ทำไมต้องกู้ซื้อบ้าน
ในปัจจุบันด้วยสภาพเศรษฐกิจ เงินเดือน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มีมากขึ้น การซื้อบ้านซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาสูงจึงเป็นเรื่องยากที่จะซื้อด้วยเงินสด การเลือกกู้ซื้อบ้านจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่อยากมีบ้านเป็นของตนเอง แต่ยังไม่พร้อมที่จะซื้อด้วยเงินสดนั่นเอง
เช็กลิสต์ความพร้อม ก่อนกู้ซื้อบ้าน
ก่อนที่จะตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน ให้สำรวจตนเองก่อนว่ามีคุณสมบัติดังนี้หรือไม่ เพื่อให้การกู้เงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีโอกาสสำเร็จสูง มาลองทำเช็กความพร้อมกันก่อนได้เลย!
1. รายได้ที่มั่นคง
รายได้ที่มั่นคงนั้น นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ เพราะหากทำเรื่องกู้เงินเรียบร้อยแล้ว แต่ตกงาน หรือขาดรายได้ขึ้นมา ทำให้ไม่มีเงินผ่อนชำระได้ตามกำหนด จึงต้องทำการประเมินความเสี่ยงของตนเองก่อนว่ามีรายได้ที่มั่นคงหรือยัง หากเพิ่งเริ่มงาน แนะนำให้ทำงานไปสักพักนึงเสียก่อน แล้วค่อยทำการยื่นกู้ในช่วงที่หน้าที่การงานเริ่มมั่นคงแล้ว
2. เงินที่กู้ได้เพียงพอไหม
เงินเดือน 30,000 บาท กู้ซื้อบ้าน ซื้อคอนโดได้บางคนเท่านั้น เพราะแต่ละคนมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป ตามหลักโดยทั่วไปแล้วธนาคารจะเป็นผู้ประเมินความสามารถของผู้กู้ว่าสามารถชำระได้หรือไม่ ซึ่งตามหลักจะคิดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนสูงสุดต่อเดือน คือ 40% ของรายได้ต่อเดือน หรือพูดง่ายๆ ว่า หากคุณมีเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 ความสามารถในการผ่อนต่อเดือนสูงสุดจะอยู่ที่ 12,000 บาทต่อเดือนนั่นเอง (40% ของเงินเดือน 30,000 บาท)
3. มีหนี้สินอื่นๆ ที่ต้องจ่ายหรือไม่
นอกจากธนาคารจะประเมินว่าความสามารถในการผ่อนสูงสุดต่อเดือนคือเท่าไหร่แล้ว หนี้สินอื่นๆ ที่มีอยู่จะถูกนำมาประเมินด้วยเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่มีหนี้สินอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะมีเงินเดือน 30,000 บาท ก็อาจไม่ได้รับอนุมัติวงเงินกู้ หรือได้รับอนุมัติเงินกู้ในวงเงินที่ต่ำกว่าผู้ที่ไม่มีหนี้สินใดๆ เพิ่มเติม
4. มีเงินสำรองเพียงพอแล้วหรือยัง
สำรวจตนเองว่ามีเงินสำรอง ไว้ใช้ยามฉุกเฉินบ้างหรือไม่ ในการวางแผนกู้ซื้อบ้านควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เนื่องจากหากตกงานกะทันหัน หรือธุรกิจที่ทำอยู่หยุดชะงัก จะทำให้ขาดรายได้ทันที จึงควรมีเงินสำรองให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายนั่นเอง
5. เตรียมรับมือความเสี่ยงในอนาคตแล้วหรือยัง
ปัจจัยความเสี่ยงในอนาคตก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ไม่คาดคิดก่อนทำการกู้ หรือหลังจากกู้เรียบร้อยแล้ว เช่น การทำประกันสุขภาพ ประกันอัคคีภัย ประกันชีวิต หรือประกันรถ เป็นต้น การลดความเสี่ยงจะช่วยให้การกู้เงินระยะยาวครั้งนี้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะหากผ่อนไปได้สักพักหนึ่ง แล้วเกิดตรวจเจอโรคร้ายแรงที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง อาจส่งผลกับสถานภาพทางการเงินที่มีอยู่ก็เป็นได้
คำนวณ เงินเดือน 30,000 ต้องเลือกผ่อนซื้อบ้านเท่าไรกันแน่
เงินเดือน 30,000 ซื้อบ้านได้วงเงินกู้สูงสุดกี่บาทกันแน่? สำหรับวิธีการคำนวณแบบคร่าวๆ นั้น ทางธนาคารจะคิดจากความสามารถในการผ่อนสูงสุดต่อเดือน คือ 40% ของเงินเดือน แล้วคูณด้วย 150 จะเป็นจำนวนวงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ยที่สามารถทำได้ ทั้งนี้หากต้องการตัวเลขที่แน่ชัด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำให้ติดต่อทางเจ้าหน้าที่ K-Property ของธนาคารกสิกรไทยโดยตรง
ยกตัวอย่างการคำนวณ
เงินเดือน 30,000 บาท ความสามารถในการผ่อนสูงสุดต่อเดือน (40% ของเงินเดือน) จะอยู่ที่ 12,000 บาท
และนำ 12,000 มาคูณกับ 150 จะเท่ากับวงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,800,000 บาท
ตารางเปรียบเทียบ เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านเท่าไรดี
เงินเดือน 30,000 ซื้อบ้านได้สูงสุดกี่บาท สามารถซื้อบ้าน 4-5 ล้านได้หรือไม่? ทาง K-Property ได้รวบรวมตารางเงินเดือน พร้อมวงเงินกู้บ้านสูงสุดเอาไว้ให้แล้ว ขอเน้นย้ำว่าในตารางนี้ใช้เฉพาะกรณีที่ไม่มีหนี้สินอื่นๆ เพิ่มเติม
เลื่อนตารางเพื่อดูข้อมูล
เงินเดือน (บาท) |
วงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ย (บาท) |
15,000 |
900,000 |
20,000 |
1,200,000 |
30,000 |
1,800,000 |
50,000 |
3,000,000 |
75,000 |
4,500,000 |
100,000 |
6,000,000 |
150,000 |
9,000,000 |
200,000 |
12,000,000 |
ตารางเปรียบเทียบกรณีมีหนี้สิน กู้ซื้อบ้านเท่าไรดี
แล้วสำหรับกรณีที่มีหนี้สินร่วมด้วย สามารถกู้ซื้อบ้านเท่าไหร่ได้บ้าง? ยกตัวอย่างในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายที่ต้องผ่อนอยู่เดือนละ 5,000 บาท วงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ยที่สามารถทำได้จะอยู่ที่เท่าไหร่ ทาง K-Property ได้ทำตารางตัวอย่างเอาไว้ให้แล้ว ดังนี้
เลื่อนตารางเพื่อดูข้อมูล
เงินเดือน (บาท) |
ยอดที่ต้องผ่อนสินค้าอื่น เดือนละ (บาท) |
ความสามารถในการผ่อนสูงสุดเดือนละ (40% ของรายได้-หนี้สินที่มี) |
วงเงินกู้บ้านโดยเฉลี่ย (บาท) (40%ของรายได้-หนี้สินอื่น) คูณ 150 |
15,000 |
5,000 |
1,000 |
150,000 |
20,000 |
5,000 |
3,000 |
450,000 |
30,000 |
5,000 |
7,000 |
1,050,000 |
50,000 |
5,000 |
15,000 |
2,250,000 |
75,000 |
5,000 |
25,000 |
3,750,000 |
100,000 |
5,000 |
35,000 |
5,500,000 |
150,000 |
5,000 |
55,000 |
8,250,000 |
200,000 |
5,000 |
75,000 |
11,250,000 |
จากในตารางจะเห็นว่าหากเงินเดือน 15,000 – 30,000 บาท แล้วยังมีหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระอยู่อีกเดือนละ 5,000 บาทนั้น จะมีความเสี่ยงสูงที่ธนาคารจะไม่อนุมัติวงเงินกู้ ทั้งนี้แนะนำให้พิจารณาจากเงินเดือน ค่าใช้จ่ายต่อเดือนให้ดีก่อนตัดสินใจกู้เงิน
เงินเดือน 30,000 เลือกผ่อนซื้อบ้านยังไงดี
เงินเดือน 3 หมื่นซื้อบ้าน ควรเลือกผ่อนแบบไหนถึงจะกำลังพอดี? ทาง K-Property ขอแนะนำให้พิจารณา ดังนี้
1. ยอดผ่อนต้องไม่เกิน 40% ของเงินเดือน
โดยปกติแล้วธนาคารจะคำนวณความสามารถในการผ่อนเงินกู้ต่อเดือนสูงสุดอยู่ที่ 40% ของเงินเดือน แปลว่าเงินเดือน 30,000 บาท ยอดผ่อนชำระเงินกู้ต่อเดือนไม่ควรเกินกว่า 12,000 บาท ทั้งนี้แนะนำให้จัดสรรปันส่วนเงินเดือนให้เพียงพอก่อน โดยที่มียอดชำระเงินกู้ซื้อบ้านทุกเดือน แต่ไม่จำเป็นต้องชำระสูงสุดถึง 12,000 บาท ให้พิจารณาจากความจำเป็น และความพอดี โดยที่ไม่ต้องตึงมากจนเกินไป
2. ยอดผ่อนต่อเดือนต้องไม่สูงเกินไป
หลายๆ คนอาจมีความเชื่อว่ายิ่งยอดผ่อนเยอะๆ จะได้หมดหนี้เร็วๆ แต่ที่จริงแล้วยอดผ่อนชำระเงินกู้ของเดือนควรจะอยู่ที่กำลังพอดี ไม่สูงเกินไป เพราะหากกำหนดยอดผ่อนต่อเดือนมาก ยิ่งต้องเก็บเงินไว้ผ่อนจ่ายมาก อาจเกิดภาวะเครียด หรือภาวะเงินตึงมือมากเกินไปได้ ทั้งนี้แนะนำให้เลือกทำการกู้บ้านกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยคงที่ในช่วงแรก แล้วค่อยทำการรีไฟแนนซ์เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น
3. ขยันโปะ ลดต้น ลดดอก
การคิดดอกเบี้ยกู้บ้านมักใช้วิธีคิดแบบลดต้น ลดดอกเบี้ย ยิ่งเงินต้นเหลือน้อยลงเท่าไหร่ ดอกเบี้ยจะยิ่งน้อยลงไปตามนั้น ซึ่งในทุกๆ ครั้งที่เราชำระเงินกู้ เงินจะถูกแบ่งไปชำระในส่วนของดอกเบี้ยเงินกู้ก่อน แล้วหากเหลือจึงค่อยทำการตัดเงินต้น ดังนั้นยิ่งขยันโปะเงินเข้าไป แปลว่ายอดเงินต้น และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะยิ่งลดน้อยลงนั่นเอง
4. อย่าลืมรีไฟแนนซ์
รีไฟแนนซ์ คือ การยื่นขอสินเชื่อเงินกู้จากธนาคารแห่งใหม่ที่มีดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารเก่า โดยปกติแล้วหากผ่อนบ้านไปเรื่อยๆ จากเดิมดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ประมาณ 3% ในปีถัดมาธนาคารอาจปรับดอกเบี้ยสูงขึ้นเป็น 4-6% ดังนั้นเพื่อให้เสียดอกเบี้ยน้อยลง ควรทำการรีไฟแนนซ์เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง แนะนำให้เปรียบเทียบดอกเบี้ยกับธนาคารอื่นๆ อย่างน้อย 2-3 แห่งเพื่อประกอบการตัดสินใจ
การกู้ซื้อบ้าน คือ การขอวงเงินกู้ระยะยาวจากธนาคาร โดยธนาคารจะเป็นผู้พิจารณาสถานะของผู้กู้ว่าเหมาะสม หรือมีความน่าจะเป็นที่จะสามารถชำระเงินกู้ครบตามระยะเวลาได้หรือไม่ และสำหรับผู้ที่มีเงินเดือน 30,000 ซื้อบ้านได้สูงสุดราคาเท่าไหร่นั้น จะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่างทั้งภาวะหนี้สินที่มีอยู่ ความมั่นคงในหน้าที่การงานต่างๆ โดยผู้กู้ควรวางแผนการเงินในอนาคตให้ดี กู้เงินเท่าที่จำเป็น และมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินเอาไว้ใช้ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิดนั่นเอง และสำหรับใครที่สนใจบ้านมือสอง สภาพดี ตกแต่งเรียบร้อย ราคาถูก แถมตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ สามารถเข้าไปลองเยี่ยมชมบ้านมือสองของทาง K-Property ได้เลย