (ทั้งนี้อยู่ระหว่างการปรับเป้าประมาณการณ์ปลายปีใหม่) มองว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจาก

  • ราคาทองคำที่เร่งตัวขึ้นแรงและมีแนวโน้มยังอยู่ในขาขึ้นตามการเติบโตของอุปสงค์การถือครองทองคำ
  • Fed มีโอกาสมากขึ้นที่จะลดดอกเบี้ยมากกว่าที่เดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า
  • ปัจจัยในประเทศมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากเสถียรภาพทางการเมืองหลังได้รัฐบาลชุดใหม่พร้อมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะตามมาในเร็วๆนี้

โดยประเมินแนวรับสำคัญของค่าเงินที่ 31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และแนวต้านที่ 32.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


มุมมองการลงทุน

  • การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ K-GDBOND (ภาพรวม Yield สหรัฐฯยังคงปรับลงต่อ ตามการคาดหวังที่ Fed จะเริ่มหั่นดอกเบี้ยลงในเดือนนี้ซึ่งเป็นผลดีต่อการลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ)ถึงแม้ว่าจะมีประเด็น Yield ปรับขึ้นสูงสุดสำหรับ Ultra-long bond yield ในบางประเทศเช่น ฝรั่งเศส หรือ ญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ส่งผลลบต่อกองทุนแต่อย่างใด เนื่องจากกองเน้นลงทุนในภูมิภาคสหรัฐฯและดูเรชั่นที่ต่ำ
  • การลงทุนในกองทุนผสม K-Wealthplus series ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทแข็งขึ้นราว 2% ส่งผลกระทบต่อกอง K-WealthPlus แตกต่างกันไป โดย กอง Balance ที่มีการ Hedge ประมาณ 48% ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยและยังทำผลตอบแทนบวกได้ +0.28% จากแรงหนุนของหุ้นและตราสารหนี้โลก ขณะที่ กอง SpeedUp และ Ultimate ซึ่งเปิดรับค่าเงินจากหุ้นโลกมากกว่า จึงได้รับผลกระทบชัดเจนกว่า ทำให้ผลตอบแทนอยู่ที่ -0.05% และ -0.21% ตามลำดับ ทั้งนี้นักลงทุนที่ถืออยู่แล้วสามารถมั่นใจได้ เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีกองทุนยังสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะกอง Balance สำหรับผู้ลงทุนสายเสี่ยงต่ำที่ยังได้ราว +3% ส่วนผู้ลงทุนใหม่ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะเงินบาทมีโอกาสแข็งต่อได้จำกัด เนื่องจาก
    • ค่าเงิน USD/THB มีแนวต้านสำคัญที่ 31.50
    • ส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ และไทยยังสูง ทำให้เงินทุนยังไหลเข้าสู่ดอลลาร์
    • พื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแรงกว่าของไทยในระยะยาว

คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศผ่านกองทุน K-GDBOND
    • นักลงทุนที่ไม่ต้องการความผันผวนของค่าเงิน แนะนำ K-GDBOND ซึ่งจะมีการ Hedge บางส่วน (ไม่เต็ม 100%) นักลงทุนจะไม่ต้องผันผวนกับค่าเงินมาก
    • สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงจากค่าเงินได้ แนะนำ K-GDBOND แบบ Unhedge โดยอาจจะพิจารณาเริ่มลงทุนหลังค่าเงินบาทแตะ 31.50 (มุมมองทางเทคนิค
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED, K-GDBOND-A, K-GDBONDUH: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-GDBOND-A(A): ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
    • K-GDBONDUH : กองทุนจะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A, K-GDBOND-A, K-GDBONDUH: T+2
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: T+6


คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”, “ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top