ขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศครั้งแรก! เตรียมตัวยังไงดี รู้ไว้ไม่กังวล

ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในประเทศ หรือนอกประเทศ การเตรียมพร้อมที่ดีถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้ออกเดินทางได้อย่างมั่นใจ ดังนั้น ก่อนจะไปดูขั้นตอนการขึ้นเครื่องบิน มาเช็กกันหน่อยว่ามีเอกสาร หรืออะไรที่จำเป็นต้องเตรียมก่อนขึ้นเครื่องบ้าง

ทำพาสปอร์ต

พาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทาง เปรียบเสมือนบัตรประชาชนสากล เป็นเอกสารที่ใช้ยืนยันตัวตนเวลาอยู่ต่างประเทศ และยังเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าอีกด้วย สำหรับการเดินทางในประเทศ ไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะสามารถใช้บัตรประชาชนแทนได้ แต่หากเป็นการเดินทางภายนอกประเทศ จำเป็นต้องถือพาสปอร์ตไปด้วยทุกครั้ง โดยสามารถจองคิวทำพาสปอร์ตล่วงหน้า ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และเลือกวันเวลาที่สะดวกได้เลย

จองตั๋วเครื่องบิน

การจองตั๋วเครื่องบินในปัจจุบันทำได้ง่ายมาก เพราะสายการบินหลายแห่งเปิดให้บริการจองตั๋วเครื่องบินได้เองผ่านช่องทางออนไลน์ของสายการบิน ทำให้สะดวกในการเลือกวัน เวลา หรือเปรียบเทียบราคา นอกจากนี้ยังสามารถไปซื้อที่เคาน์เตอร์จุดจำหน่ายตั๋วที่สนามบินได้ด้วย สำหรับการชำระเงิน แนะนำให้ใช้บัตรเครดิต เพราะมักจะมีสิทธิพิเศษ โปรโมชันสะสมแต้ม เครดิตเงินคืน หรือสามารถแบ่งชำระได้ เช่น การซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย จะได้ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศวงเงินสูงสุดถึง 6,000,000 บาท อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกต้องตรวจเช็กให้ดีก็คือ ข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ เช่น ชื่อ-นามสกุล สะกดถูกต้องตรงตามพาสปอร์ตหรือไม่ หากมีจุดผิด ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไขให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจนทำให้เดินทางไม่ได้

ดูอัตราการแลกเงิน

อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากมีการเตรียมตัวล่วงหน้า เลือกจังหวะในการแลกเงินที่เหมาะสม ก็จะทำให้ได้ค่าเงินที่ถูกลง โดยสามารถอัปเดตอัตราแลกเปลี่ยนได้ทุกวันผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS หรือวิธีที่สะดวกกว่านั้น ก็พกบัตรเครดิตเที่ยวต่างประเทศไปด้วย จะได้หมดกังวลเวลาถือเงินสดเยอะๆ อีกทั้งบางใบยังมีส่วนลดค่าโรงแรม ร้านอาหาร หรือสามารถสะสมคะแนนมาใช้เป็นส่วนลด แลกสิทธิพิเศษต่างๆ ได้อีกด้วย อย่างบัตรเครดิต THE PASSION กสิกรไทย นอกจากช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายที่ต่างประเทศ ยังได้คะแนนแบบ x3* เวลาใช้จ่ายที่ต่างประเทศไปอีก!

จัดสัมภาระ

ก่อนขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ควรศึกษารายละเอียด และข้อมูลของแต่ละสายการบินให้ดี ว่ามีนโยบายกำหนดขนาด หรือน้ำหนักของสัมภาระไว้อย่างไรบ้าง โดยทั่วไป สัมภาระที่โหลดเข้าเครื่องสำหรับการเดินทางภายในประเทศจะต้องไม่เกิน 15 กิโลกรัม และหากเป็นการเดินทางระหว่างประเทศจะต้องไม่เกิน 20 กิโลกรัม ส่วนสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่อง ต้องมีขนาดไม่เกิน 22 นิ้ว และหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีของบางอย่างที่ห้ามนำขึ้นเครื่องด้วย เช่น

• ของมีคมหรืออาวุธต่างๆ เช่น มีดพก กรรไกร คัตเตอร์
• อาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ทุเรียน ปลาร้า น้ำพริก น้ำปลา
• สัตว์ที่มีชีวิต หรือซากของสัตว์
• หากเป็นของเหลว เช่น ครีมทาผิว สบู่ แชมพู น้ำหอม ต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาตรไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และจำนวนรวมทั้งหมดต้องไม่เกิน 1 ลิตร
• แบตเตอรี่สำรองความจุต้องไม่เกิน 20,000 mAh

วางแผนการเดินทาง

สุดท้ายต้องไม่ลืมวางแผนการเดินทางไปสนามบินด้วย เช็กให้แน่ใจว่าเป็นสนามบินดอนเมือง หรือสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงเผื่อเวลาสำหรับขั้นตอนเช็กอินที่สนามบินเพื่อไม่ให้ตกเครื่อง หากขึ้นเครื่องในประเทศครั้งแรก ควรมาถึงก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง แต่ถ้าหากเป็นการเดินทางออกนอกประเทศ ควรมาถึงก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 3 ชั่วโมง และเผื่อเวลามากขึ้นอีกอย่างน้อย 1 ชั่วโมงสำหรับช่วงเทศกาล วันหยุดยาว เพราะอาจมีผู้ใช้บริการสนามบินมากเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนต่างๆ ต้องใช้เวลานานขึ้นไปอีก

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะบินลัดฟ้าไปให้ถึงสู่จุดหมาย! สำหรับมือใหม่ที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก สามารถออกเดินทางได้อย่างมั่นใจ เพียงแค่ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. เช็กอินกับสายการบิน

หลังจองตั๋วเครื่องบินจะได้รับ E-Ticket หรือใบ Itinerary ที่ระบุข้อมูลการเดินทาง ซึ่งสามารถพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษ บันทึกเป็นไฟล์ PDF หรือไฟล์รูปภาพ ไว้ในโทรศัพท์มือถือก็ได้ เมื่อมาถึงสนามบิน ให้นำไปยื่นที่เคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบินที่ใช้บริการ หรือเช็กอินด้วยตัวเองที่ตู้เช็กอิน โดยนำบาร์โค้ดไปสแกน แต่ถ้าหากไม่มีสัมภาระที่ต้องโหลดเข้าเครื่องก็จะสะดวกมากขึ้น เพราะสามารถเช็กอินออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของสายการบินได้เลย

2. นำกระเป๋าและสัมภาระไปสแกน

พอเช็กอินเสร็จแล้วจะได้รับ Boarding Pass สำหรับขึ้นเครื่อง และเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจค้นร่างกาย และตรวจกระเป๋า เพื่อเช็กว่ามีการนำสิ่งของต้องห้าม หรือวัตถุที่เป็นอันตรายต่อการเดินทางมาด้วยหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่จะให้นำสัมภาระวางในตะกร้า และสแกนด้วยเครื่อง X-Ray คนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกจึงต้องระวังเรื่องการจัดกระเป๋า เพราะหากเจ้าหน้าที่พบว่ามีของต้องห้าม จะต้องรื้อกระเป๋าเอาของชิ้นนั้นออก และทิ้งทันที

3. ไปรอเครื่องที่ Gate หรือ Lounge

เมื่อผ่านขั้นตอนการขึ้นเครื่องมาแล้ว ก็สามารถไปนั่งรอเวลาเครื่องขึ้นตาม Gate ที่ระบุไว้บน Boarding Pass หรือเลานจ์ของสายการบินได้เลย แต่ถ้าเป็นเลานจ์จะสะดวกสบายกว่า เพราะมีพร้อมทั้งเครื่องดื่ม ขนม ของว่าง ให้บริการ รวมถึงมีที่เสียบปลั๊กสำหรับคนที่ต้องการชาร์จแบต หรือทำงานระหว่างรอด้วย

ทั้งนี้ เงื่อนไขในการใช้บริการเลานจ์ของแต่ละสายการบินจะไม่เหมือนกัน บางที่จำกัดเฉพาะผู้โดยสารชั้น Business Class และ First Class บางแห่งสามารถใช้บริการได้ทุกคน แต่ระยะเวลาในการใช้ก็จะต่างกันไปอีก หากขึ้นเครื่องบินครั้งแรก และอยากเข้าไปนั่งรอสบายๆ ในเลานจ์ สามารถใช้สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตเข้าเลานจ์ได้ เช่น ผู้ที่ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยระดับบัตรแพลทินัมขึ้นไปที่ร่วมรายการ และเดินทางด้วยสายการบิน Thai Airways จะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้

• สามารถเข้าไปใช้บริการที่ห้องรับรองพิเศษ Miracle Lounge ทั้ง 9 จุดภายในสนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณ Concourse A (Level 3), Concourse A1 (Level 3), Concourse C (Level 3), Concourse D (D5) (Level 3), Concourse D (D6) (Level 3), Concourse F (Level 3), Concourse G (Level 3), Concourse G (Level 4) และ Concourse G3 (Level 3)
• ใช้สิทธิ์ได้ 2 ครั้งต่อปี (นับรวมทุกประเภทบัตรเครดิตกสิกรไทย)
• เด็กที่อายุน้อยกว่า 3 ปี สามารถเข้าใช้บริการได้โดยไม่ต้องชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

หรือใช้ K Point 1,500 คะแนน แลกรับ E-Coupon ใน K+ market ผ่าน K PLUS เพื่อเข้าใช้บริการใน K Point KLUB ได้ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

• ใช้ได้กับการเดินทางทุกสายการบิน โดยสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่ K Point KLUB ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ ฝั่ง East ใกล้ Concourse A และฝั่ง West ใกล้ Concourse G
• เมื่อทำการแลกคะแนนเรียบร้อยแล้ว ระบบจะส่ง E-Coupon ไปยัง “คูปองของฉัน” ใน K+ market สามารถกดปุ่ม “ใช้งานคูปอง” เพื่อรับ QR Code สำหรับเข้าใช้บริการใน K Point KLUB โดย QR Code มีอายุการใช้งาน 2 ชั่วโมง นับจากกดใช้งานคูปอง
• เลือกรับขนม หรือเครื่องดื่มได้ 2 ชิ้น
• เด็กที่ส่วนสูงไม่เกิน 110 ซม. ติดตามได้ฟรี 2 คน แต่จะไม่สามารถรับขนม หรือเครื่องดื่มได้ หากต้องการรับขนม หรือเครื่องดื่ม ต้องแลก E-Coupon เสมือนเป็นลูกค้าปกติ
• ระยะเวลาการเข้าใช้บริการสูงสุด 2 ชั่วโมงต่อ QR Code โดยลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือนผ่าน K PLUS ประมาณ 15 นาที ก่อนครบเวลาในการใช้บริการ
• สามารถแลก K Point เป็น E-Coupon และเลือก Send Gift ผ่านทาง K+ market ให้คนอื่น หรือกดรับจากคนอื่นได้

ส่วนผู้ที่ถือบัตรเครดิต JCB กสิกรไทย สามารถใช้บริการ LoungeKey ของสนามบินอื่นๆ ทั่วโลกได้ถึง 8 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม เยอรมนี และอังกฤษ ฟรีสูงสุดถึง 8 ครั้งต่อปี!

4. ฟังเสียงประชาสัมพันธ์ ขึ้นเครื่อง และนั่งตามตั๋ว

ระหว่างนั่งรอก็อย่ามัวแต่ใจลอย หรือคุยเพลิน คอยฟังเสียงประชาสัมพันธ์ของสายการบินด้วย เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะประกาศเรียกให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่อง และจะมีการตรวจบัตรประชาชนหรือ Passport และ Boarding Pass หากพิมพ์ Boarding Pass ออกมาเป็นกระดาษ เจ้าหน้าที่จะทำการฉีก และเหลือส่วนท้ายให้เก็บเอาไว้ แต่ถ้าหากเป็น E-Boarding Pass สามารถเปิดจากมือถือให้เจ้าหน้าที่ดูได้เลย

เสร็จแล้วก็อย่าเพิ่งเก็บ เพราะก่อนเข้าประตูเครื่องบินก็จะมีการตรวจอีกครั้ง จากนั้นเดินไปนั่งตามที่นั่งที่ระบุไว้ สำหรับผู้ที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ควรตั้งใจฟังคำแนะนำ รวมถึงการสาธิตวิธีใช้อุปกรณ์ต่างๆ จากลูกเรือให้ดี เพื่อความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน หากมีปัญหาอะไรก็สามารถสอบถามลูกเรือได้เลย

5. ลงเครื่อง รอรับสัมภาระ

เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ไม่ต้องรีบร้อน ตรวจเช็กสัมภาระของตัวเองให้ครบถ้วน แล้วค่อยเดินออกไปตามป้ายบอกทาง หากมีสัมภาระที่โหลดเข้าเครื่อง ให้ไปรอรับที่สายพาน ส่วนคนที่ไม่มีก็สามารถออกจากสนามบินได้เลย แต่ในกรณีที่เดินทางออกนอกประเทศ จะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อน โดยจะต้องยื่นพาสปอร์ต พร้อมใบผ่านเข้าเมือง (Immigration Card) และจะมีการสัมภาษณ์เล็กน้อย คนที่ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกก็ไม่ต้องกังวล ส่วนใหญ่เป็นคำถามทั่วไป ตอบไปตามความจริง ก็ผ่านได้แบบฉลุยแน่นอน!

โดยปกติแล้ว สายการบินจะมีการแบ่งที่นั่งเป็น 3 ระดับ คือ FC (First Class), BC (Business Class) และ EC (Economy Class) ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเลือกนั่ง EC เพราะราคาถูก ส่วน FC และ BC ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 80,000-200,000 บาท ขึ้นอยู่กับสายการบิน และเส้นทางที่บิน หากใครบินบ่อยๆ จะสามารถสะสมไมล์เพื่อนำมาแลกเป็นส่วนลดให้ราคาถูกลงได้

แต่วิธีที่จะขึ้นเครื่องบินครั้งแรกแล้วสามารถนั่ง BC หรือ FC ในราคาประหยัดได้เลยก็มีเหมือนกัน เพียงใช้พอยท์สะสมนำมาแลกเป็นสิทธิพิเศษได้นั่งแบบ BC หรือ FC แล้วมีบัตรเครดิตไหนบ้างที่สามารถเก็บคะแนนได้ไว และรวดเร็วกว่าเดิม ลองมาดูกัน!

• บัตรเครดิต THE PASSION กสิกรไทย สำหรับสายช็อป กิน เที่ยว ให้เต็มที่ รับพอยท์ x2* เมื่อใช้จ่ายสกุลเงินไทย และรับไปแบบ x3*! เมื่อใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศ สะสมคะแนนให้ได้เยอะๆ แล้วนำมาแลกไมล์ ซึ่งทุกๆ 4 คะแนนจะเท่ากับ 1 ไมล์เลยทีเดียว!
• บัตรเครดิต KBank JCB Platinum สายชอบเที่ยวญี่ปุ่นยิ้มปริ่ม เพราะรับคะแนนไปเลยแบบ x2 ไม่มีขั้นต่ำ เมื่อใช้จ่ายด้วยสกุลเงิน JPY พร้อมส่วนลดที่พัก กิจกรรมระหว่างท่องเที่ยว ประกันการเดินทาง ส่วนลดค่าน้ำมัน รวมถึง Pocket Wifi
• บัตรเครดิต UnionPay กสิกรไทย ใครไปเที่ยวจีนบ่อยๆ ห้ามพลาด! รับคะแนนไปเลย x2 เมื่อใช้จ่ายที่ฮ่องกง และมาเก๊า พร้อมบินยกระดับไปด้วย AirAsia Platinum Level เมื่อจองไฟลต์ 2,300 บาทขึ้นไป รับสิทธิพิเศษต่างๆ ไปเลย ไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรดเป็น AirAsia Platinum ทันที 1 ปี พร้อมสิทธิให้เช็กอินก่อน สิทธิเรียกขั้นเครื่องก่อน สิทธิการรับสัมภาระก่อน พร้อมส่วนลดโรงแรมที่เข้าร่วมรายการสูงสุดถึง 15% (โปรโมชันพิเศษนี้ตั้งแต่ 1 มี.ค. 67 – 30 พ.ย. 67)

สรุป

ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ แต่ถ้าหากมีการเตรียมตัวที่ดี ก็จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้น ใครที่จะขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ก็ควรวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ ดูว่ามีเอกสารอะไรที่จำเป็นต้องใช้บ้าง ของอะไรที่เอาไปได้ และของอะไรที่ห้ามเอาไปเด็ดขาด นอกจากนี้ ควรศึกษาขั้นตอนการขึ้นเครื่องบิน ตั้งแต่เช็กอินจนไปถึงสนามบินปลายทาง เพื่อความรวดเร็ว และเพื่อให้ออกเดินทางได้อย่างมั่นใจ ส่วนเรื่องการใช้จ่ายนั้นไม่ต้องเป็นกังวลเลย เพราะแค่มีบัตรเครดิตกสิกรไทย ก็ใช้จ่ายในต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมรับคะแนนสะสมไปแบบจัดเต็มเป็นพิเศษๆ ด้วย!

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด