-
ในช่วงดอกเบี้ยขาลง ราคาตราสารหนี้ปรับตัวขึ้น ผู้ถือกองทุนตราสารหนี้อยู่จึงได้รับประโยชน์จากส่วนต่างราคาที่สูงขึ้นเมื่อขายหน่วยลงทุน
-
แนะนำลงทุนกองทุนตราสารหนี้ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์และระยะเวลาในการลงทุน โดยกองทุนตราสารหนี้แนะนำ ได้แก่ กองทุน K-SF-A, K-FIXEDPLUS-A, K-GDBOND-A(A)
ช่วงนี้กองทุนตราสารหนี้กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน นอกจากความเสี่ยงต่ำ ลงทุนง่าย และช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนแล้ว ยังได้ประโยชน์ในช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยเป็นขาลงอีกด้วย แล้วกองทุนตราสารหนี้กองไหนมีโอกาสให้ผลตอบแทนดีและเหมาะกับเรา บทความนี้มีมาแนะนำ
กองทุนตราสารหนี้ผลตอบแทนดี ใครว่าไม่มี
หากดูผลตอบแทนกองทุนตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าเป็นบวกติดต่อกันนับตั้งแต่ต้นปี เช่น
- กองทุน K-FIXEDPLUS-A +4.32%
- กองทุน K-GDBOND-A(A) +3.88%
(ข้อมูล ณ 19 ก.ย. 68)
และเมื่อดูผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี จะพบว่า
- กองทุน K-FIXEDPLUS-A +5.15% ต่อปี
- กองทุน K-GDBOND-A(A) +2.44% ต่อปี
(ข้อมูล ณ 19 ก.ย. 68)
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต
สาเหตุที่กองทุนตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนดีเกิดจากช่วงที่ผ่านมาธนาคารกลางทั่วโลกปรับลดดอกเบี้ย
-
สหรัฐอเมริกา
จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในเดือน ก.ย. 68 มีมติปรับลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบปี ซึ่งดอกเบี้ยสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในตัวชี้นำดอกเบี้ยของประเทศอื่นๆ ด้วย
-
ไทย
ในขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือน ส.ค. 68 ก็มีมติ ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% จาก 1.75% เป็น 1.50% ทำให้ราคาตราสารหนี้ปรับตัวขึ้น
นอกจากธนาคารกลาง 2 แห่งที่กล่าวถึงข้างต้น ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ก็เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น โดยการลดดอกเบี้ยและมีแนวโน้มจะปรับลดลงอีกในการประชุมครั้งถัดไป โดย Fed ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะยังส่งผลดีต่อราคาตราสารหนี้อยู่ รวมถึง กนง. ก็ยังมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงอีกเช่นกัน จึงสรุปได้ว่าแนวโน้มดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังเป็นขาลง
ดอกเบี้ยขาลงส่งผลดีต่อกองทุนตราสารหนี้
การลดดอกเบี้ยส่งผลดีต่อกองทุนตราสารหนี้ เพราะทำให้ราคาตราสารหนี้ปรับตัวขึ้นเนื่องจากตราสารหนี้เดิมมีความน่าสนใจมากกว่าตราสารหนี้ออกใหม่ที่ให้ผลตอบแทนลดลง ผู้ลงทุนที่ถือกองทุนตราสารหนี้อยู่จึงได้รับประโยชน์จากส่วนต่างราคาที่สูงขึ้นเมื่อขายหน่วยลงทุน โดยเฉพาะกองทุนที่มีอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว จะได้รับประโยชน์มากกว่าในช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาลงจากการล็อกดอกเบี้ยที่ดีในระยะยาว
ตัวอย่าง
มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากกนง. ประกาศลดดอกเบี้ยในวันที่ 13 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุน K-FIXEDPLUS-A ปรับตัวขึ้น 3 วันติดต่อกันดังนี้
วันที่
|
มูลค่าหน่วยลงทุน
| เปลี่ยนแปลง
|
14/08/68
| 11.7505
| +0.0202 | 0.1722%
|
15/08/68
| 11.7513
| +0.0008 | 0.0068%
|
18/08/68
| 11.7599
| +0.0086 | 0.0732%
|
หลังจาก Fed ประกาศลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุน K-FIXEDPLUS-A ก็ปรับตัวขึ้น 3 วันติดต่อกันดังนี้
วันที่
|
มูลค่าหน่วยลงทุน
|
เปลี่ยนแปลง
|
18/09/68
| 11.7704
| +0.0114 | 0.0969%
|
19/09/68
| 11.7793
| +0.0089 | 0.0756%
|
22/09/68
| 11.7832
| +0.0039 | 0.0331%
|
เปรียบเทียบกองทุนตราสารหนี้กับหุ้นกู้
หากลองเปรียบเทียบกองทุนตราสารหนี้กับหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ระดับ A- ขึ้นไป ซึ่งเสนอขายในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. 68 ในด้านต่างๆ จะพบว่า
- ผลตอบแทน กองทุนตราสารหนี้มีโอกาสให้ผลตอบแทนมากกว่าหุ้นกู้ แต่ไม่การันตีผลตอบแทน เนื่องจากหุ้นกู้อายุ 5 ปี เสนออัตราดอกเบี้ยที่ 2-3% ต่อปี ในขณะที่กองทุนตราสารหนี้ระยะยาวมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
- สภาพคล่อง กองทุนตราสารหนี้มีสภาพคล่องสูงกว่าหุ้นกู้เนื่องจากหากต้องการขายคืนหน่วยลงทุนก็สามารถขายได้ทันที ไม่ต้องรอครบกำหนดไถ่ถอนตามอายุหมือนอย่างหุ้นกู้
- ตราสารที่ลงทุน กองทุนตราสารหนี้สามารถลงทุนได้ทั้งตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้นๆ ซึ่งมีความหลากหลายของตราสารที่ลงทุนมากกว่าหุ้นกู้
- รอบการลงทุน กองทุนตราสารหนี้สามารถลงทุนเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องรอรอบเสนอขายตามระยะเวลาที่กำหนดเหมือนอย่างการลงทุนในหุ้นกู้
แนะนำกองทุนตราสารหนี้ที่เหมาะกับวัตถุประสงค์และระยะเวลาในการลงทุน
สำหรับคนที่สนใจลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ แนะนำให้เลือกกองทุนตราสารหนี้ที่เหมาะกับวัตถุประสงค์และระยะเวลาในการลงทุนของตัวเอง
- คนที่ต้องการพักเงินระยะสั้น เพื่อเสริมสภาพคล่อง มีระยะเวลาลงทุน 3 เดือนขึ้นไป แนะนำ
- กองทุน K-SF-A ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชน และเงินฝากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 50% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
- คนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น ระยะเวลาลงทุน 1 ปีขึ้นไป แนะนำ
- กองทุน K-FIXEDPLUS-A ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน และเงินฝากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- กองทุน K-GDBOND-A(A) ลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้และหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ทั่วโลก
ทั้งนี้ แนะนำช่องทางลงทุนที่สะดวกและง่ายผ่าน K PLUS ใครยังไม่มีบัญชีกองทุนก็สามารถเปิดบัญชีกองทุน ทำแบบประเมินความเสี่ยง และลงทุนผ่าน K PLUS ได้ทันที
ตารางเปรียบเทียบกองทุนตราสารหนี้
กองทุน
| วัตถุประสงค์การลงทุน
|
3 เดือนขึ้นไป
|
จุดเด่น
|
K-SF-A
| ต้องการพักเงินระยะสั้น
| 3 เดือนขึ้นไป
| คัดเลือกตราสารหนี้ที่มีคุณภาพสูง ระดับ Investment grade
|
K-FIXEDPLUS-A
| ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น
| 1 ปีขึ้นไป
| คัดเลือกตราสารหนี้ที่มีคุณภาพสูง ระดับ Investment grade
|
K-GDBOND-A(A)
| ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น
| 1 ปีขึ้นไป
| ใช้กลยุทธ์การลงทุนในหลายภาคส่วน
ทั่วโลก กระจายในตราสารหนี้ หลากหลายประเภท
|
กองทุนตราสารหนี้เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่งในช่วงดอกเบี้ยขาลง และเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุนกองทุนรวมหรือนักลงทุนมือเก๋าที่ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเลือกลงทุนกองทุนตราสารหนี้ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์และระยะเวลาในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋าก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนกองทุนตราสารหนี้ได้
หมายเหตุ:
- ระดับความเสี่ยงกองทุน
- K-SF-A, K-FIXEDPLUS-A: ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
- K-GDBOND-A(A): ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
- นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- K-SF-A: ป้องกันความเสี่ยง 100% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยงไม่น้อยกว่า 90% ของเงินลงทุนต่างประเทศ
- K-GDBOND-A(A): ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
- K-SF-A: T+1
- K-FIXEDPLUS-A, K-GDBOND-A(A): T+2
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บลจ.กสิกรไทย, ThaiBMA