ขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) อัปเดตล่าสุด! เดินทางยุโรปไปประเทศไหนได้บ้าง?

วีซ่าเชงเก้นคือเอกสารที่อนุญาตให้ผู้ถือสามารถเดินทางเข้าออกได้อย่างเสรีใน 26 ประเทศสมาชิกในยุโรป โดยไม่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองระหว่างประเทศสมาชิก เสมือนเดินทางภายในประเทศเดียวกัน

ข้อดีของวีซ่าเชงเก้น

• เดินทางได้สะดวก ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
• พำนักได้นานสูงสุด 90 วัน ในช่วง 180 วัน
• มีหลายประเภทให้เลือกตามจุดประสงค์ เช่น ท่องเที่ยว ธุรกิจ เยี่ยมครอบครัว หรือรักษาพยาบาล

ประเทศในเขตเชงเก้นมีทั้งหมด 26 ประเทศ รวมถึงประเทศสำคัญอย่างฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน และล่าสุดคือโครเอเชีย การมีวีซ่าเชงเก้นจึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปยุโรปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

วีซ่าเชงเก้นไม่เพียงอำนวยความสะดวกในการเดินทาง แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศสมาชิก ทำให้เกิดความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ใครบ้างที่ต้องขอวีซ่าเชงเก้น?

ชาวต่างชาติที่ถือพาสปอร์ตจากประเทศนอกกลุ่มเชงเก้น จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าก่อนเดินทางเข้าพื้นที่เขตเชงเก้น คุณสามารถตรวจสอบว่าต้องขอวีซ่าหรือไม่ได้ที่สถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศในกลุ่มเชงเก้น หรือเว็บไซต์ทางการของกลุ่มประเทศเชงเก้น

วีซ่าเชงเก้นมีกี่ประเภท?

วีซ่าเชงเก้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ตามระยะเวลาและวัตถุประสงค์การเดินทาง

1. วีซ่าระยะสั้น : อยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน ในช่วง 180 วัน เหมาะสำหรับเที่ยว ทำธุรกิจ เยี่ยมครอบครัว หรือเข้ารับการรักษา
2. วีซ่าระยะยาว : สำหรับพำนักนานกว่า 90 วัน ใช้สำหรับเรียนต่อ ทำงาน หรืออยู่อาศัยระยะยาว
3. วีซ่าผ่านสนามบิน : ใช้สำหรับแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินในเขตเชงเก้น ไม่สามารถออกนอกพื้นที่สนามบินได้

จุดประสงค์การเดินทางที่สามารถขอวีซ่าได้

• การท่องเที่ยว: สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อพักผ่อน ชมสถานที่ท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมทางวัฒนธรรม
• การทำธุรกิจ: สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อประชุม สัมมนา หรือทำกิจกรรมทางธุรกิจในเขตเชงเก้น
• เยี่ยมครอบครัว: สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อนที่อาศัยอยู่ในเขตเชงเก้น
• การแพทย์: สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อรับการรักษาพยาบาลหรือการรักษาทางการแพทย์

การเลือกประเภทวีซ่าและระบุจุดประสงค์การเดินทางให้ถูกต้องมีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้การยื่นขอวีซ่าราบรื่น และไม่มีปัญหาระหว่างการเดินทางครับ

เขตเชงเก้นประกอบด้วยกลุ่มประเทศในยุโรป 26 ประเทศที่ร่วมลงนามในข้อตกลงพิเศษ ที่เรียกว่า "ข้อตกลงเชงเก้น" ข้อตกลงนี้ช่วยให้ผู้คนเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างประเทศสมาชิกได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

ประเทศสมาชิกในปัจจุบันมีดังนี้

• กลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก: ออสเตรีย เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์
• กลุ่มนอร์ดิก: เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน
• กลุ่มเมดิเตอร์เรเนียน: กรีซ อิตาลี มอลตา โปรตุเกส สเปน
• กลุ่มยุโรปตะวันออก: สาธารณรัฐเช็ก เอสโตเนีย ฮังการี ลัตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ สโลวาเกีย สโลวีเนีย
• ประเทศอื่นๆ: ลิกเตนสไตน์
• สมาชิกล่าสุด: โครเอเชีย (เข้าร่วมปี 2023)

มีหลายประเทศในยุโรปที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเขตเชงเก้น เช่น

• สหราชอาณาจักร
• ไอร์แลนด์
• โรมาเนีย
• บัลแกเรีย
• ไซปรัส

ข้อแตกต่างสำคัญคือ หากต้องการเดินทางเข้าประเทศเหล่านี้ คุณจำเป็นต้อง

• ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองทุกครั้ง
• อาจต้องขอวีซ่าเพิ่มเติมแยกจากวีซ่าเชงเก้น

ข้อดีของการเดินทางในเขตเชงเก้นคือ ความสะดวกสบายในการเดินทางข้ามประเทศ เสมือนการเดินทางภายในประเทศเดียวกัน ทำให้การท่องเที่ยวในยุโรปเป็นเรื่องง่ายและคล่องตัวมากขึ้น

เตรียมเอกสารให้พร้อม! รวมทุกอย่างที่ต้องใช้ในการยื่นวีซ่าเชงเก้น

1. เอกสารพื้นฐานที่ต้องมี
   • พาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ (ต้องเหลืออายุใช้งานอีกอย่างน้อย 3 เดือนหลังจากวันที่จะเดินทางกลับ และต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า)
   • ประกันเดินทาง คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและส่งตัวกลับอย่างน้อย 30,000 ยูโร
   • หลักฐานการเงิน เช่น สเตทเม้นท์บัญชีย้อนหลัง แสดงให้เห็นว่าคุณมีเงินพอใช้จ่ายตลอดทริป
   • เอกสารที่พัก จะเป็นบุ๊คกิ้งโรงแรมหรือจดหมายเชิญจากเพื่อน/ญาติที่อยู่ในยุโรปก็ได้
   • แผนการเดินทาง ทั้งตั๋วเครื่องบินและกำหนดการท่องเที่ยวคร่าวๆ
2. เอกสารเพิ่มเติมตามอาชีพ
   • พนักงานบริษัท: ขอจดหมายรับรองการทำงานที่ระบุตำแหน่งและวันลาที่ได้รับอนุมัติ
   • นักเรียน/นักศึกษา: ขอเอกสารรับรองจากสถาบันที่กำลังเรียนอยู่
   • เกษียณแล้ว: แสดงหลักฐานรายได้หลังเกษียณ เช่น สลิปเงินบำนาญ
   • ไปเยี่ยมครอบครัว: ต้องมีจดหมายเชิญจากญาติที่อยู่ในยุโรป พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือวีซ่าของเขาด้วย
3. สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีเพิ่ม
   • สูติบัตรตัวจริงพร้อมสำเนา
   • หนังสือยินยอมจากพ่อแม่ (กรณีเดินทางคนเดียวหรือไปกับผู้ปกครองแค่คนเดียว)
   • สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของพ่อแม่

สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปยุโรป และต้องยื่นวีซ่าเชงเก้น เราขอแนะนำประกันการเดินทางที่ตอบโจทย์และครอบคลุมทุกความต้องการ มี 2 แผน ได้แก่

1. ประกันเดินทาง Travel Plus แผน Worldwide + ความคุ้มครองเพิ่มเติมแผน 2 : ตอบโจทย์ข้อกำหนดวีซ่าเชงเก้นอย่างครบถ้วน ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยในต่างประเทศ สูงสุด 1,500,000 บาท และการเคลื่อนย้ายเพื่อรักษาพยาบาลฉุกเฉิน สูงถึง 30,000,000 บาท
2. ประกันเดินทาง Travel Plus แผน Premium: ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศสูงสุด 3,000,000 บาท เพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมและอุ่นใจยิ่งขึ้น ด้วยการคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น การเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง (สูงสุด 50,000 บาท) และการสูญหายของกระเป๋าเดินทาง (สูงสุด 30,000 บาท)

ขั้นตอนการสมัครวีซ่าเชงเก้น

สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปยุโรป และต้องยื่นวีซ่าเชงเก้น เราขอแนะนำประกันการเดินทางที่ตอบโจทย์และครอบคลุมทุกความต้องการ มี 2 แผน ได้แก่

1. การจองคิว
   เข้าเว็บไซต์สถานทูตหรือ VFS Global เพื่อจองคิวยื่นเอกสารและสัมภาษณ์ แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น เผื่อเวลาให้พอสำหรับเตรียมเอกสารทั้งหมดให้ครบ
2. การกรอกแบบฟอร์ม
   ดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอวีซ่าจากเว็บไซต์สถานทูตหรือ VFS Global กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทั้งแผนการเดินทาง ที่พัก และข้อมูลส่วนตัว ตรวจทานความถูกต้องให้ดี เพราะข้อมูลผิดอาจทำให้วีซ่าถูกปฏิเสธได้
3. เข้าสัมภาษณ์
   ไปให้ตรงเวลานัด พร้อมเอกสารทั้งหมด เจ้าหน้าที่จะถามเกี่ยวกับจุดประสงค์การเดินทาง กำหนดการท่องเที่ยว และระยะเวลาที่จะอยู่ ตอบตามความจริง ชัดเจน และมั่นใจ
4. จ่ายค่าธรรมเนียม
   อัตราค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าและอายุผู้สมัคร ต้องจ่ายตอนยื่นเรื่อง และขอคืนไม่ได้ไม่ว่ากรณีใดๆ เช็คค่าธรรมเนียมล่าสุดได้ที่เว็บไซต์สถานทูตหรือ VFS Global

การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้การขอวีซ่าเชงเก้นของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีโอกาสได้รับการอนุมัติสูงขึ้น

กฎ 90/180 วัน

กฎ 90/180 วัน เป็นข้อกำหนดสำคัญสำหรับผู้ถือวีซ่าเชงเก้น โดยกำหนดให้ท่านสามารถพำนักในเขตเชงเก้นได้ไม่เกิน 90 วัน ภายในระยะเวลา 180 วัน นับจากวันที่เดินทางเข้าเขตเชงเก้นครั้งแรก การคำนวณระยะเวลาพำนักให้ถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการพำนักเกินกำหนดอาจส่งผลให้ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศในครั้งต่อไป หรืออาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ

สาเหตุการปฏิเสธวีซ่าที่พบบ่อย

การยื่นขอวีซ่าเชงเก้นอาจถูกปฏิเสธด้วยสาเหตุต่างๆ ดังนี้

• เอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือมีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน
• หลักฐานทางการเงินไม่เพียงพอต่อการพำนักและเดินทางในเขตเชงเก้น
• ไม่มีหลักฐานการจองที่พักที่ชัดเจนตลอดระยะเวลาการพำนัก
• ไม่สามารถแสดงวัตถุประสงค์การเดินทางได้อย่างชัดเจนและน่าเชื่อถือ

การยื่นขอวีซ่าครั้งใหม่

กรณีที่วีซ่าถูกปฏิเสธ ท่านสามารถยื่นขอวีซ่าใหม่ได้ โดยควรพิจารณาสาเหตุการปฏิเสธและดำเนินการแก้ไขให้ครบถ้วน ก่อนการยื่นคำร้องครั้งใหม่ ทั้งนี้ ควรเตรียมเอกสารให้สมบูรณ์ มีหลักฐานทางการเงินที่เพียงพอ และมีการจองที่พักที่ชัดเจน นอกจากนี้ ในบางกรณีท่านสามารถยื่นอุทธรณ์คำตัดสินได้ตามระเบียบของแต่ละสถานทูต