9 ไอเดียตกแต่งบ้านสมัยใหม่ อยู่ได้จริง พร้อมวิธีวางแผนก่อนแต่งบ้าน

ก่อนจะไปดูไอเดียตกแต่งบ้าน มาวางแผนตกแต่งบ้านให้รัดกุมก่อน เพราะการซื้อของตกแต่งภายในบ้าน นอกจากจะมีเรื่องความชอบที่ต้องนึกถึงแล้ว ยังมีเรื่องงบประมาณที่ต้องวางแผนให้ดีด้วย แล้วจะวางแผนตกแต่งบ้านยังไงดี? ไปดูกัน!

1. ทำความเข้าใจไลฟ์สไตล์ตัวเอง

ก่อนเริ่มขั้นตอนการตกแต่งภายในบ้านให้ถูกใจ สิ่งแรกที่จำเป็นเลยคือการทำความเข้าใจความชอบ และไลฟ์สไตล์ของตัวเองก่อน จะได้รู้ว่าจะจัดสรร เลือกใช้ของแต่งบ้านยังไงให้ถูกใจ แล้วถ้าทำความเข้าใจความชอบของตัวเองได้แล้ว ก็จะช่วยให้ตกแต่งบ้านได้ออกมาสวย ถูกใจ ใช้งานได้จริง และให้ความรู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่บ้านได้อีกด้วย

2. ตั้งงบประมาณให้ชัดเจน

การตั้งงบประมาณที่ชัดเจน และเหมาะสม ก็เป็นอีกหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ควรนึกถึง ถ้าจะวางแผนตกแต่งบ้าน ควรกำหนดงบประมาณที่จ่ายไหว วางแผนซื้อของตกแต่งบ้านในราคาที่เหมาะสมกับงบ และอย่าลืมวางงบประมาณในส่วนของการจ้างช่างมาตกแต่งด้วย เพราะบางทีอาจรวมไปถึงการซ่อมแซมหรือทำบ้านได้เลย เมื่อวางงบประมาณที่เหมาะสมได้แล้ว ก็จะไม่ต้องมานั่งกังวลทุกครั้งที่ต้องควักเงินออกมาจ่ายเลย

ถ้าอยากแต่งบ้านใหม่แต่งบไม่พอ ลองพิจารณาเลือกใช้บัตรเครดิตที่ใช่สำหรับคุณ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย พร้อมรับคะแนนสะสม และเครดิตเงินคืนสุดคุ้มในทุกการใช้จ่ายอีกด้วย โดยทางธนาคารกสิกรไทยมีบัตรเครดิตมากมายให้เลือกใช้ตามสไตล์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น

• บัตรเครดิต Platinum กสิกรไทย รับ 1 คะแนนสะสมทุกการใช้จ่าย 25 บาท โดยสามารถนำคะแนนสะสมมาแลกเป็นของรางวัลได้ตามใจคุณ
• บัตรเครดิต THE PASSION กสิกรไทย รับคะแนน X2* จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในไทย
• บัตรเครดิต Titanium กสิกรไทย รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1%* จากการใช้จ่ายผ่านบัตร แบบไม่จำกัดขั้นต่ำ (รับเครดิตเงินคืน 1% สำหรับหมวดน้ำมัน ซุปเปอร์มาเก็ต และร้านอาหารที่ร่วมรายการ และรับเครดิตเงินคืน 0.25% สำหรับหมวดอื่นๆ)
• บัตรเครดิต KBank – Shopee Credit Card สำหรับสายช็อปออนไลน์ รับคะแนนสูงสุด K Point X10* เมื่อช็อปที่ Shopee Thailand และ สามารถนำคะแนนสะสมมาแลกเป็นส่วนลด Shopee ได้ถึง 150 บาท

หรือเลือกใช้โปรขาผ่อน บัตรเครดิตกสิกรไทยก็สามารถเข้าร่วมโปรแกรมผ่อนชำระ 0%* กับร้านค้าที่ร่วมรายการได้*ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้านได้แบบไร้ดอกเบี้ย

เพิ่มความสะดวกสบายในการเลือกซื้อ และจัดสรรงบประมาณให้ดียิ่งขึ้น และยังมีโปรโมชันพิเศษสำหรับการผ่อนชำระ เช่น การแลกคะแนน หรือส่วนลดเพิ่มเติม ทำให้คุณได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการใช้บัตรเครดิตอีกด้วย

3. ประเมินพื้นที่ห้องที่จะตกแต่ง

การประเมินขนาดห้องก่อนเลือกซื้อของตกแต่งภายในบ้าน จะช่วยให้เราสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ในขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่เล็กไป และไม่ใหญ่ไปจนเกะกะทางเดิน และช่วยประเมินได้ว่าของแต่งบ้านชิ้นไหนที่จำเป็น และชิ้นไหนที่ไม่จำเป็น ต้องวัดขนาดห้อง และประเมินช่องทางเดินให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาเฟอร์นิเจอร์ไม่พอดีห้อง หรือทำให้ห้องดูแคบลง

4. คำนึงถึงการใช้งานจริง

การแต่งบ้านไม่ใช่การเลือกซื้อของสวยๆ มาทำให้บ้านดูสวยเท่านั้น แต่ต้องนึกถึงการใช้งานจริงเป็นหลักด้วย เพื่อให้ของตกแต่งบ้านที่ซื้อมาไม่ถูกวางทิ้งไว้จนฝุ่นจับ ต้องเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่มีประโยชน์ใช้สอย และตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ด้วย

5. เลือกวัสดุตกแต่งห้องที่เหมาะสม

วัสดุตกแต่งภายในบ้านที่เหมาะสม นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังต้องมีความคงทน ใช้งานได้นานด้วย ควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และเหมาะกับการใช้งาน เช่น เลือกใช้ผ้าม่านที่ทำจากวัสดุคุณภาพดี และทำความสะอาดง่าย หรือเลือกใช้พรมที่มีความหนา และทนทาน เป็นต้น

ถ้าวางแผนตกแต่งบ้านกันไปแล้ว มาดู 9 ไอเดีย ตกแต่งบ้านยุคใหม่ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เรียบง่าย หรูหรา มีสไตล์ และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มาดูกันว่าแต่ละไอเดียมีจุดเด่นยังไง เลือกของตกแต่งแบบไหน เน้นไปที่สีอะไรบ้าง ไปดูกัน!

1. แต่งบ้านสไตล์ดั้งเดิม

การตกแต่งภายในบ้านสไตล์ดั้งเดิม เน้นไปที่ความคลาสสิกของการตกแต่งบ้าน ให้ความรู้สึกอบอุ่น และหรูหรา ผ่านการตกแต่งด้วยสีหลัก เช่น สีน้ำตาล สีแดง สีเขียว หรือสีน้ำเงิน และเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุมีคุณภาพ สวยงาม คงทน

เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก แกะสลักลวดลายสวยงาม ผ้าม่านลายดอกไม้ พรมลายเรียบหรูสีเข้ม โคมไฟระย้าคริสตัล หรือโคมไฟโบราณ ภาพวาดแบบคลาสสิก หรือภาพวาดน้ำมันขนาดใหญ่ประดับผนัง

2. แต่งบ้านสไตล์มินิมอล

การตกแต่งภายในบ้านสไตล์มินิมอล เน้นไปที่ความเรียบง่ายของการตกแต่งบ้าน ช่วยลดความรู้สึกอึดอัด และคับแคบของห้องลงได้ นิยมนำมาตกแต่งห้องที่มีพื้นที่จำกัด แนวการแต่งบ้านแบบนี้ จะเน้นใช้สีสันที่เป็นกลาง และใช้การจับคู่สีแค่ไม่กี่สีเท่านั้น เช่น ขาว เทา ดำ หรือสีโทนสีธรรมชาติ ที่จะช่วยให้ห้องดูโปร่ง และกว้างขึ้นได้

ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่มีรูปทรงเรียบง่าย ตกแต่งน้อยชิ้น แต่เป็นชิ้นที่มีความหมาย หรือมีประโยชน์ใช้สอย รวมถึงการใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มความโปร่ง ให้ห้องดูโล่ง

3. แต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น

การตกแต่งภายในบ้านสไตล์โมเดิร์น เป็นการแต่งบ้านที่เน้นไปที่ความเรียบง่าย สะอาดตา สร้างบรรยากาศที่ทันสมัย และมีสไตล์ ในทุกพื้นที่ของบ้าน ควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ รูปทรงเรียบง่าย ไม่มีลวดลายซับซ้อน ใช้วัสดุที่มีความเป็นธรรมชาติ เช่น ไม้ แก้ว และโลหะ

เลือกของตกแต่งที่ใช้งานได้จริง เช่น ชั้นวางของที่มีดีไซน์เรียบง่าย หรือโคมไฟที่มีรูปทรงเรขาคณิต และใช้สีที่เป็นกลาง เช่น ขาว เทา ดำ หรือโทนสีธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาลอ่อน สีเบจ ซึ่งช่วยให้บ้านดูโปร่ง และสบายตาขึ้น

4. แต่งบ้านสไตล์ร่วมสมัย

การตกแต่งภายในบ้านสไตล์ร่วมสมัย เป็นการแต่งบ้านที่ผสมผสานระหว่างปัจจุบันกับอดีตให้เข้ากันอย่างลงตัว สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น สบาย และผ่อนคลายเป็นหลัก โดยการเลือกใช้วัสดุที่มีรูปทรงเรียบง่าย และมีความเป็นธรรมชาติ เช่น โต๊ะกาแฟที่มีขาเหล็ก และพื้นไม้

และอาจจะใส่ความเป็นไทยผ่านการเลือกของตกแต่งที่มีงานฝีมือ เพื่อสร้างความกลมกลืนระหว่างความเป็นไทย และความทันสมัย ใช้สีที่เป็นกลาง เช่น ขาว เทา ดำ หรือโทนสีธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาลอ่อน สีเบจ

5. แต่งบ้านสไตล์ยุคกลาง

การตกแต่งภายในบ้านสไตล์ยุคกลาง เป็นการแต่งบ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมในยุคกลางของยุโรป สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น และมีความรู้สึกสุนทรีย์ของประวัติศาสตร์ เน้นไปที่การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรง และทนทาน สีหลักในการตกแต่งคือสีน้ำตาลเข้ม สีแดงเข้ม สีเขียวเข้ม หรือสีทอง เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น และหรูหรา

ของแต่งบ้านที่ใช้จะมีลวดลายที่ซับซ้อน เช่น โคมไฟที่ทำจากเหล็กดัด กระจกสี หรือพรมที่มีลวดลายแบบดั้งเดิม ใช้ผนังที่มีการตกแต่งด้วยไม้ หรือหิน ใช้ภาพวาด หรือภาพถ่ายที่มีธีมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เพิ่มด้วย ก็จะให้อารมณ์ความเป็นยุคกลางมากขึ้นไปอีก

6. แต่งบ้านสไตล์ฝรั่งเศส

การตกแต่งภายในบ้านสไตล์ฝรั่งเศส เป็นการแต่งบ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมจากฝรั่งเศส ให้ความรู้สึกหรูหรา และโรแมนติก จะใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีการออกแบบที่ดูโอ่อ่า เช่น โต๊ะอาหารไม้ที่มีการแกะสลัก สีที่ใช้ตกแต่ง จะออกไปทางอ่อนหวาน และอบอุ่น ไม่ว่าจะเป็นสีครีม สีเบจ สีฟ้าอ่อน หรือสีเขียวอ่อน

ใช้ของแต่งบ้านที่มีลวดลายละเอียด เช่น โคมไฟระย้าที่มีการออกแบบหรูหรา กระจกกรอบทอง หรือภาพวาดจากศิลปินชาวฝรั่งเศสที่โด่งดัง ก็จะทำให้บ้านดูเหมือนบ้านในเทพนิยายมากขึ้นไปอีก

7. แต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น

การตกแต่งภายในบ้านสไตล์ญี่ปุ่น เป็นการแต่งบ้านที่เน้นไปที่ความเรียบง่าย ผสมผสานตัวบ้านเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย เงียบสงบ เหมาะกับคนที่ต้องการสมาธิ และอยากเชื่อมโยงกับธรรมชาติ

โดยจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านที่ใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นไม้ หิน หรือที่นิยมที่สุดเลยก็คือไม้ไผ่ และจะเน้นใช้สีที่เป็นธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาล สีเขียว สีเทา และสีครีม ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น และสงบได้ หรือถ้าอยากเพิ่มความเป็นธรรมชาติเข้าไปอีก ก็ให้ใช้ต้นไม้มาประดับบ้านได้ด้วย อย่างต้นไผ่ หรือต้นบอนไซ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว

8. แต่งบ้านสไตล์สแกนดิเนเวีย

การตกแต่งภายในบ้านสไตล์สแกนดิเนเวีย เป็นการแต่งบ้านที่เน้นความสบายตา เรียบง่าย และสว่างโปร่ง ผ่านการเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติมาช่วยตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะกลมขาเหล็ก และพื้นไม้ หรือเก้าอี้หนังสีขาว ของแต่งบ้านที่ใช้งานได้จริง

การออกแบบแสนจะเรียบง่าย เช่น กระถางต้นไม้สีขาว หรือภาพพิมพ์ลายเส้นสีขาวดำ วัสดุหลักๆ จะเน้นไปที่ไม้ แก้ว และผ้าฝ้าย และสีที่ใช้ตกแต่ง จะเน้นสีขาวเป็นหลัก นำมาผสมผสานกับสีธรรมชาติอย่างสีน้ำตาลอ่อน สีเบจ หรือสีเทา ก็ดูดีลงตัวมากขึ้นไปอีก

9. แต่งบ้านสไตล์อาร์ต เดโค

การตกแต่งภายในบ้านสไตล์อาร์ต เดโค เป็นการแต่งบ้านที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ และหรูหราเป็นหลัก บ้านสไตล์นี้จะดูสง่างาม ใครเข้ามาเห็นก็จะประทับใจจนละสายตาไม่ได้ เน้นใช้ของตกแต่งที่มีลวดลายเรขาคณิตที่ชัดเจน

ของแต่งบ้านที่เน้นแสงสะท้อน เช่น แก้ว กระจกสี และโลหะ ตกแต่งด้วยสีที่เข้ม และมีความหรูหรา เช่น สีทอง สีเงิน สีดำ สีกรมท่า หรือสีแดงเข้ม ช่วยสร้างบรรยากาศที่สง่างาม และมีระดับ หรือจะตกแต่งผนังแบบมีสไตล์เป็นของตัวเอง ด้วยวอลล์เปเปอร์ที่มีลวดลายเรขาคณิต หรือสีทอง

เป็นยังไงกันบ้างกับ 9 ไอเดีย ตกแต่งบ้านยุคใหม่ พร้อมวิธีการวางแผนก่อนตกแต่งบ้านให้ออกมาสวย งบไม่บานปลาย ถ้าเลือกแนวการตกแต่งบ้านที่เห็นว่าเหมาะสม และถูกใจ เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตกันแล้ว ก็นำเอาไอเดียพวกนี้ไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับตัวเองกันได้เลย แต่อย่าลืมนึกถึงเรื่องงบประมาณกันด้วย เพราะถ้าไม่วางแผนด้านการเงินให้ดี งบที่บานปลาย อาจทำให้เป็นหนี้ในอนาคตได้แบบไม่ทันตั้งตัว

อยากบริหารเงินแต่งบ้านใหม่ให้อยู่หมัด แนะนำโปรขาผ่อน โปรแกรมผ่อนชำระ 0%* ให้มาช่วยบริหารการเงิน แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย แต่งบ้านก่อนแล้ววางแผนจ่ายในระยะยาว แบบไม่เสียดอกเบี้ย หรือบัตรเครดิตที่ใช่ เพื่อการใช้จ่ายสุดคุ้ม ได้รับคะแนนสะสมผ่านการใช้บัตร พร้อมรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อีกมากมาย

ใช้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
* อัตราดอกเบี้ย 0% เมื่อลูกค้าชำระเต็มจำนวนภายในวันครบกำหนดชำระ
** เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด