ไลฟ์สไตล์ทางการเงินที่ส่งผลต่อการขอสินเชื่อบ้าน ไลฟ์สไตล์ทางการเงินที่ส่งผลต่อการขอสินเชื่อบ้าน

ไลฟ์สไตล์ทางการเงินที่ส่งผลต่อการขอสินเชื่อบ้าน

บทนำ

การขอสินเชื่อบ้านเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการซื้อบ้านในฝันของใครหลาย ๆ คน แต่ทราบหรือไม่ว่า ไลฟ์สไตล์ ของคุณสามารถมีผลโดยตรงต่อการอนุมัติสินเชื่อบ้านได้? นอกจากรายได้และประวัติการเงินแล้ว พฤติกรรมการใช้จ่ายและการจัดการเงินในชีวิตประจำวันก็เป็นสิ่งที่ธนาคารพิจารณาเช่นกัน

ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายว่าพฤติกรรมด้านไลฟ์สไตล์ทางการเงินแบบใดที่มีโอกาสส่งผลต่อการพิจารณาวงเงินเมื่อมีการขอยื่นกู้สินเชื่อบ้าน พร้อมตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจน เพื่อให้คุณเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้าน

1. การใช้จ่ายอย่างมีสติ (พฤติกรรมที่เหมาะสมสำหรับการขอสินเชื่อ)

พฤติกรรมการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ธนาคารพิจารณา หากคุณมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่สมดุล ไม่ใช้จ่ายเกินตัว และสามารถจัดการงบประมาณได้ดี ย่อมมีผลต่อโอกาสการได้รับอนุมัติสินเชื่อ

ตัวอย่างและแนวทางปฎิบัติ:

  • หากคุณมีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน แต่ใช้จ่ายเพียง 30,000 บาท และเก็บออมได้ 10,000 บาททุกเดือนในช่วงระยะเวลาหนึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าคุณมีวินัยทางการเงิน
  • ในทางกลับกัน หากคุณใช้บัตรเครดิต เต็มวงเงินและมีการชำระคืนแบบจ่ายขั้นต่ำ สะท้อนให้เห็นว่าความสามารถในการชำระหนี้ของคุณกำลังมีปัญหา

2. การสร้างประวัติการเงินที่ดี (ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ทุกคนทำได้)

การสร้างประวัติการเงินที่ดี (ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ทุกคนทำได้)

ตัวอย่างและแนวทางปฎิบัติ:

  • หากคุณเคยมีสินเชื่อรถยนต์และชำระตรงเวลาทุกงวด สะท้อนว่าคุณมีความสามารถในการจัดการชำระหนี้
  • ในทางกลับกัน การชำระล่าช้าหรือผิดนัดชำระหนี้อาจส่งผลเสียต่อประวัติทางการเงินของคุณ ดังนั้น ควรวางแผนชำระหนี้ให้ตรงเวลาเพื่อรักษาประวัติการชำระหนี้ที่ดี

3. การวางแผนรายรับและรายจ่ายอย่างสมดุล (นำไปใช้ได้ทันที)

การวางแผนรายรับและรายจ่ายอย่างสมดุล (นำไปใช้ได้ทันที)

การมีรายรับที่มั่นคงและการจัดการรายจ่ายที่ดีเป็นปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่าคุณมีความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อบ้านได้ตลอดระยะเวลาการกู้

ตัวอย่างและแนวทางปฎิบัติ:

  • คุณมีรายได้จากงานประจำ เดือนละ 60,000 บาท และมีรายได้เสริมจากธุรกิจออนไลน์อีก 10,000 บาทต่อเดือน สิ่งนี้ทำให้คุณมีรายรับที่หลากหลายและมั่นคง แต่จากการวางแผนจะขยายครอบครัวและผ่อนบ้านในอนาคต จึงได้มีการวางแผนหารายได้เสริมจากธุรกิจออนไลน์อีก 20,000 บาทต่อเดือน
  • คุณมียอดผ่อนรายเดือนจากจากสินเชื่อส่วนบุคคลหรือบัตรเครดิตรวมกันสูงกว่า 50% ของรายได้ อาจมีผลต่อการประเมินความสามารถในการชำระหนี้หากคุณต้องการกู้สินเชื่อบ้าน
  • จัดสรรรายได้ให้เหมาะสม เช่น 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น (เผื่อค่าผ่อนบ้านด้วย) 30% สำหรับการออมและการลงทุน และ 20% สำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว สังสรรค์

4. การมีเงินออมและกองทุนฉุกเฉิน (ครอบคลุมทุกแง่มุมที่จำเป็น)

ผู้กู้ที่มีเงินออมสำรองเพียงพอในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน เพราะนี่เป็นสัญญาณของความมั่นคงทางการเงิน

ตัวอย่าง:

  • หากคุณมีเงินออมที่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย 6 เดือน จะช่วยให้คุณสามารถผ่อนชำระสินเชื่อต่อไปได้แม้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
  • สร้างกองทุนฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน หรือ พิจารณาเปิดบัญชีออมทรัพย์แยกต่างหากเพื่อเก็บเงินสำรอง
การมีเงินออมและกองทุนฉุกเฉิน (ครอบคลุมทุกแง่มุมที่จำเป็น)

บทสรุป

การขอสินเชื่อบ้านไม่ได้ขึ้นอยู่กับรายได้เพียงอย่างเดียว แต่ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการเงินในชีวิตประจำวันก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน การใช้จ่ายอย่างมีสติ การสร้างประวัติการเงินที่ดี และการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้รับการอนุมัติสินเชื่อบ้านได้อย่างมั่นใจ


หากคุณกำลังวางแผนขอสินเชื่อบ้าน ลองเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายและเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน แล้วคุณจะพบว่าการมีบ้านในฝันไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม!

คุณมีเคล็ดลับการจัดการไลฟ์สไตล์เพื่อขอสินเชื่อบ้านที่ประสบความสำเร็จไหม? แชร์ประสบการณ์ของคุณกับเราได้เลย!


รายละเอียดสินเชื่อบ้าน เพิ่มเติม คลิกที่นี่

อ่านบทความสินเชื่อบ้าน
และเรื่องบ้านเพิ่มเติม

คลิกเลย
สนใจสมัครสินเชื่อบ้าน
กรอกข้อมูลเพื่อให้ธนาคารติดต่อกลับ
สมัครเลย
แตะเพื่อเปิด