เงินเดือน 30,000 บาท กู้ซื้อบ้านได้ไหม

เงินเดือน 30,000 บาท กู้ซื้อบ้านได้ไหม กู้ได้เท่าไร คำนวณได้อย่างไร?

9 ม.ค. 2567

เงินเดือน 30,000 บาท กู้ซื้อบ้านได้ไหม
quote

บ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นเป็นปัจจัยที่จำเป็นในการดำรงชีวิต หลายๆ คนคงมีความฝันว่าหลังเรียนจบ เมื่อมีเงินเดือนใช้เองแล้ว จะกู้ซื้อบ้านเป็นของตนเอง แล้วถ้าเงินเดือน 30,000 บาท ซื้อบ้านได้ไหม? จำเป็นต้องผ่อนเดือนละกี่บาท แล้วกู้ได้สูงสุดเท่าไหร่? ในบทความนี้ทาง K-Property จะพามาดูวิธีคิดวงเงินในการกู้ซื้อบ้าน พร้อมกับแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนยื่นกู้แบบละเอียด ให้ทุกคนได้มีบ้านในฝันสมดังใจหมาย

quote

ทำไมต้องกู้ซื้อบ้าน

ในปัจจุบันด้วยสภาพเศรษฐกิจ เงินเดือน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มีมากขึ้น การซื้อบ้านซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาสูงจึงเป็นเรื่องยากที่จะซื้อด้วยเงินสด การเลือกกู้ซื้อบ้านจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่อยากมีบ้านเป็นของตนเอง แต่ยังไม่พร้อมที่จะซื้อด้วยเงินสดนั่นเอง

เช็กลิสต์ความพร้อม ก่อนกู้ซื้อบ้าน

เช็กลิสต์ความพร้อม ก่อนกู้ซื้อบ้าน

ก่อนที่จะตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน ให้สำรวจตนเองก่อนว่ามีคุณสมบัติดังนี้หรือไม่ เพื่อให้การกู้เงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีโอกาสสำเร็จสูง มาลองทำเช็กความพร้อมกันก่อนได้เลย!

1. รายได้ที่มั่นคง

รายได้ที่มั่นคงนั้น นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ เพราะหากทำเรื่องกู้เงินเรียบร้อยแล้ว แต่ตกงาน หรือขาดรายได้ขึ้นมา ทำให้ไม่มีเงินผ่อนชำระได้ตามกำหนด จึงต้องทำการประเมินความเสี่ยงของตนเองก่อนว่ามีรายได้ที่มั่นคงหรือยัง หากเพิ่งเริ่มงาน แนะนำให้ทำงานไปสักพักนึงเสียก่อน แล้วค่อยทำการยื่นกู้ในช่วงที่หน้าที่การงานเริ่มมั่นคงแล้ว

2. เงินที่กู้ได้เพียงพอไหม

เงินเดือน 30,000 บาท กู้ซื้อบ้าน ซื้อคอนโดได้บางคนเท่านั้น เพราะแต่ละคนมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป ตามหลักโดยทั่วไปแล้วธนาคารจะเป็นผู้ประเมินความสามารถของผู้กู้ว่าสามารถชำระได้หรือไม่ ซึ่งตามหลักจะคิดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนสูงสุดต่อเดือน คือ 40% ของรายได้ต่อเดือน หรือพูดง่ายๆ ว่า หากคุณมีเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 ความสามารถในการผ่อนต่อเดือนสูงสุดจะอยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือนนั่นเอง (40% ของเงินเดือน 30,000 บาท)

3. มีหนี้สินอื่นๆ ที่ต้องจ่ายหรือไม่

นอกจากธนาคารจะประเมินว่าความสามารถในการผ่อนสูงสุดต่อเดือนคือเท่าไหร่แล้ว หนี้สินอื่นๆ ที่มีอยู่จะถูกนำมาประเมินด้วยเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่มีหนี้สินอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะมีเงินเดือน 30,000 บาท ก็อาจไม่ได้รับอนุมัติวงเงินกู้ หรือได้รับอนุมัติเงินกู้ในวงเงินที่ต่ำกว่าผู้ที่ไม่มีหนี้สินใดๆ เพิ่มเติม

4. มีเงินสำรองเพียงพอแล้วหรือยัง

สำรวจตนเองว่ามีเงินสำรอง ไว้ใช้ยามฉุกเฉินบ้างหรือไม่ ในการวางแผนกู้ซื้อบ้านควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เนื่องจากหากตกงานกะทันหัน หรือธุรกิจที่ทำอยู่หยุดชะงัก จะทำให้ขาดรายได้ทันที จึงควรมีเงินสำรองให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายนั่นเอง

5. เตรียมรับมือความเสี่ยงในอนาคตแล้วหรือยัง

ปัจจัยความเสี่ยงในอนาคตก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ไม่คาดคิดก่อนทำการกู้ หรือหลังจากกู้เรียบร้อยแล้ว เช่น การทำประกันสุขภาพ ประกันอัคคีภัย ประกันชีวิต หรือประกันรถ เป็นต้น การลดความเสี่ยงจะช่วยให้การกู้เงินระยะยาวครั้งนี้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะหากผ่อนไปได้สักพักหนึ่ง แล้วเกิดตรวจเจอโรคร้ายแรงที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง อาจส่งผลกับสถานภาพทางการเงินที่มีอยู่ก็เป็นได้

คำนวณ เงินเดือน 30,000 ต้องเลือกผ่อนซื้อบ้านเท่าไรกันแน่

คำนวณ เงินเดือน 30,000 ต้องเลือกผ่อนซื้อบ้านเท่าไรกันแน่

เงินเดือน 30,000 ซื้อบ้านได้วงเงินกู้สูงสุดกี่บาทกันแน่? สำหรับวิธีการคำนวณแบบคร่าวๆ นั้น ทางธนาคารจะคิดจากความสามารถในการผ่อนสูงสุดต่อเดือน คือ 40% ของเงินเดือน แล้วคูณด้วย 150 จะเป็นจำนวนวงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ยที่สามารถทำได้ ทั้งนี้หากต้องการตัวเลขที่แน่ชัด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำให้ติดต่อทางเจ้าหน้าที่ K-Property ของธนาคารกสิกรไทยโดยตรง
ยกตัวอย่างการคำนวณ
เงินเดือน 30,000 บาท ความสามารถในการผ่อนสูงสุดต่อเดือน (40% ของเงินเดือน) จะอยู่ที่ 12,000 บาท
และนำ 12,000 มาคูณกับ 150 จะเท่ากับวงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,800,000 บาท

ตารางเปรียบเทียบ เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านเท่าไรดี

เงินเดือน 30,000 ซื้อบ้านได้สูงสุดกี่บาท สามารถซื้อบ้าน 4-5 ล้านได้หรือไม่? ทาง K-Property ได้รวบรวมตารางเงินเดือน พร้อมวงเงินกู้บ้านสูงสุดเอาไว้ให้แล้ว ขอเน้นย้ำว่าในตารางนี้ใช้เฉพาะกรณีที่ไม่มีหนี้สินอื่นๆ เพิ่มเติม

scroll

เลื่อนตารางเพื่อดูข้อมูล

เงินเดือน (บาท) วงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ย (บาท)
15,000 900,000
20,000 1,200,000
30,000 1,800,000
50,000 3,000,000
75,000 4,500,000
100,000 6,000,000
150,000 9,000,000
200,000 12,000,000

ตารางเปรียบเทียบกรณีมีหนี้สิน กู้ซื้อบ้านเท่าไรดี

แล้วสำหรับกรณีที่มีหนี้สินร่วมด้วย สามารถกู้ซื้อบ้านเท่าไหร่ได้บ้าง? ยกตัวอย่างในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายที่ต้องผ่อนอยู่เดือนละ 5,000 บาท วงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ยที่สามารถทำได้จะอยู่ที่เท่าไหร่ ทาง K-Property ได้ทำตารางตัวอย่างเอาไว้ให้แล้ว ดังนี้

scroll

เลื่อนตารางเพื่อดูข้อมูล

เงินเดือน (บาท) ยอดที่ต้องผ่อนสินค้าอื่น เดือนละ (บาท) ความสามารถในการผ่อนสูงสุดเดือนละ (40% ของรายได้-หนี้สินที่มี) วงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ย (บาท)
(40%ของรายได้-หนี้สินอื่น) คูณ 150
15,000 5,000 1,000 150,000
20,000 5,000 3,000 450,000
30,000 5,000 7,000 1,050,000
50,000 5,000 15,000 2,250,000
75,000 5,000 25,000 3,750,000
100,000 5,000 35,000 5,500,000
150,000 5,000 55,000 8,250,000
200,000 5,000 75,000 11,250,000

จากในตารางจะเห็นว่าหากเงินเดือน 15,000 – 30,000 บาท แล้วยังมีหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระอยู่อีกเดือนละ 5,000 บาทนั้น จะมีความเสี่ยงสูงที่ธนาคารจะไม่อนุมัติวงเงินกู้ ทั้งนี้แนะนำให้พิจารณาจากเงินเดือน ค่าใช้จ่ายต่อเดือนให้ดีก่อนตัดสินใจกู้เงิน

เงินเดือน 30,000 เลือกผ่อนซื้อบ้านยังไงดี

เงินเดือน 30,000 เลือกผ่อนซื้อบ้านยังไงดี

เงินเดือน 3 หมื่นซื้อบ้าน ควรเลือกผ่อนแบบไหนถึงจะกำลังพอดี? ทาง K-Property ขอแนะนำให้พิจารณา ดังนี้

1. ยอดผ่อนต้องไม่เกิน 40% ของเงินเดือน

โดยปกติแล้วธนาคารจะคำนวณความสามารถในการผ่อนเงินกู้ต่อเดือนสูงสุดอยู่ที่ 40% ของเงินเดือน แปลว่าเงินเดือน 30,000 บาท ยอดผ่อนชำระเงินกู้ต่อเดือนไม่ควรเกินกว่า 12,000 บาท ทั้งนี้แนะนำให้จัดสรรปันส่วนเงินเดือนให้เพียงพอก่อน โดยที่มียอดชำระเงินกู้ซื้อบ้านทุกเดือน แต่ไม่จำเป็นต้องชำระสูงสุดถึง 12,000 บาท ให้พิจารณาจากความจำเป็น และความพอดี โดยที่ไม่ต้องตึงมากจนเกินไป

2. ยอดผ่อนต่อเดือนต้องไม่สูงเกินไป

หลายๆ คนอาจมีความเชื่อว่ายิ่งยอดผ่อนเยอะๆ จะได้หมดหนี้เร็วๆ แต่ที่จริงแล้วยอดผ่อนชำระเงินกู้ของเดือนควรจะอยู่ที่กำลังพอดี ไม่สูงเกินไป เพราะหากกำหนดยอดผ่อนต่อเดือนมาก ยิ่งต้องเก็บเงินไว้ผ่อนจ่ายมาก อาจเกิดภาวะเครียด หรือภาวะเงินตึงมือมากเกินไปได้ ทั้งนี้แนะนำให้เลือกทำการกู้บ้านกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยคงที่ในช่วงแรก แล้วค่อยทำการรีไฟแนนซ์เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น

3. ขยันโปะ ลดต้น ลดดอก

การคิดดอกเบี้ยกู้บ้านมักใช้วิธีคิดแบบลดต้น ลดดอกเบี้ย ยิ่งเงินต้นเหลือน้อยลงเท่าไหร่ ดอกเบี้ยจะยิ่งน้อยลงไปตามนั้น ซึ่งในทุกๆ ครั้งที่เราชำระเงินกู้ เงินจะถูกแบ่งไปชำระในส่วนของดอกเบี้ยเงินกู้ก่อน แล้วหากเหลือจึงค่อยทำการตัดเงินต้น ดังนั้นยิ่งขยันโปะเงินเข้าไป แปลว่ายอดเงินต้น และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะยิ่งลดน้อยลงนั่นเอง

4. อย่าลืมรีไฟแนนซ์

รีไฟแนนซ์ คือ การยื่นขอสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารแห่งใหม่ที่มีดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารเก่า โดยปกติแล้วหากผ่อนบ้านไปเรื่อยๆ จากเดิมดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ประมาณ 3% ในปีถัดมาธนาคารอาจปรับดอกเบี้ยสูงขึ้นเป็น 4-6% ดังนั้นเพื่อให้เสียดอกเบี้ยน้อยลง ควรทำการรีไฟแนนซ์เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง แนะนำให้เปรียบเทียบดอกเบี้ยกับธนาคารอื่นๆ อย่างน้อย 2-3 แห่งเพื่อประกอบการตัดสินใจ

การกู้ซื้อบ้าน คือ การขอวงเงินกู้ระยะยาวจากธนาคาร โดยธนาคารจะเป็นผู้พิจารณาสถานะของผู้กู้ว่าเหมาะสม หรือมีความน่าจะเป็นที่จะสามารถชำระเงินกู้ครบตามระยะเวลาได้หรือไม่ และสำหรับผู้ที่มีเงินเดือน 30,000 ซื้อบ้านได้สูงสุดราคาเท่าไหร่นั้น จะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่างทั้งภาวะหนี้สินที่มีอยู่ ความมั่นคงในหน้าที่การงานต่างๆ โดยผู้กู้ควรวางแผนการเงินในอนาคตให้ดี กู้เงินเท่าที่จำเป็น และมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินเอาไว้ใช้ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิดนั่นเอง และสำหรับใครที่สนใจบ้านมือสอง สภาพดี ตกแต่งเรียบร้อย ราคาถูก แถมตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ สามารถเข้าไปลองเยี่ยมชมบ้านมือสองของทาง K-Property ได้เลย

​​