ข้อควรรู้ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจโกดังให้เช่า
ก่อนเป็นเจ้าของธุรกิจลงทุนอสังหาฯ ด้วยการสร้างโกดังให้เช่านั้น ต้องทราบก่อนว่าการมีที่ดินอย่างเดียวอาจไม่พอ เพราะการจะสร้างธุรกิจคลังสินค้าให้เช่านี้จะต้องเข้าใจก่อนว่าในทำเลที่ดินบริเวณนั้น อยู่ใกล้จุดสำคัญอะไรบ้าง ควรจะสร้างโกดังประเภทใด รูปแบบใด ให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายและทำรายได้อย่างมั่นคง
ในหัวข้อนี้จะพามาดูสิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้ก่อนจะลงทุนสร้างโกดังให้เช่ากัน ว่าโกดังมีรูปแบบใดบ้าง เหมาะกับทำเลที่ดินประเภทไหน และจะเลือกที่ดินเพื่อธุรกิจให้เช่าโกดังอย่างไรให้เหมาะสม รวมถึงเรื่องการทำสัญญาเช่าต่างๆ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องรู้ก่อนลงทุน
ประเภทธุรกิจโกดัง
ธุรกิจโกดังให้เช่าไม่ได้ทำหน้าที่แค่เก็บสินค้าไว้เท่านั้น แต่ยังสามารถเก็บวัตถุดิบของสด และยังสามารถเป็นเหมือนเป็นที่พักสินค้าระหว่างการนำส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง จะใช้ทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับประเภทและรูปแบบของโกดังนั้นๆ ซึ่งในหัวข้อนี้จะอธิบายให้เข้าใจว่าโกดังแต่ละประเภทนั้นมีหน้าที่อะไร และแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
โกดังสินค้าสาธารณะ
โกดังสินค้าสาธารณะหรือคลังสินค้าสาธารณะ เป็นธุรกิจโกดังให้เช่าประเภทที่ไม่ได้มีเจ้าของเพียงคนเดียว เป็นโกดังที่มีบุคคลหลายคนเข้ามาเช่าพื้นที่เพื่อเก็บสินค้าร่วมกัน เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง ที่ต้องการพื้นที่เก็บสินค้ามากเป็นพิเศษในบางช่วง เช่น ช่วงเทศกาลสำคัญที่ต้องการเก็บสินค้าจำนวนมากๆ นั่นเอง
โกดังสินค้าแบบศูนย์กระจายสินค้า
ธุรกิจโกดังให้เช่าประเภทนี้มีหน้าที่กระจายสินค้าเป็นหลัก นั่นแปลว่าสินค้าจะเข้ามาและออกไปไวมาก เพราะโกดังประเภทนี้จะเป็นทั้งพื้นที่เก็บสินค้าและศูนย์กลางที่ส่งต่อสินค้าระหว่างผู้ผลิตสินค้าไปยังผู้บริโภค โกดังหรือคลังสินค้าประเภทนี้จึงต้องถูกออกแบบให้สามารถเคลื่อนย้ายเปลี่ยนถ่ายสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
โกดังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ
ธุรกิจโกดังให้เช่าประเภทนี้ทำหน้าที่สำหรับเก็บของสด หรือสินค้าที่ต้องการอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม เช่น อาหารสด อาหารแช่แข็ง เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรือดอกไม้ เพื่อคงความสดและคุณภาพให้กับสินค้าตลอดการส่งต่อไปยังผู้บริโภคนั่นเอง
โกดังสินค้าที่รอการตรวจสอบ
โกดังสินค้าที่รอการตรวจสอบ หรือเรียกว่าคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) โกดังสินค้าประเภทนี้จะทำหน้าจัดเก็บหรือพักสินค้านำเข้าต่างๆ เพื่อรอการตรวจสอบจากกรมศุลกากร ผ่านการควบคุมดูแลโดยรัฐบาล ซึ่งเป็นโกดังที่มักจะอยู่ใกล้กับสนามบิน หรือท่าเรือ เพราะสามารถขนย้ายสินค้ามาพักไว้ได้อย่างสะดวก เพื่อรอการจัดเก็บภาษีให้เรียบร้อย แล้วจึงดำเนินการส่งสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือผู้อุปโภคเป็นลำดับต่อไป
โกดังสินค้าแบบบริหารจัดการ
โกดังสินค้าแบบบริหารจัดการเป็นธุรกิจโกดังให้เช่าที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากลงทุนสร้างโกดังให้เช่า เพราะโกดังประเภทนี้เหมาะกับการทำธุรกิจ E-commerce อย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่ผู้คนจับจ่ายซื้อของออนไลน์กันอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจออฟไลน์หลายๆ เจ้าปรับตัวหันมาขายสินค้าช่องทางออนไลน์กันมากขึ้นด้วย และสำหรับหน้าที่สำคัญของโกดังสินค้าแบบบริหารจัดการ คือ การทำหน้าที่เก็บสินค้าที่บริษัทผู้ค้าส่งมา เมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามา ก็จะมีฝ่ายบริหารจัดการสต็อกสินค้า และแพ็กสินค้าเพื่อส่งถึงมือผู้บริโภค หรืออุปโภคต่อไป เป็นการจัดการสินค้าแทนบริษัทผู้ค้าทั้งหมด
การเลือกทำเลที่ดิน
ปัจจัยที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ของการทำธุรกิจโกดังให้เช่า คือ ทำเลที่ดิน เพราะทำเลที่ดินมีส่วนสำคัญต่อกลุ่มเป้าหมายที่จะมาใช้บริการ ถ้าทำเลที่ตั้งโกดังสามารถคมนาคมได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ก็จะส่งผลต่อยอดผู้ใช้งาน ยอดขาย และกำไรในอนาคตได้
ในหัวข้อนี้จะมาอธิบายถึงเทคนิคและวิธีการเลือกทำเลที่ดินสำหรับสร้างโกดังให้เช่ากันว่า ทำเลที่ดินแบบไหนที่ดี เหมาะสมกับการเป็นธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า เพื่อให้คุณสามารถที่จะเริ่มต้นธุรกิจสร้างโกดังให้เช่าสินค้าได้ประสบความสำเร็จ
อยู่ใกล้เส้นทางคมนาคมที่เดินทางสะดวก
ธุรกิจโกดังให้เช่าจะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดี จะต้องตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางได้ง่ายและสะดวก รถไม่ติด ใช้เวลาเดินทางรวดเร็ว เชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักได้ไว ทางเข้า-ออกต้องสะดวกเนื่องจากรถที่เข้าออกบ่อยๆ ส่วนใหญ่มักเป็นรถบรรทุกสินค้า ที่มีขนาดใหญ่ ขนาดของถนนจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการคมนาคมเช่นกัน หรือสามารถตรวจสอบได้ ดังนี้
- ระยะทางระหว่างโกดังไปถนนสายหลักหรือทางด่วน
- การจราจรของรถในละแวกนั้น ได้แก่ ความหนาแน่น และระยะเวลาในชั่วโมงเร่งด่วน
- การขนส่งสาธารณะ
อยู่ใกล้ซัพพลายเออร์หรือลูกค้า
ก่อนจะเลือกทำเลที่ตั้งเพื่อสร้างโกดังให้เช่าจะต้องคำนึงถึงซัพพลายเออร์หรือลูกค้าเป็นปัจจัยสำคัญด้วย เพราะยิ่งระยะทางที่ขนส่งสินค้าระหว่างซัพพลายเออร์ใกล้กับโกดังมากเท่าไหร่ ยิ่งลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้มากเท่านั้น และยังประหยัดเวลากว่าเท่าตัว
อยู่ใกล้แหล่งบริการต่างๆ
ปัจจัยการเลือกทำเลสำหรับสร้างโกดังให้เช่าที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่หลายคนลืมนึกถึง นั่นก็คือทำเลที่ตั้งโกดังต้องอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ธนาคาร ตลาด ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ รวมถึง ในย่านนั้นๆ ควรมีที่พักอาศัย เพื่อให้พนักงานสามารถมาทำงานพร้อมกับใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกและยังสามารถติดต่อประสานงานธุรกรรมต่างๆ ได้สะดวกขึ้นด้วย
สภาพแวดล้อมรอบๆ
ถึงแม้ทำเลที่ตั้งธุรกิจโกดังให้เช่าจะเหมาะสมจากหลายๆ ปัจจัยที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น การคมนาคม อยู่ใกล้ซัพพลายเออร์ ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญแล้ว อีกปัจจัยสำคัญก่อนจะตัดสินใจสร้างโกดังให้เช่าจะต้องนึกถึงเรื่องสภาพแวดล้อมท้องถิ่น เช่น สภาพอากาศ ภัยพิบัติตามธรรมชาติ เพราะหากเลือกทำเลที่เกิดภัยพิบัติบ่อยครั้ง เช่น น้ำท่วมทุกปี จะสามารถส่งผลเสียต่อธุรกิจอย่างแน่นอน
รูปแบบอาคารโกดัง
ก่อนสร้างโกดังให้เช่าต้องเข้าใจก่อนว่ารูปแบบของธุรกิจโกดังให้เช่ามีพื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่ 500 ตารางเมตร ไปจนถึง 5,000 ตารางเมตรเลยทีเดียว สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
โกดังในรูปแบบแบ่งกั้นเป็นห้อง (Attached)
โกดังในรูปแบบแบ่งกั้นเป็นห้อง เป็นธุรกิจโกดังให้เช่าในรูปแบบแบ่งห้องให้เช่า คล้ายกับบ้านทาวน์โฮม การสร้างโกดังให้เช่าในรูปแบบนี้ใช้พื้นที่ไม่มาก ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการพื้นที่เก็บหรือพักสินค้าเท่านั้น ไม่ได้ใช้งานในส่วนของพื้นที่ภายนอกมาก
โกดังในรูปแบบแบ่งกั้นแบบมีพื้นที่โดยรอบ (Detached)
โกดังในรูปแบบแบ่งกั้นแบบมีพื้นที่โดยรอบ หรือที่เรียกว่าโกดังหรือคลังสินค้าแบบ Stand-alone คือธุรกิจโกดังให้เช่าที่มีพื้นที่โดยรอบ มีรั้วล้อมรอบมิดชิด โกดังประเภทนี้จึงมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งมักจะมีพื้นที่เริ่มต้นที่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไปจนถึง 5,000 ตารางเมตร
เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะเริ่มต้นสร้างธุรกิจโกดังให้เช่า จะต้องวางแผนธุรกิจก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะมาใช้บริการโกดังเป็นใครบ้าง เป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ เพื่อที่จะได้เลือกประเภทของโกดังให้เหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้านั่นเอง
ค่าใช้จ่ายสำหรับการสร้างโกดังให้เช่า
เมื่อวางแผนและเลือกทำเลเพื่อก่อสร้างโกดังให้เช่าได้แล้วนั้น สิ่งที่ต้องวางแผนต่อมาซึ่งสำคัญมากเช่นกัน คือ เรื่องค่าใช้จ่ายในการสร้างโกดัง ที่ไม่ได้มีเพียงค่าก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังมีในเรื่องของภาษีและค่าเสื่อมที่ต้องบำรุงรักษาในอนาคต โดยมีดังนี้
ราคาก่อสร้างโกดัง
ราคาก่อสร้างโกดังให้เช่าขึ้นอยู่กับประเภทและขนาดของโกดังด้วย ซึ่งสามารถพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายก่อนสร้าง ว่ากลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าที่จะมาใช้บริการจะเป็นใคร หากเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก หรือ SME ก็ใช้งบประมาณน้อยกว่า หากเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ก็จะใช้ต้นทุนมากกว่า ด้วยขนาดของโกดังและออฟฟิศที่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่และความสวยงามด้วย และเมื่อสร้างโกดังเสร็จแล้วสิ่งที่ตามมาด้วยก็คือภาษีและค่าซ่อมบำรุงอาคารในอนาคต ที่เจ้าของธุรกิจโกดังให้เช่าจะต้องวางแผนให้ดี
ภาษี
ภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโกดังให้เช่าที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้ ได้แก่
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ส่วนนี้ทางโกดังต้องหักให้กับผู้เช่า
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากค่าเช่า อากรแสตมป์คิดเป็น 0.1% ของค่าเช่าตลอดสัญญา
- ภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง เริ่มต้นที่ 0.3% ไปจนถึง 0.7% ตามมูลค่าของสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งสำหรับภาษีแต่ละส่วนที่ต้องชำระนั้นขึ้นอยู่กับว่าทางเจ้าของโกดังจะตกลงกับผู้เช่าว่าใครจะต้องเป็นฝ่ายชำระ
ค่าซ่อมบำรุง
ปัจจัยสำคัญเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เจ้าของธุรกิจต้องคำนวณให้ดีก่อนสร้างโกดังให้เช่า คือ เรื่องค่าซ่อมบำรุง ค่าเสื่อมของอาคาร ซึ่งตามหลักของบัญชีจะคิดค่าเสื่อมอยู่ที่ 20 ปี
หากอยากรู้ว่ามูลค่าเสื่อมต่อปีที่ต้องจ่ายเป็นเท่าไหร่ก็สามารถคำนวณเบื้องต้นได้ โดยนำราคาสิ่งปลูกสร้างหารกับ 20 ปีได้เลย ก็จะได้ราคาค่าเสื่อมที่ต้องซ่อมบำรุง
สัญญาเกี่ยวกับการทำธุรกิจสร้างโกดังให้เช่า
สัญญาเช่า คือ สิ่งสำหรับระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่าเอง เพราะฉะนั้น ก่อนจะเซ็นสัญญาจึงต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบและอ่านให้ครบทุกตัวอักษร ทั้งในส่วนของค่าเช่าต่อเดือนที่ตกลงกัน ค่ามัดจำ รวมถึงระยะเวลาสัญญาเช่า โดยลักษณะของสัญญาเช่าโกดังสามารถแบ่งได้ ดังนี้
สัญญาเช่าโกดังในระยะสั้น
สัญญาเช่าระยะสั้นส่วนใหญ่มักไม่เกิน 3 ปี ซึ่งกรณีนี้ไม่ต้องไปจดทะเบียนที่กรมที่ดิน โดยการปล่อยเช่าระยะสั้นก็มีข้อดีกับเจ้าของธุรกิจตรงที่ เมื่อหมดสัญญาเช่าสามารถปรับขึ้นราคาค่าเช่าตามภาวะเงินเฟ้อได้ ส่วนกับผู้เช่าก็มีข้อดีที่มีสภาพคล่องในการโยกย้าย
สัญญาเช่าโกดังในระยะยาว
สัญญาเช่าระยะยาว คือ การทำสัญญาเช่าที่มากกว่า 3 ปีขึ้นไป จะต้องไปจดทะเบียนที่กรมที่ดิน ซึ่งมีข้อดีกับเจ้าของธุรกิจตรงที่มีรายได้ระยะยาวที่แน่นอน ไม่ต้องหาผู้เช่าใหม่ ส่วนข้อดีสำหรับผู้เช่าก็คืออาจต่อรองราคาค่าเช่าได้ ส่วนใหญ่เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคง
การมองหากลุ่มเป้าหมาย
ธุรกิจโกดังให้เช่าจะทำอย่างไรได้บ้างให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักและเข้ามาเป็นลูกค้าของเรา วิธีนั้นก็คือการตลาด ที่จะประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้บริการกับเรา ซึ่งสามารถทำได้หลายช่องทาง ได้แก่
- Social Media เป็นช่องทางที่สามารถประชาสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ที่สำคัญไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงใช้คีย์เวิร์ดกับแฮชแท็กที่เป็นชื่อทำเลละแวกนั้น ก็จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นได้มากขึ้น
- Website เป็นช่องทางที่จะส่งถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการหาธุรกิจโกดังให้เช่าได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งข้อดีที่น่าสนใจคือสามารถสำรวจราคาตลาดและคู่แข่งได้ด้วย
- การปิดป้ายประกาศ วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้ามาเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องค่าทำป้าย ค่าปริ้นใบปลิว หรือจัดทำป้ายโฆษณาไปตั้งไว้ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักมากขึ้น
- จ้างนายหน้า เป็นวิธีที่อาจใช้ค่าใช้จ่ายสูงแต่ได้ผู้เช่ารวดเร็ว และจ่ายก็ต่อเมื่อได้ลูกค้าแล้ว จึงถือว่าเป็นอีกวิธีที่คุ้มค่าในการหากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจโกดังให้เช่า
- การบอกต่อ วิธีนี้ไม่เสียเงินจริง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ช้ามาก และอาจกระจายข่าวได้น้อย แต่ข้อดีคือการบอกปากต่อปากจะสร้างความเชื่อมั่น ทำให้โกดังมีความน่าเชื่อถือ
ข้อดีของการเปิดให้บริการธุรกิจโกดังให้เช่า
สำหรับใครที่กำลังสนใจต้องการลงทุนในธุรกิจโกดังให้เช่าอยู่ ต้องบอกว่าธุรกิจสร้างโกดังให้เช่ามีข้อดีมากมาย เหมาะกับทั้งคนที่เริ่มต้นธุรกิจหรือใครที่ต้องการลงทุนทำธุรกิจเพิ่มเป็นอย่างยิ่ง เพราะธุรกิจประเภทนี้ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกเท่าไหร่นัก สรุปข้อดี ได้ดังนี้
- ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ที่ส่วนใหญ่มักไม่ได้มีเงินทุนเยอะมากพอที่จะสร้างโกดังเก็บสินค้าเป็นของตัวเอง การเช่าโกดังหรือคลังเก็บสินค้าจึงเป็นทางออกที่ตอบโจทย์และใช้ต้นทุนน้อยกว่า
- มีรายรับต่อเนื่องระยะยาว ขั้นต่ำ 3 ปี เพราะการเช่าพื้นที่โกดังจะต้องมีสัญญาเช่าที่แน่ชัดระบุไว้ การลงทุนทำธุรกิจโกดังให้เช่าจึงสามารถทำรายได้ต่อเนื่องเป็นรายรับที่มั่นคงอีกช่องทาง
- ใช้เวลาก่อสร้างไม่นาน สามารถเริ่มธุรกิจได้ไวกว่าธุรกิจประเภทอื่นๆ เช่น ธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจหอพัก
เลือกซื้อที่ดินว่างเปล่ากับธนาคารดีอย่างไร ทำไมถึงน่าสนใจ
หากไม่มีที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพในการเริ่มต้นทำธุรกิจโกดังให้เช่า อีกทางเลือกที่น่าสนใจก็คือการเลือกซื้อที่ดินเปล่ากับทางธนาคาร ทำให้มั่นใจได้ว่าได้ที่ดินในทำเลที่ดี ส่งผลกำไรดีต่อการสร้างโกดังให้เช่า แถมมีความน่าเชื่อถือ และยังอาจได้โปรโมชันดีๆ อีกด้วย
มีที่ดินให้เลือกมากมาย พร้อมทำเลศักยภาพสูง
ทำให้เจ้าของธุรกิจโกดังให้เช่าสามารถเลือกที่ดินทำเลศักยภาพได้หลากหลาย ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและแผนธุรกิจที่วางไว้ได้อย่างลงตัว โดยไม่เหนื่อยตามหาที่ดินเอง
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ดินเปล่ากับแหล่งซื้อขายที่มีความน่าเชื่อถือ ธนาคารกสิกรไทยมีที่ดินมือสองที่น่าสนใจให้เลือกมากมาย เช่น
โปรโมชันส่งเสริมการขายน่าสนใจ
นอกจากจะได้พบกับที่ดินทำเลศักยภาพได้ง่ายกว่าแล้ว ยังมีโปรโมชันดีๆ มากมาย ที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจโกดังให้เช่าประหยัดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนได้ และได้ที่ดินไปต่อยอดธุรกิจในราคาที่คุ้มค่า ส่งผลให้ผลกำไรเพิ่มขึ้น
เจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์เป็นผู้ให้คำแนะนำธุรกิจ
มีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการหาทำเลที่ดินศักยภาพ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีเทคนิคดีๆ ที่สามารถไปต่อยอดธุรกิจได้ และไม่เหนื่อยกับการหาทำเลที่ดินสำหรับสร้างโกดังให้เช่า
ในการทำธุรกิจโกดังให้เช่ามีข้อดีมากมาย ทั้งในเรื่องของการสร้างรายรับได้ต่อเนื่องมั่นคง เริ่มต้นใช้เงินลงทุนน้อยกว่าบางธุรกิจ ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ ที่สำคัญคือใช้เวลาก่อสร้างน้อยสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้เร็ว ซึ่งจะทำธุรกิจโกดังให้เช่าให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอันดับต้นๆ ก็คือเรื่องของทำเลที่ดิน การคมนาคม สภาพแวดล้อม รวมถึงสถานที่สำคัญในย่านทำเลนั้น ซึ่งบางครั้งที่ดินที่คุณมีอยู่อาจจะไม่ตอบโจทย์การทำธุรกิจเท่าไหร่นัก การหาที่ดินกับทางธนาคารจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะสะดวก รวดเร็ว มั่นใจได้ และได้รับคำปรึกษาเพื่อหาที่ดินทำเลศักยภาพอีกด้วย ใครที่สนใจหาที่ดินเปล่า โกดังสินค้า บ้านมือสอง คอนโด รวมถึงทรัพย์อื่นๆ ที่น่าสนใจจากธนาคารกสิกรไทย สามาถค้นหาได้ที่ K-Property