ทำไมการเลือกซื้อบ้านมือสองถึงเป็นที่นิยมมาก
ทำไมการซื้อบ้านมือสองถึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน? ถึงแม้ว่าบ้านมือสองจะไม่ใช่บ้านสร้างเสร็จใหม่ แต่ก็ยังมีข้อดีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นราคาที่ถูกกว่าบ้านมือหนึ่ง หรือมีโอกาสได้ทำเลดี ๆ ที่หาซื้อได้ยากแล้ว ยิ่งเป็นบ้านมือสองที่เป็นทรัพย์ธนาคาร ก็ยิ่งน่าสนใจ ถือว่าเป็นตัวเลือกการซื้อบ้านมือสองราคาเป็นมิตรกระเป๋าที่น่าเชื่อถือ และอำนวยความสะดวกได้ครบครัน
ส่วนเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้การซื้อบ้านมือสองเป็นที่นิยมจะมีอะไรบ้างนั้น หัวข้อนี้มีคำตอบรออยู่แล้ว ดังนี้
ได้บ้านในราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋าสบายกระเป๋ายิ่งขึ้น
การซื้อบ้านมือสอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีบ้านแต่มีงบประมาณจำกัด เพราะเมื่อเทียบกับบ้านมือหนึ่งในทำเลเดียวกันแล้ว บ้านมือสองมีราคาที่ถูกกว่าประมาณ 10-30% ซึ่งหากประมาณการค่ารีโนเวท วางแผนกำหนดงบประมาณ และเตรียมเงินสำรองสำหรับเงินประกันการเสนอซื้อบ้านไว้ดี ๆ ซัก 5-20% ของราคาซื้อขายบ้าน ก็สามารถได้บ้านในราคาที่จับต้องได้ แถมยังมีเงินเหลือไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือรีเนเวทบ้านเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ซื้อแล้วเข้าอยู่อาศัยได้เลย
ข้อดีอีกข้อของการซื้อบ้านมือสองนั้น ก็คือ บ้านมือสองบางหลังเมื่อซื้อแล้วสามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้เลย เนื่องจากบ้านมือสองบางส่วน ก็เป็นบ้านที่มีคนเคยอยู่อาศัยมาก่อน จึงมีบ้านบางหลังที่ขายในลักษณะที่พร้อมเข้าไปอยู่อาศัยได้ในเบื้องต้นเพราะพอมีเฟอร์นิเจอร์ หรือตกแต่งบิลต์อินบ้างแล้ว ถือว่าได้ทั้งบ้านในราคาเป็นมิตร ประหยัดค่าเฟอร์นิเจอร์ แล้วยังพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที
ได้บ้านทำเลดีเพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกยิ่งขึ้น
บ้านมือสองมักจะตั้งอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดี ทำให้ผู้ซื้อได้ประโยชน์ในเรื่องของการคมนาคม หรือการเดินทางมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมากกว่าการซื้อบ้านมือหนึ่งในทำเลที่ไม่ดี โดยทำเลที่ดีมักมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อม เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด ร้านค้า จนไปถึงมีเส้นทางการเดินทางที่หลากหลาย เช่น การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า เป็นต้น
ได้บ้านสภาพดีคล้ายบ้านมือหนึ่ง
ในการซื้อบ้านมือสอง หากลองค้นหาบ้านมือสองอย่างละเอียด จะพบได้ว่ายังมีบ้านมือสองที่ยังอยู่ในสภาพดีทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งมีการตกแต่งต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ทำให้บ้านมือสองนั้นยังคงอยู่ในสภาพดีไม่ต่างจากบ้านมือหนึ่งเลยก็ว่าได้
สามารถตรวจสอบสภาพบ้านก่อนตัดสินใจซื้อ
บ้านมือสองโดยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านที่สร้างจนเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองก็สามารถติดต่อขอตรวจสภาพบ้านกับเจ้าของได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอให้โครงการสร้างเสร็จแบบบ้านมือหนึ่งที่กำลังสร้างอยู่
วิธีเลือกซื้อบ้านมือสองอย่างไรให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิต
ซื้อบ้านมือสองต้องเลือกอย่างไรดี? ในการเลือกซื้อบ้านมือสองควรพิจารณาปัจจัยหลาย ๆ ด้าน ไม่ต่างการจากซื้อบ้านมือหนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อบ้าน คือ การเลือกซื้อบ้านอย่างไรให้ตอบโจทย์กับความต้องการตนเอง เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เป็นอยู่มากกว่า ขอแนะนำให้ลองพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้
- ประเมินราคา ราคาบ้านไม่แพงกว่าที่ตนเองสามารถผ่อนไหว
- ทำเลที่ตั้งของบ้าน ให้พิจารณาก่อนว่าทำเลที่ตั้งของบ้านสะดวกกับการเดินทางไปทำงานหรือไม่ บริเวณรอบ ๆ บ้านนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากหรือไม่ ในบางจุดที่ไม่มีรถโดยสารสาธารณะผ่าน จะไม่สะดวกสำหรับคนที่ไม่มีรถโดยสารส่วนตัว
- ประเภทของบ้านที่ต้องการจะซื้อ โดยปกติที่อยู่อาศัยจะมีอยู่ 3 รูปแบบ คือ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ซึ่งคอนโดมิเนียมจะไม่ค่อยสะดวกสบายมากนักสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด และยากต่อการปรับขยายขนาดของพื้นที่
- จำนวนสมาชิกในบ้าน จำนวนสมาชิกที่อยู่อาศัยร่วมกันในบ้านจะเป็นตัวกำหนดพื้นที่ และปริมาณห้องนอนที่ต้องการ เช่น สมาชิกในบ้านมี พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาว ตา และยาย ควรที่จะมีห้องนอนอย่างน้อย 4 ห้อง
ขั้นตอนการซื้อบ้านมือสองที่ควรรู้แบบครบจบในที่เดียว
ขั้นตอนการซื้อบ้านมือสองที่ควรรู้มีอะไรบ้าง? สำหรับมือใหม่ที่อยากมีบ้าน ต้องบอกก่อนเลยว่าในการซื้อบ้านมือสอง จะมีขั้นตอนที่คล้ายกับการซื้อบ้านมือหนึ่ง แต่จะต้องลงรายละเอียดในเรื่องของการตรวจบ้านมากกว่า โดยมีขั้นตอนในการซื้อบ้านมือสองทั้งหมด 7 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่
-
เลือกโครงการบ้านที่สนใจ
สามารถลองค้นหาบ้านที่ใช่ จากเว็บไซต์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ หรือโครงการบ้านมือสองจากทางธนาคาร ซึ่งสามารถค้นหาบ้านจากทำเลที่สนใจ หรือลองค้นหาจากการกำหนดราคาบ้านที่ต้องการ เพื่อคุมงบประมาณค่าใช้จ่าย
-
ติดต่อสถาบันการเงิน
สามารถลองติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการขอกู้ซื้อบ้านมือสอง พร้อมทั้งสอบถามข้อมูล รายละเอียดบ้านให้ชัดเจน
-
เตรียมยื่นเอกสาร
เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการซื้อบ้าน ประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง สำเนาสมุดบัญชี ใบรับรองเงินเดือน หรือใบจดทะเบียนการค้า (ถ้ามี)
-
ทำสัญญาซื้อขายบ้าน
สัญญาซื้อขายบ้านจะต้องระบุวันที่ วันชำระเงิน ราคาของบ้านอย่างชัดเจน รวมถึงระบุข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย
-
วางเงินประกันการเสนอซื้อบ้านตามที่ตกลง
ในการซื้อบ้านมือสองจะต้องวางเงินประกันการเสนอซื้อบ้านทันที ไม่มีการยื่นขอผ่อนเงินประกันการเสนอซื้อ (ซึ่งโดยปกติแล้วจะต้องวางเงินประกันการเสนอซื้อประมาณ 5-20% ของราคาบ้าน)
-
ตรวจบ้านก่อนโอน
ในการซื้อบ้านมือสองจะต้องมีการตรวจบ้านให้ละเอียดก่อนการเซ็นรับโอน เนื่องจากตัวบ้านมือสอง อาจมีรอยแตก รอยร้าว หรือแม้แต่โครงสร้างบ้านทรุดก็เป็นได้ จึงต้องตรวจสอบให้ดีก่อน
-
นัดวันโอนบ้าน
เพื่อรับโฉนดที่ดิน ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการซื้อบ้านมือสอง ซึ่งคู่สัญญาจะต้องไปลงชื่อในเอกสารต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน
สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาขั้นตอนการซื้อบ้านมือสองอย่างละเอียด ก็สามารถศึกษาขั้นตอนเพิ่มเติมได้ เพื่อให้สามารถเลือกซื้อบ้านได้ตอบโจทย์และสามารถอยู่อาศัยได้ในระยะยาว ซึ่งทางธนาคารกสิกรไทยก็ได้รวบรวมขั้นตอนวิธีซื้อสินทรัพย์มือสองของธนาคารง่าย ๆ ไว้ให้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้เลย ที่นี่
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อบ้านมือสอง
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านมือสองนั้น ควรตรวจสอบว่าตนเองมีความพร้อมทางด้านการเงินมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากการตัดสินใจซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่ง หรือบ้านมือสอง จะเป็นภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว ดังนั้น จึงควรคำนวณค่าผ่อนบ้านให้มีความเหมาะสมกับรายรับในแต่ละเดือน
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การซื้อบ้านมือสองจะมีรายละเอียดที่ค่อนข้างซับซ้อน ทั้งวิธีการยื่นขอซื้อ การเซ็นสัญญาซื้อขาย ไปจนถึงขั้นตอนการตรวจสอบสภาพบ้าน จึงควรศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ
สำรวจสภาพการเงินตัวเองให้ดี
อย่างแรกสุด คือการประเมินศักยภาพทางการเงินของตนเองว่ามีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านมือสองในช่วงราคาประมาณไหน โดยให้วางแผนในการใช้จ่ายให้ดีก่อน ทั้งการแบ่งรายรับแต่ละเดือน และคำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็น อีกทั้งควรศึกษาค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านมือสองให้ถี่ถ้วน หากไม่มีการวางแผนในการใช้เงินให้ดี อาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือร้ายแรงที่สุด คือ ไม่สามารถผ่อนบ้านต่อไปได้ ทำให้ธนาคารต้องยึดทรัพย์คืน ดังนั้นขอแนะนำให้ลองแบ่งสัดส่วนการใช้เงินของตนเองคร่าว ๆ ก่อน เช่น
- สำรวจเงินเก็บออมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ในการซื้อบ้านมือสองนั้น จำเป็นต้องวางเงินประกันการเสนอซื้อบ้านอย่างน้อย 10% ของราคาบ้าน ดังนั้นเงินเก็บในปัจจุบันควรจะมากกว่าจำนวนนเงินประกันการเสนอซื้อ รวมกับเงินเก็บเผื่อในยามฉุกเฉินด้วย
- สำรวจค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตนเอง แน่นอนอยู่แล้วว่าการเดินทางไปทำงาน หรือแม้แต่ผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าประกันชีวิตต่าง ๆ ให้ลองคำนวณคร่าว ๆ แล้วสรุปเป็นรายเดือนออกมาก่อนว่าค่าใช้จ่ายส่วนตัวเฉลี่ยอยู่ที่กี่บาท
- รายจ่ายและหนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน รายจ่ายและหนี้สินของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน บางคนต้องแบกรับภาระครอบครัว หนี้บัตรเครดิต หรือต้องผ่อนบ้านหลาย ๆ หลังไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นให้นำหนี้สินที่จำเป็นต้องจ่ายในแต่ละเดือน มาคำนวณร่วมด้วยว่าจะสามารถกู้ซื้อบ้านมือสองเพิ่มอีกได้หรือไม่
- ค่าใช้จ่ายในอนาคตที่สนใจ เช่น มีการวางแผนจะซื้อรถ หรือซื้อคอนโดต่อเลย ก็จะต้องคำนวณถึงจำนวนปีที่จะต้องผ่อน รวมถึงความสามารถทางการเงินของตนเองว่าสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ทั้งหมดหรือไม่
ตรวจสอบโครงการบ้านที่จะซื้อ
ให้ดูตั้งแต่รายละเอียดของโครงการ ค่าใช้จ่ายส่วนกลางว่าจะต้องมีการชำระอะไรเพิ่มบ้างอีกเท่าไหร่ ประวัติของตัวบ้าน รวมทั้งสำรวจที่ดินในบริเวณใกล้เคียงว่าเสี่ยงต่อการโดนเวนคืนที่ดินหรือไม่? เป็นบ้านติดจำนองหรือไม่? และที่สำคัญที่สุดในวิธีเลือกซื้อบ้านมือสอง คือ ทำเลที่ตั้งของบ้านจะต้องไม่ใช่บ้านที่ตั้งในที่ดินสาธารณะหรือที่ดินเอกชนที่บริจาคให้เป็นสาธารณะ เพราะมีสิทธิ์ถูกเพิกถอนภายหลังได้
รู้ข้อกฎหมายที่สำคัญ
ศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการซื้อบ้านมือสองให้ละเอียด โดยปกติแล้วจะต้องมีการทำสัญญาจะซื้อจะขายอย่างถูกต้องเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน ซึ่งในสัญญาจะต้องระบุราคาซื้อขาย การจ่ายเงินมัดจำ และเงินส่วนที่เหลือจะชำระต่อไป หากผู้ซื้อไม่สามารถชำระเงินส่วนที่เหลือได้ในเวลาที่กำหนด ผู้ขายมีสิทธิ์ที่จะยึดเงินมัดจำได้ เมื่อดำเนินการยื่นขอสินเชื่อเสร็จสิ้น และได้รับอนุมัติสินเชื่อเรียบร้อยแล้ว ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องทำสัญญาซื้อขายต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินเท่านั้นถึงมีผลผูกกันตามกฎหมาย และยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก เช่น ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ภาษีธุรกิจเฉพาะ ฯลฯ
ตรวจรับบ้านก่อนโอนให้เรียบร้อย
ตรวจบ้านก่อนโอนให้เรียบร้อยในการซื้อบ้านมือสอง ควรมีการตรวจสอบสภาพบ้านมือสองอย่างละเอียดก่อนการโอนร้บบ้าน โดยตรวจสอบตามบริเวณรอบ ๆ บ้าน ดังนี้
- โครงสร้างบ้าน ผนังบ้าน กำแพงบ้าน พื้นบ้าน ระเบียงบ้าน บันได และคานบ้าน ควรอยู่ในสภาพที่แข็งแรง ไม่มีส่วนไหนที่ผุพัง หรือแตกหักจนเห็นเหล็กโครงสร้างภายใน
- ทางเดินภายในบ้าน เริ่มตั้งแต่ประตู หน้าต่าง จะต้องอยู่ในสภาพดี สามารถใช้งานได้ ในทางที่ดีประตูหรือหน้าต่างไม่ควรเปิดแล้วชนกัน และไม่มีจุดไหนที่น้ำสามารถรั่วซึมเข้ามาได้
- สภาพบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเพดาน พื้นบ้าน ผนังบ้าน จะต้องไม่มีรอยรั่ว หรือแตก
- ระบบไฟฟ้า มีสภาพดี ไม่มีสายไฟหรือปลั๊กตัวไหนเสียหาย
- ระบบประปาและช่องทางการระบายน้ำ จะต้องไม่มีจุดรั่วซึม หรือแตกหัก ปั๊มน้ำสามารถทำงานได้ตามปกติ รางน้ำฝนไม่มีจุดแตกหัก สุขภัณฑ์ไม่มีจุดเสียหาย
- ภายนอกของตัวบ้าน และพื้นที่รอบตัวบ้าน ให้สังเกตตั้งแต่บริเวณรั้วบ้านว่าจะต้องมีสภาพดี ตัวบ้านไม่ควรทรุดจากบริเวณโดยรอบมากนัก
อยากได้บ้านมือสองดี ๆ จะหาซื้อได้จากที่ไหน
หลังจากที่ได้รู้วิธีการเลือกซื้อบ้านมือสอง พร้อมกับสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก่อนซื้อบ้านมือสองไปแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไป คือ การหาบ้านมือสองที่ใช่ ทำเลที่ชอบ แต่จะหาจากที่ไหนได้บ้าง? เพราะในปัจจุบันการหาบ้านมือสองที่ราคาดี ตั้งอยู่ในทำเลที่ตอบโจทย์ในการใช้งาน ก็เป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก ๆ เลยก็ว่าได้
ขอแนะนำ K-Property เว็บไซต์สำหรับการค้นหาบ้านมือสองที่ดำเนินการโดยธนาคารกสิกรไทย ออกแบบเว็บไซต์ให้ดูทันสมัย ใช้งานง่าย โดยสามารถเลือกค้นหาบ้านจากทำเล หรืองบประมาณที่มี รวมทั้งเลือกประเภทที่อยู่อาศัยที่ต้องการได้เลย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ หรือที่ดิน ก็รวมครบจบในเว็บเดียว แถมยังสามารถยื่นขอจองบ้านออนไลน์ได้ทันที ไม่ต้องไปถึงธนาคาร
การซื้อบ้านมือสองในปัจจุบันมีข้อดีมากกว่าที่คิด เนื่องจากผู้ซื้อสามารถเลือกดูบ้านที่สนใจ ราคาที่ใช่ อีกทั้งยังเลือกทำเลที่ชอบได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าการซื้อบ้านมือสองจะต้องดูเรื่องสภาพบ้านให้ละเอียดกว่าบ้านมือหนึ่งค่อนข้างมาก แต่การซื้อบ้านมือสองก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่อยากมีบ้านเป็นของตนเอง เพราะตัวบ้านมือสองมักเป็นบ้านที่พร้อมอยู่เรียบร้อยแล้ว หากอยากเปลี่ยนสภาพบ้านให้น่าอยู่มากขึ้น เพียงแค่นำมาต่อเติม หรือตกแต่งใหม่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง ก็สามารถเนรมิตจากบ้านมือสองธรรมดาให้ดูสวยเหมือนบ้านมือหนึ่งได้เลย