สหรัฐฯ เสี่ยง Government Shutdown หลังงบประมาณไม่ผ่าน กดดันความเชื่อมั่นตลาด นักลงทุนจับตาผลต่อการตัดสินใจดอกเบี้ยของ Fed

ประเด็นร้อน : สหรัฐฯ เสี่ยง Government shutdown

สหรัฐฯ เสี่ยง Government Shutdown หลังงบประมาณไม่ผ่าน กดดันความเชื่อมั่นตลาด นักลงทุนจับตาผลต่อการตัดสินใจดอกเบี้ยของ Fed

กดฟัง
หยุด
  • สหรัฐฯ เสี่ยง Government Shutdown หลังสภาคองเกรสไม่ผ่านงบประมาณ กระทบหน่วยงานรัฐบางแห่ง ขณะที่ตลาดหุ้นผันผวนเล็กน้อย แต่ยังจับตาการเจรจาทางการเมือง
  • สิ่งที่ต้องติดตาม ท่าทีเจรจาและผลต่อการตัดสินใจดอกเบี้ยของ Fed หาก Shutdown สั้นผลกระทบจำกัด แต่หากยืดเยื้ออาจกดดัน GDP และความเชื่อมั่นตลาด

สหรัฐฯ เสี่ยงเข้าสู่ภาวะ Government shutdown

  • สภาคองเกรสไม่ผ่านงบประมาณ ส่งผลให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ปิดทำการบางหน่วยงาน
  • หน่วยงานที่อาจได้รับผลกระทบ: BLS (สถิติแรงงาน), หน่วยงานจัดเก็บข้อมูลเศรษฐกิจ
  • บริการที่น่าจะยังเดินต่อ: กองทัพ, Social Security, Medicare
  • ตลาดมีความผันผวนเล็กน้อยจากความกังวล shutdown แต่ยังจับตามาตรการเจรจาระหว่างทั้ง 2

ตัวเลขดัชนีที่เกี่ยวข้อง

  • S&P 500: +0.41%
  • Nasdaq: +0.30%
  • Dow Jones: +0.18%

(ข้อมูล ณ 30 ก.ย. 2025)


Market Outlook

  • หาก Shutdown ระยะสั้น ผลกระทบน่าจะมีจำกัดต่อภาคธุรกิจโดยรวม แต่ข้อมูลเศรษฐกิจที่ Fed ใช้ตัดสินใจอาจชะงัก เช่นตัวเลขการจ้างงานที่มีผลต่อการตัดสินใจของ Fed
  • หาก Shutdown ระยะยาว อาจส่งผลกระทบต่อ GDP ของสหรัฐฯและอาจกระทบความเชื่อมั่นซึ่งมองว่าโอกาสที่จะ Shutdown ระยะยาวน่าจะมีจำกัด

ปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิด

  • ท่าทีเจรจาจากทำเนียบขาว, พรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครต
  • ผลกระทบต่อ Fed ต่อแนวทางการตัดสินใจของเรื่องดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบเดือนตุลาคมนี้

คำแนะนำการลงทุน

  • สำหรับนักลงทุนที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • หากมีสัดส่วนมากกว่า 30% แนะนำขายเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และนำเงินไปพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SFPLUS
    • หากมีสัดส่วนน้อยกว่า 30% แนะนำ “คงน้ำหนักการลงทุน”
  • สำหรับนักลงทุนทั่วไป และผู้ที่ไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐ
    • สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐ “รอโอกาสลงทุนที่น่าสนใจ”
    • เงินลงทุนระยะยาว เน้นถือการลงทุนแบบ Core Port อย่างกองทุนผสม K-WEALTHPLUS เช่น K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ฯลฯ ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลสัดส่วนเงินลงทุน ซึ่งได้ทยอยลดความเสี่ยงไปบ้างแล้ว
    • แนะนำเพิ่มการลงทุนใน K-FIXEDPLUS เนื่องจากตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากความไม่แน่นอน รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยยังลงต่อ
    • สำหรับการพักเงินเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนกลับเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง แนะนำพักเงินใน K-SFPLUS

หมายเหตุ:
  • ระดับความเสี่ยงกองทุน
    • K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A ความเสี่ยงกองทุนระดับ 4
    • K-WPSPEEDUP, K-WPBALANCED ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5
    • K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A): ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
    • K-SFPLUS: ป้องกันความเสี่ยง100%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-FIXEDPLUS-A: ป้องกันความเสี่ยง มากกว่า 90%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A): ป้องกันความเสี่ยง ไม่น้อยกว่ากว่า 75%ของเงินลงทุนต่างประเทศ
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP: ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
  • ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน (ตัวอย่างเช่น ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หมายถึง จะได้รับเงินค่าขายคืน 6 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+6) เช่น ขายคืนวันจันทร์ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์))
    • K-SFPLUS: T+1
    • K-FIXEDPLUS-A: T+2
    • K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-USA-A(A), K-USXNDQ-A(A): T+6

คำเตือน

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”, “ทำความเข้าเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและผลกระทบหากทำผิดเงื่อนไขก่อนตัดสินใจลงทุน”

ผู้เขียน

K WEALTH

Back to top