ตลาดหุ้นเวียดนามร้อนแรงเกินพื้นฐาน ควรทำกำไรระยะสั้นแล้วเปลี่ยนไปลงทุน Asia Tech ที่มีปัจจัยหนุน (E-Commerce, Gaming, AI, EV) และ Valuation น่าสนใจกว่า

ได้เวลาล็อกกำไรเวียดนาม และเร่งเครื่องด้วย Asia Tech

ตลาดหุ้นเวียดนามร้อนแรงเกินพื้นฐาน ควรทำกำไรระยะสั้นแล้วเปลี่ยนไปลงทุน Asia Tech ที่มีปัจจัยหนุน (E-Commerce, Gaming, AI, EV) และ Valuation น่าสนใจกว่า

กดฟัง
หยุด
  • เวียดนามร้อนแรงเกินพื้นฐาน: หุ้นปรับขึ้นกว่า 30% YTD สะท้อนปัจจัยบวกไปมากแล้ว ทั้งการเติบโตเศรษฐกิจและคาดการณ์เลื่อนสถานะตลาด ขณะที่ Valuation และการใช้ Margin Loan สูง ทำให้เสี่ยงต่อแรงขายระยะสั้น
  • กลยุทธ์ตามนักลงทุน: ระยะสั้นควรทยอยขายทำกำไร, นักลงทุนใหม่รอจังหวะย่อตัว, ส่วนผู้ที่ลงทุนระยะยาวเกิน 3 ปียังถือได้เพราะเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานหนุนการเติบโต
  • โอกาสใหม่ Asia Tech: เงินทุนไหลกลับเอเชียและธีมการเติบโตระยะยาวอย่าง E-Commerce, Gaming+AI, Semiconductor และ EV หนุนความน่าสนใจ ขณะที่ Valuation ยังถูกกว่าหุ้นเทคสหรัฐอย่างชัดเจน

ตลาดเวียดนามร้อนแรงเกินพื้นฐาน ระยะสั้นเจอ 3 ปัจจัยกดดันหลัก

  1. โอกาสการเติบโตถูกสะท้อนไปมากแล้ว

    ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวขึ้นแรงกว่า 30% ตั้งแต่ต้นปี จากทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจและความคาดหวังการยกระดับตลาดสู่ Emerging Market ขณะที่ Valuation ปรับขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง


  2. ความร้อนแรงของตลาดสร้างความเสี่ยงระยะสั้น

    การพุ่งขึ้นของสินเชื่อมาร์จินแตะระดับสูงสุดกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ทำให้บรรยากาศการลงทุน “ร้อนแรงเกินพื้นฐาน” ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดแรงขายที่รวดเร็วและรุนแรง


  3. ความไม่แน่นอนด้านค่าเงินและสถานะตลาด

    ค่าเงินด่องมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากแรงกดดันการนำเข้าและการขายสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งหาก FTSE ไม่ได้ปรับสถานะเวียดนามขึ้น Emerging Market ตามที่ตลาดคาดหวัง อาจทำให้เกิดแรงเทขายในทันที


    นักลงทุนระยะสั้นทาง KWEALTH แนะนำพิจารณาขายทำกำไรบางส่วน แต่สำหรับผู้ที่ลงทุนระยะยาวยังสามารถมั่นใจได้ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง การปฏิรูปภาครัฐและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จะเป็นแรงหนุนการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในระยะกลางถึงยาว


Take Profit เวียดนาม แล้วต่อยอดการเติบโตด้วย Asia Tech

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการล็อกกำไรจากตลาดหุ้นเวียดนามซึ่งปรับขึ้นแรงในปีนี้ และกำลังมองหากองทุนหุ้นที่สามารถต่อยอดโอกาสสร้างผลตอบแทนให้พอร์ตการลงทุนต่อไป เราแนะนำให้จับตากลุ่ม Asia Technology ที่กำลังได้รับแรงหนุนจาก

  1. ปัจจัยมหภาคที่เอื้ออำนวย (“Goldilocks” ของเอเชีย)

    การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ หนุนกระแสเงินทุนไหลกลับตลาดเอเชีย ขณะเดียวกันเศรษฐกิจยังขยายตัวแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อปรับลดลง สร้างบรรยากาศการลงทุนเชิงบวก โดยเฉพาะต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้อานิสงส์โดยตรง


  2. ธีมการเติบโตของเทคโนโลยีหลากหลาย

    อีคอมเมิร์ซได้แรงหนุนทั้งระยะสั้นจากดอกเบี้ยลด และระยะยาวจากการเติบโตของชนชั้นกลาง (GMV อินเทอร์เน็ตอีโคโนมีโต 3 เท่าใน 5 ปี) / อุตสาหกรรมเกมและ AI มีเอเชียเป็นศูนย์กลางของผู้เล่นระดับโลก และคาดรายได้โตโดดเด่นภายในปี 2026 / เซมิคอนดักเตอร์ที่เอเชียครอง 72% ของห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะ SK Hynix ที่ผูกพันกับการเติบโตของ Nvidia / EV ที่จีนและ BYD ครองความได้เปรียบเชิงขนาด ต้นทุน และการขยายตลาดทั่วโลก


  3. ความน่าสนใจด้านมูลค่า (Valuation)

    หุ้นเทคโนโลยีเอเชียยังซื้อขายในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้น Growth สหรัฐ เช่น China Internet 17x vs US Mag 7 ที่ 31x หรือ Top 10 Asia Pac Tech 17x เทียบกับ Nasdaq Top 10 ที่ 32x สะท้อนโอกาสลงทุนที่ได้ทั้งการเติบโตและราคาที่คุ้มค่ากว่า


คำแนะนำ

นักลงทุนระยะสั้นที่ได้กำไรจากกองทุนเวียดนามมาก ควรขายทำกำไรบางส่วน นักลงทุนที่สนใจเข้าซื้อใหม่อาจรอจังหวะตลาดย่อตัว ส่วนผู้ที่ถือระยะยาวเกิน 3 ปียังสามารถถือได้ต่อ สำหรับผู้ที่ขายแล้ว แนะนำกระจายเงินไป K-ATECH เพื่อต่อยอดโอกาสในหุ้นเทคโนโลยีเอเชีย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก: Bloomberg