อสังหาพารวย เริ่มต้นธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตอย่างไรให้ออกมาปัง

ทำความรู้จักประเภทธุรกิจที่พักที่นิยมในไทย

ธุรกิจที่ให้บริการที่พักสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท และก็มีวิธีการแบ่งที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละตำรา แต่รูปแบบที่นิยมกันมากในไทย และผู้คนคุ้นเคย มีดังนี้

โรงแรม (Hotel)

โรงแรม หรือโฮเทล เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว โฮเทลเป็นที่พักให้บริการแบบมีหลายห้องในตึกสูงขึ้นไป หรือสูงปานกลาง โดยจะคิดราคาใช้บริการต่อคืน ในห้องพักจะมีห้องน้ำในตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโรงแรมที่ไปว่าครบครันมากน้อยแค่ไหน และส่วนใหญ่จะมีห้องรับประทานอาหารภายในตัวอาคารให้ใช้บริการ ซึ่งปกติก็จะใช้ไว้เป็นบุฟเฟต์อาหารเช้าหรือเย็น

โดยโรงแรมก็จะมีแยกย่อยออกไปอีกหลายประเภท เช่น โรงแรมเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Hotels) โรงแรมสนามบิน (Airport Hotels) หรือโรงแรมเน้นแขกพักประจำ (Residential Hotels) เป็นต้น

โฮสเทล (Hostel)

โฮสเทล เป็นที่พักที่คล้ายโรงแรม แต่มีขนาดเล็กกว่า และราคาถูกกว่า ซึ่งจะต่างกันที่ โฮสเทลจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับได้เท่าโฮเทล เพราะต้องการลดต้นทุนลง เช่น ห้องพักจะไม่มีห้องน้ำในตัว แต่จะมีเป็นห้องน้ำรวมแทน หรือการใช้เตียง 2 ชั้น แทนเตียง 2 ตัว เป็นต้น

และโฮสเทลยังสามารถเรียกได้อีกคำว่า B&B หรือ Bed and Breakfast เพราะจะเน้นการให้บริการที่พักพร้อมมื้อเช้าเป็นหลัก

รีสอร์ต (Resort)

รีสอร์ต คือ ที่พักขนาดใหญ่ เป็นหลังๆ ภายในพื้นที่จะมีหลายๆ หลังรวมกัน พร้อมกับห้องน้ำในตัวตามแต่ละหลัง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นอกจากนี้ ภายในรีสอร์ตจะมีบริการต่างๆ ให้ได้ใช้บริการ เช่น มีร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ สวน มีจักรยานให้ใช้บริการ หรือส่วนกลางสำหรับออกกำลังกาย เป็นต้น

วิลล่า (Villa)

วิลล่า คือ ที่พักที่ให้ความรู้สึกเป็นบ้านพักส่วนตัว ให้บรรยากาศเหมือนเราเป็นเจ้าของบ้านนั้นและจะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเสมือนอยู่บ้านตัวเอง ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ รวมถึงเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น

หนึ่งในที่พักรูปแบบวิลล่าที่ได้รับความนิยม คือ พูลวิลล่า (Pool villa) ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกับวิลล่าเลย แค่จะเป็นบ้านพักที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัวบริเวณหน้าบ้าน ส่วนใหญ่จะนิยมทำกันมากในต่างจังหวัด เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติ

โฮมสเตย์ (Homestay)

โฮมสเตย์ เป็นที่พักในลักษณะของบ้านอาศัยทั่วๆ ไป ที่เจ้าของบ้านอาจนำบ้านตัวเองมาดัดแปลงให้เป็นที่พักแรมค้างคืน หรืออาจจะสร้างใหม่ และตกแต่งให้เหมาะสม ซึ่งจุดเด่นของโฮมสเตย์ คือ จะเป็นการพักแรมกับเจ้าของบ้าน จะให้ความรู้สึกได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของท้องถิ่น และความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่นั้น ผู้เข้าพักจะรู้สึกซึมซับวิถีชีวิตต่างๆ และยังอาจได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ จากเจ้าของบ้านนั่นเอง

วางแผนก่อนเริ่มทำธุรกิจโรงแรม

เมื่อตัดสินใจประกอบธุรกิจโรงแรมแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มทำธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจออกมาได้อย่างราบรื่นหรือมีข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของการหาข้อมูล การเตรียมเอกสาร การหาผู้รับเหมาที่เชื่อถือได้ การออกแบบสไตล์โรงแรม สไตล์การตกแต่งของห้องพัก หรือการจัดการภายในธุรกิจ โดยสิ่งจำเป็นที่ต้องวางแผน มีดังนี้

• งบประมาณ : ควรวางแผนงบประมาณ วางแผนด้านการเงินให้ดี จัดสรรงบประมาณต่างๆ อย่างละเอียด และต้องมีความรอบคอบสูง ตั้งงบประมาณแยกเป็นหมวดหมู่ เพราะเรื่องตัวเลขเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
• กลุ่มเป้าหมาย : เราต้องตั้งกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้าที่เราต้องการเข้าถึง แขกที่จะมาพักคือใคร อาจจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยก็ได้ หรือเป็นนักธุรกิจ ซึ่งอาจจะต้องมีห้องสัมมนาคอยรองรับไว้ เมื่อรู้กลุ่มเป้าหมายก็จะสามารถออกแบบธุรกิจที่พักให้ไปในทิศทางนั้นๆ ได้ง่ายมากขึ้น
• กฏหมาย : ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจรีสอร์ต นอกจากต้องทำเรื่องขอใบอนุญาตประกอบกิจการแล้ว ยังมีในเรื่องของกฎหมายแรงงาน กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค และยังมีกฎหมายที่จำเป็นต้องรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจอีกมาก เพื่อกันปัญหาที่ตามมาควรศึกษาให้ดีก่อน
• ระบบการทำงานภายใน : การจัดการดูแลโรงแรม หรือรีสอร์ต ควรจะมีระบบระเบียบในการจ้างพนักงาน และระบบป้องกันการทุจริตเอาไว้

เลือกทำเลที่ตั้งของธุรกิจโรงแรมหรือรีสอร์ต

พื้นที่และทำเลถือเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจที่พักอาศัย หากเลือกทำเลดี โอกาสในการเติบโตของธุรกิจโรงแรมนั้นจะประสบผลสำเร็จมากขึ้นตามไปด้วย อาจจะเลือกที่ตั้งที่อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว หรือสถานที่สำคัญ และสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย หรือรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น โดยต้องเลือกหาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ทางธนาคารกสิกรไทย มีทรัพย์สินมือสองทำเลดี ทั้งที่ดินว่างเปล่า โรงแรม อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ต อาคารพาณิชย์ หรือคอนโดมิเนียม สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายตามความต้องการ

นอกจากนี้ อย่าลืมที่สำรวจในละแวกใกล้เคียงด้วยว่ามีโรงแรม หรือรีสอร์ตอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งไหม การจะสร้างที่พักหนึ่งขึ้นมาในที่ที่มีคู่แข่งอยู่แล้วหลายแห่งแล้ว อาจจะยากในการเข้าถึงลูกค้าให้มาเข้าพัก เว้นแต่ว่าเป็นช่วง High Season ที่มีนักท่องเที่ยวในปริมาณมาก ซึ่งในส่วนนี้คุณจำเป็นต้องรักษามาตรฐานการบริการ หรือความสะอาดให้ดี เพื่อให้ที่พักสร้างความประทับใจและทำให้แขกต้องการเข้ามาใช้บริการที่พักของคุณอย่างต่อเนื่อง

อย่ามองข้าม! ระบบสาธารณูปโภค

ในการทำธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจรีสอร์ตก็ตาม จะต้องคำนึงถึงเรื่องไฟฟ้าและน้ำประปาว่าสามารถเข้าถึงที่พักได้ไหม หากเลือกทำเลดีแต่ไฟฟ้าหรือน้ำประปาเข้าไม่ถึง อาจจะทำให้เสียค่าเดินประปาไฟฟ้าเอง ดังนั้น การเลือกทำเลที่มีแหล่งไฟฟ้า และน้ำประปาผ่านอยู่แล้ว จะสะดวก และประหยัดงบได้มากกว่า

ให้ความสำคัญกับดีไซน์ของโรงแรมหรือรีสอร์ต

ดีไซน์ของโรงแรมหรือรีสอร์ต รวมถึงภายในห้องพักนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกพัก จากรูปห้องพัก ที่พักสวย มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน โดยจุดเด่นเหล่านี้จะมาช่วยในเรื่องของการตลาดได้ดี เพราะถ้าลูกค้าชอบ ลูกค้าจะเก็บภาพ แล้วโพสต์ลงโซเชียล เป็นการโปรโมทที่พักไปในตัว จะทำให้ที่พักของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งในการออกแบบสามารถทำได้หลายแบบ มีดังนี้

• จ้างสถาปนิกหรือนักออกแบบมืออาชีพ: ต้นทุนนั้นอาจจะสูงหน่อย แต่จะช่วยประหยัดเวลา แถมได้สไตล์ตรงกับที่คุณต้องการ จะได้รับคำแนะนำในการเสริมให้ที่พักดูดีมากขึ้น ซึ่งนักออกแบบจะมีประสบการณ์ รู้ว่าสไตล์ไหนที่ช่วยเพิ่ม และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามา
• หาแบบต่างๆ ได้ตามเว็บไซต์ที่แจกฟรี: ปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการดาวน์โหลดแบบห้องพักได้ฟรีๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ขนาดในแบบที่แสดงกับขนาดพื้นที่ห้องพักของคุณอาจจะไม่เหมาะกัน ซึ่งอาจทำให้ประยุกต์รูปแบบการตกแต่งหลายอย่าง
• บ้านน็อคดาวน์: หรือบ้านสำเร็จรูป จะเหมาะกับธุรกิจรีสอร์ตมาก เพราะมีความสะดวกรวดเร็ว แต่ต้องเช็กคุณภาพของบ้านให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านนั้นมีความคงทนจริง
• รีสอร์ตมือสอง: ปัจจุบันมีการซื้อขายรีสอร์ตกันมากมาย ซึ่งสามารถนำมาตกแต่งเพิ่มเติมทีหลังได้อีกต่างหาก แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนซื้อ ค้นจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ทางธนาคารกสิกรไทยมีช่องทางสำหรับผู้ที่สนใจ โดยสามารถค้นหาที่ช่องค้นหาประเภททรัพย์มือสองประเภทรีสอร์ตได้ ซึ่งมีให้เลือกในหลายๆ ทำเล และมีราคาที่หลากหลาย โดยรีสอร์ตมือสองที่น่าสนใจ มีดังนี้

มองหาเงินทุนในการทำธุรกิจโรงแรมจากหลายแหล่ง

เงินทุนในการทำธุรกิจโรงแรมนั้นสามารถมาได้จากหลายช่องทาง เช่น จากเงินทุนส่วนตัว ซึ่งหากมีในส่วนนี้อยู่แล้ว ก็สบายใจได้ แค่จำเป็นต้องวางแผนการลงทุนให้รอบคอบ โดยอาจกำหนดวงเงินของค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนให้ชัดเจน

และในกรณีที่ไม่มีทุน อาจจะทำการกู้กับธนาคาร ซึ่งธนาคารจะมีสินเชื่อสำหรับการกู้เพื่อสร้างโรงแรมโดยเฉพาะ โดยจะอยู่ในประเภทสำหรับผู้ประกอบการ

การกู้สินเชื่อธุรกิจกับธนาคารหรือสถาบันการเงินนับว่าเป็นการกู้เงิน SME ในระบบ ซึ่งกฎหมายจะมีการรับรองว่ามีการกู้ยืมจริง มีกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามกฏหมาย มีการกำหนดระยะเวลาชำระคืนตามความเหมาะสมของธุรกิจ โดยเงื่อนไขจะเป็นไปตามที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนด

โดยเอกสารที่จำเป็นสำหรับการทำสินเชื่อ มีดังนี้

• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอกู้และคู่สมรสผู้ขอกู้
• สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอกู้และคู่สมรสผู้ขอกู้
• สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - นามสกุลของผู้ขอกู้และคู่สมรสผู้ขอกู้ (ถ้ามี)
• สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบสำคัญหย่า ใบมรณะบัตรของคู่สมรส (ถ้ามี)
• สำเนาทะเบียนการค้า และ / หรือ เอกสารทางราชการอื่นๆ

ดำเนินการเปิดธุรกิจที่พักให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ก่อนที่จะเปิดธุรกิจโรงแรมได้นั้นจะต้องทำดำเนินการทางกฎหมายก่อน ต้องมีการทำเรื่องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจการโรงแรม เพื่อไม่ให้ขัดต่อ พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547 ซึ่งในการขอใบอนุญาตจะมีทั้งในกรณีของธุรกิจที่เป็นโรงแรมและที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมแตกต่างกันไป

ซึ่งลักษณะของที่พักที่ไม่ใช่โรงแรม ได้แก่

• มีห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง
• แขกที่พักไม่เกิน 20 คน
• ลักษณะเป็นการประกอบกิจการหารายได้เสริม
• แจ้งนายทะเบียนทราบตามที่กำหนดแล้ว

โดยธุรกิจที่พักที่จะมีลักษณะนี้ เช่น วิลล่า หรือโฮมสเตย์

เอกสารที่ต้องเตรียม

ในการขอใบอนุญาตการทำธุรกิจทั้งธุรกิจที่เป็นโรงแรม และที่พักที่ไม่ใช่โรงแรม เช่น วิลล่า หรือโฮมสเตย์ จะใช้เอกสารใกล้เคียงกัน โดยมีดังนี้

• สำเนาบัตรประชาชน (ในกรณีที่เปิดธุรกิจในนามนิติบุคคล สามารถใช้ของผู้แทนนิติบุคคลได้)
• ทะเบียนบ้าน และสำเนาทะเบียนบ้าน
• หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองที่ดิน
• สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลไม่เกิน 3 เดือน (ในกรณีที่เปิดธุรกิจในนามนิติบุคคล)
• หลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของอาคาร/หนังสือแสดงความยินยอมให้ใช้อาคาร (ในกรณีที่เปิดธุรกิจที่พักที่ไม่ใช่โรงแรม)
• หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์/สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (ในกรณีต้องการเปิดธุรกิจโรงแรมแบบบุคคลธรรมดา แต่มอบหมายให้คนอื่นดำเนินการแทน)
• แบบแปลน และแผนผังของที่พัก (ในกรณีที่เปิดธุรกิจโรงแรม จำเป็นต้องมีรายการประกอบแปลงแผนผังอาคารโรงแรมที่วิศวกร และสถาปนิกที่ได้รับอนุญาตให้ลงชื่อรับรอง)
• ใบอนุญาตตามกฎหมายควบคุมอาคาร / ใบรับรองการตรวจสอบสภาพอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร (ในกรณีที่เปิดโรงแรมตั้งอยู่ในเขตบังคับใช้ พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522)
• ใบรับรองการตรวจสอบอาคารว่ามีความปลอดภัย (ในกรณีเปิดธุรกิจโรงแรม ที่ตั้งอยู่ในที่ที่ไม่มีกฎหมายควบคุมอาคารใช้บังคับ)
• แผนที่ตั้งโรงแรมโดยสังเขป (ในกรณีการเปิดธุรกิจโรงแรม)
• ภาพถ่ายอาคาร (ในกรณีเปิดธุรกิจโรงแรม ซึ่งมีการดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร)
• รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ในกรณีเปิดธุรกิจโรงแรม ที่มีห้องพัก 80 ห้องขึ้นไป หรือตั้งอยู่ในเขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อม)

ขั้นตอน

สำหรับขั้นตอนในการเปิดธุรกิจโรงแรม ทั้งในนามบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล และการเปิดธุรกิจที่ไม่ใช่โรงแรม จะมีขั้นตอนโดยรวมดังนี้

• ผู้ขอรับใบอนุญาตมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข และยื่นคำร้องขอใบอนุญาต พร้อมเอกสารให้ครบถ้วน
• เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล และสถานที่ (ในกรณีธุรกิจที่ไม่ใช่โรงแรมจะมีการอนุมัติและลงนามโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 40 วัน)
• แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ (ในกรณีธุรกิจโรงแรม)
• เสนอต่อนายทะเบียน (ในกรณีธุรกิจโรงแรม โดยหากไม่ผ่านอนุญาต ผู้ขอจะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับธุรกิจโรงแรมพิจารณา)
• แจ้งคำวินิจฉัยให้ผู้ขอใบอนุญาตทราบ (ในกรณีธุรกิจโรงแรม)

ติดต่อผู้รับเหมา และเริ่มดำเนินการก่อสร้าง

คุณสามารถจ้างผู้รับเหมาหรือจะหาคนงานมาทำก็ได้ และจำเป็นต้องมาดูการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าการก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น ตามแบบแผนที่วางไว้ นอกจากนี้ ต้องคำนึงถึงการวางระบบสายไฟ การติดตั้งระบบควบคุมไฟด้วย

ความฝันในการทำธุรกิจโรงแรมนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงเข้าใจขั้นตอนต่างๆ หรือแนวคิดเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรม แล้ววางแผนอย่างรอบคอบตามที่ในบทความนี้ได้นำเสนอ คุณก็สามารถบริหารธุรกิจโรงแรม หรือแม้กระทั่งธุรกิจรีสอร์ตได้สบายๆ ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือต้องมีการวางแผนก่อนเริ่มทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งงบประมาณ การเลือกที่ทำเลดีดี การออกแบบห้องพัก หรือแม้กระทั่งกฎหมายที่เกี่ยวกับธุรกิจที่พักต่างๆ ที่ควรรู้อีกด้วย หากต้องการให้ความฝันในการทำธุรกิจโรงแรมนั้นเป็นจริงๆ คุณต้องมองให้รอบด้าน และหาข้อมูลให้มากๆ เท่านี้ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลแล้ว ถ้าสนใจในการลงทุนทำโรงแรมหรือรีสอร์ต สามารถเข้าไปเลือกดูทรัพย์จากธนาคารกสิกรไทยได้ ซึ่งมีทรัพย์หลากหลายประเภท ตั้งแต่บ้าน ที่ดิน อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ต หรืออื่นๆ ที่จะสามารถนำมาทำธุรกิจที่พัก แล้วแต่ว่าแบบใดเหมาะกับความต้องการ