ทำความรู้จักประกันโรคร้ายแรง เจอ จ่าย จบ คืออะไร?

อย่างที่เราได้กล่าวไปในตอนต้นว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายแรงมากขึ้น แต่ไม่ว่าเราจะพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราให้ดีแค่ไหน สุดท้ายแล้วปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้อย่างสภาพแวดล้อม และมลภาวะต่าง ๆ ที่ต้องเจอในแต่ละวันก็จะทำให้คุณมีความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายแรงอยู่ดี ทำให้การทำประกันโรคร้ายแรงเอาไว้ จะช่วยให้คุณอุ่นใจและคลายความกังวลเกี่ยวกับการรักษาไปได้ ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับประกันโรคร้ายแรงกันดีกว่า

ประกันโรคร้ายแรงคืออะไร?

ประกันโรคร้ายแรง คือ ประกันที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองในกรณีที่ตรวจพบว่า ผู้เอาประกันเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งหากตรวจพบในขณะที่กรมธรรม์ยังไม่พ้นระยะเวลาไม่คุ้มครอง บริษัทประกันก็จะจ่ายเงินก้อน เพื่อให้ผู้เอาประกันนำเงินนั้นไปใช้จ่ายในการรักษาตัวหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษาได้

ประกันโรคร้ายแรงมีโรคอะไรบ้าง?

โรคร้ายแรงที่ประกันให้ความคุ้มครอง จะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่คุณเลือก โดยมีรายละเอียดความคุ้มครองดังนี้

1. โรคมะเร็ง ทั้งระยะไม่ลุกลาม และระยะลุกลาม
2. กลุ่มอาการทางระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่รักษาโดยใช้ขดลวดผ่านสายสวนทางหลอดเลือด เป็นต้น
3. โรคระบบหัวใจหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด เป็นต้น
4. ภาวะอวัยวะล้มเหลว เช่น ไตวายเรื้อรัง โรคปอดระยะสุดท้าย โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง เป็นต้น

ทั้งนี้รายละเอียดโรคร้ายที่แรงที่ให้ความคุ้มครองข้างต้น เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น หากสนใจทำประกันโรคร้ายแรงควรศึกษาข้อมูล เงื่อนไข และรายละเอียดความคุ้มครองอีกครั้ง

ประกันโรคร้ายแรงเหมาะกับใคร?

• ผู้ที่มีประกันสวัสดิการด้านสุขภาพอยู่แล้ว สำหรับที่เป็นพนักงานบริษัท และข้าราชการ จะมีประกันสุขภาพที่ได้จากบริษัท ซึ่งมักจะเป็นประกันที่คุ้มครองโรคภัยไข้เจ็บทั่วไป และไม่เพียงพอต่อการรักษาโรคร้ายแรง ดังนั้น การทำประกันโรคร้ายแรงเสริมเอาไว้ จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองโรคต่าง ๆ ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
• คนวัยทำงาน แม้ว่ากลุ่มคนวัยทำงาน จะดูเป็นกลุ่มคนที่ยังมีร่างกายแข็งแรงอยู่ แต่ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิต และมลภาวะต่าง ๆ ที่พบเจอในแต่ละวัน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงมากยิ่งขึ้น การทำประกันโรคร้ายแรงไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยให้คุณอุ่นใจมากยิ่งขึ้น แถมยังได้เบี้ยประกันที่ถูกกว่าการทำตอนอายุมากแล้วด้วยเช่นกัน
• ผู้ที่ต้องการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้ อย่างที่เราได้บอกไปว่า การรักษาโรคร้ายแรงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และยังต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เงินสำรองที่คุณมาทั้งชีวิตละลายหายไปกับค่ารักษาเหล่านี้ได้เลย นอกจากนี้คุณยังต้องหยุดงานเพื่อรักษาตัว ทำให้รายได้ที่หดหายไปอีกด้วย แต่หากคุณมีประกันโรคร้ายแรง อย่างน้อยคุณก็จะได้รับเงินก้อนไปใช้ในการรักษาตัว

อย่างที่เราเน้นย้ำไปว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายแรงนั้นค่อนข้างสูง ซึ่งในระหว่างที่รักษาตัวคุณอาจจะต้องหยุดงานทำให้ไม่มีรายได้ จนส่งผลกระทบกับสภาพการเงินโดยรวมของครอบครัวได้ แต่นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่เป็นเหตุผลว่า ทำไมคุณถึงควรทำประกันโรคร้ายแรงเอาไว้ โดยมีเหตุผลดังนี้

• สภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่แย่ลง

  สภาพแวดล้อมที่เราต้องออกไปเผชิญอยู่ทุกวัน เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงได้ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน ควันบุหรี่ ความเครียด หรือแม้แต่อาหารที่ทานในแต่ละมื้อ ล้วนกระตุ้นให้เกิดโรคต่าง ๆ มากมาย

• ช่วยรองรับความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

  ประกันโรคร้ายแรง ถือเป็นหลักประกันที่ช่วยรองรับความเสี่ยงด้านค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณและครอบครัว เพราะเมื่อตรวจเจอโรคร้ายแรง บริษัทประกันก็จะจ่ายเงินก้อนเพื่อให้คุณนำไปใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล โดยที่คุณไม่ต้องใช้เงินเก็บหรือเงินสำรองของครอบครัว

• ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด

  เทคโนโลยีการรักษาโรคต่าง ๆ ในปัจจุบันมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีโอกาสที่โรคร้ายต่าง ๆ จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่แน่นอนว่าเมื่อเป็นเทคโนโลยีการรักษาใหม่ ๆ ก็ย่อมมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเดิม แต่หากคุณมีประกันโรคร้ายแรงคุณก็จะสามารถนำเงินที่ได้จากบริษัทประกันมาเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดได้

• สามารถวางแผนการเงินได้ดีขึ้น

  การซื้อประกันโรคร้ายแรงเตรียมไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเก็บเงินในอนาคตได้ชัดเจนและเป็นระเบียบมากขึ้น เพราะคุณจะสามารถเห็นได้ชัดเจนเลยว่า หากต้องการมีเงินเก็บเท่านี้ใน 10-20 ปีข้างหน้า จะต้องออมเงินแต่ละเดือนเท่าไหร่ โดยไม่ต้องแบ่งเงินเก็บไปสำรองไว้สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง

  นอกจากนี้บริษัทประกันส่วนใหญ่ ยังมีการกำหนดเงื่อนไขการจ่ายเบี้ยประกันโรคร้ายแรงเป็นเบี้ยคงที่ ทำให้สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างเป็นระบบอีกด้วย

• สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

  นอกการทำประกันโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิตสามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ซึ่งถือว่ามีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้ลดหย่อนภาษีแล้ว คุณยังได้หลักประกันในการรักษาเมื่อเกิดโรคต่าง ๆ ขึ้นมาอีกด้วย

โรคร้ายแรงต่าง ๆ เป็นภัยเงียบที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต และมลภาวะต่าง ๆ ที่เราต้องเผชิญในแต่ละวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งโรคเหล่านี้มักจะไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า และหลาย ๆ ครั้งก็เกิดขึ้นกับคนอายุน้อยที่ภายนอกยังดูแข็งแรงดี ดังนั้น จึงควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก ๆ ปี เพราะหากเป็นโรคร้ายที่ไม่แสดงอาการ ก็จะได้ทราบถึงสาเหตุ วิธีการดูแล รวมถึงได้รับการรักษาในทันทีโดยไม่ต้องรอให้ลุกลามจนเป็นอันตรายต่อชีวิต

นอกจากนี้ก็ควรจะซื้อประกันโรคร้ายแรงเอาไว้ เพื่อช่วยลดความกังวลใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะตามมาได้ ซึ่งในปัจจุบันสามารถทำประกันโรคร้ายแรงออนไลน์ได้แล้ว แต่ทั้งนี้ ก่อนจะตัดสินใจซื้อประกันก็ควรจะศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองและราคาของแต่ละบริษัท เพื่อนำมาเปรียบเทียบและเลือกบริษัทที่คุ้มค่าที่สุดก่อนเสมอ