ข้อดีของการซื้อที่ดินเปล่า
- ความเสี่ยงในการขาดทุนต่ำ เนื่องจากไม่มีค่าเสื่อมราคาที่ดินจากการปลูกสร้างอาคาร หรือที่อยู่
- สามารถเป็นรายได้ Passive Income จากลงทุนหลายประเภท เช่น การปล่อยเช่าทำการเกษตร ตลาดนัด อุตสาหกรรมโรงงาน หรือทำรีสอร์ทที่สามารถดูแลจัดการได้ง่าย ลงทุนน้อย
- เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า สามารถทำกำไรได้ดี เนื่องจากที่ดินมักมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และมีโอกาสในการเติบโตสูงกว่าทรัพย์สินรูปแบบอื่น
- ทำเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
ข้อจำกัดของการซื้อที่ดินเปล่า
- หากที่ดินทำเลไม่ดี ใกล้กับสภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษ หรืออันตราย เช่น ใกล้กับฟาร์มปศุสัตว์ แหล่งน้ำทิ้ง หรือใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูง อาจทำให้การซื้อขายต่อเป็นไปได้ยาก เกิดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง
- การลงทุนซื้อที่ดินเปล่าเป็นการลงทุนระยะยาว จึงต้องอาศัยเงินเย็น หรือเงินที่ไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และในกรณีที่ที่ดินไม่ตรงกับเงื่อนไขของธนาคาร ก็จะไม่สามารถขอสินเชื่อเพื่อทำการกู้ได้
จุดเด่นของที่ดินเปล่าในโซนต่างๆ
กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
กรุงเทพ และปริมณฑลเป็นศูนย์รวมความเจริญทางเศรษฐกิจ และสังคม เป็นโซนที่มีประชากรอาศัยอยู่มาก จุดเด่นของพื้นที่โซนนี้มีดังนี้
- เป็นโซนทำเลทองทางธุรกิจ เพราะเป็นย่านที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากมีบริษัทชั้นนำ ธนาคาร และหน่วยงานภาครัฐเป็นจำนวนมาก
- มีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก เข้าถึงง่ายกว่าภูมิภาคอื่นๆ เช่น รถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดินในการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
- เป็นพื้นที่ที่รวบรวมความสะดวกแบบครบวงจร ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐและเอกชน
- ดินในโซนกรุงเทพ และปริมณฑลมีดัชนีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส และทุกปี
ตัวอย่างโซนทำเลทองในกรุงเทพ ได้แก่ โซนสีลม และสาทร หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ CBD (Central Business District) โดยมีพื้นที่กิจกรรมทางสังคม และเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เป็นแหล่งของสำนักงาน บริษัท สถาบันการเงิน และสถาบันการศึกษาสำหรับชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่ดินโซนสีลมจะอยู่ที่ 2.55 ล้านบาท/ตารางวา และโซนสาทรราคาที่ดินอยู่ที่ 2.2-2.25 ล้านบาท/ตารางวา
ภาคกลาง
ภาคกลางเป็นภาคที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นที่นิยมเชิงประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมในระดับโลก ด้วยสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว การคมนาคมที่สะดวก นอกจากนี้ ภาคกลางยังมีความอุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศ เต็มไปด้วยแหล่งแม่น้ำ และพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่ เหมาะแก่การทำการเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว
ที่ดินภาคกลางจึงเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ที่ดินโซนนี้เหมาะกับการลงทุนหลายประเภท ทั้งซื้อเพื่อปล่อยเช่า ปลูกอาคารสำนักงาน หรือเพื่ออยู่อาศัย และเป็นมรดกให้กับลูกหลานในอนาคตอีกด้วย ตัวอย่างที่ดินในโซนภาคกลางที่ราคาดี ได้แก่ ปทุมธานี ที่ราคาที่ดินจะอยู่ที่ 1,000-100,000 บาท/ตารางวา
ภาคเหนือ
ภาคเหนือมีภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ภูเขาสูง และต้นกำเนิดแม่น้ำหลายสาย มีจุดเด่นด้านสถานที่ท่องเที่ยว อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ อากาศเย็นสบาย และบริสุทธิ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยว และอยู่อาศัย
ยกตัวอย่างในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นที่รู้จักมากที่สุดในสายตาชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวชาวไทย เนื่องจากการคมนาคมที่สะดวก สามารถเข้าถึงแหล่งชุมชน รวมทั้งสภาพที่ดิน และเนื้อที่ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่อการทำเกษตร สามารถนำไปต่อยอดได้สูง ทำให้การซื้อขายที่ดินในเชียงใหม่เป็นที่น่าลงทุนอย่างมาก โดยราคาที่ดินจะอยู่ที่ 100-250,000 บาท/ตารางวา
ภาคตะวันออก
ภาคตะวันออกมีพื้นที่ด้านหนึ่งติดทะเล ส่วนอีกด้านติดภูเขา และมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น พัทยา บางแสน เกาะล้าน เป็นต้น
ที่ดินในพัทยาเหมาะแก่การลงทุนเพื่อปล่อยเช่าให้กับนักท่องเที่ยว และเก็งกำไรในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง ที่ดินโซนนี้ยังเป็นที่น่าจับตา เพราะมีมูลค่าสูงถึง 400,000 บาท/ตารางวา นอกจากนี้ เขตฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ยังมีกฎหมายผลักดัน EEC หนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจุดเด่นทางด้านการเกษตร สถานที่ท่องเที่ยว มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรม และประเพณีที่แตกต่างกันไปตามแต่ละจังหวัด รวมทั้งอัตราค่าครองชีพต่ำ จึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ
ที่ดินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่น่าลงทุนในการซื้อเพื่ออยู่อาศัย เก็งกำไรในอนาคต ด้วยสภาพอากาศ และสภาพภูมิศาสตร์ที่เอื้อต่อการเพาะปลูก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และล้อมรอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก โซนจังหวัดทำเลทองที่ราคาดี ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น บุรีรัมย์ และแถบโคราช มีราคาที่ดินอยู่ที่ 100-130,000 บาท/ ตารางวา
ภาคใต้
ภาคใต้เป็นภาคที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ในการทำอุตสาหกรรมยางพารา และการประมง นอกจากนี้ ภาคใต้มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว ทั้งทะเล และภูเขา เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวหลายชาติ ซึ่งที่ดินเปล่าในภาคใต้เหมาะทั้งซื้อเพื่อปล่อยเช่า เก็งกำไร และปลูกสิ่งก่อสร้างเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย
โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ที่มีการเติบโตของราคาที่ดินย่านป่าตองเฉลี่ยสูงถึง 200-300 ล้านบาทต่อไร่ หรือ 3,200-200,000 บาท/ ตารางวา เป็นจังหวัดที่ที่ดินมีราคาสูงสุดในภาค โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติ และโซนพื้นที่ในภาคใต้ที่มีราคาดีมักจะอยู่ไกลจากตัวเมือง และชายหาด เนื่องจากพื้นที่ใกล้กับชายหาดมีราคาสูง อีกทั้งพื้นที่ที่ออกห่างจากตัวเมืองมีความสงบ เหมาะแก่การอยู่อาศัยมากกว่า
คำแนะนำสำหรับการเลือกซื้อที่ดิน
- ที่ทำเล เป็นหลักพื้นฐานในการเลือกที่ดินที่สำคัญ เพราะส่งผลต่อโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยที่ทำเลควรเป็นที่ที่มีทางเข้าออกสะดวก ห่างจากแหล่งชุมชนไม่เกิน 10 กิโลเมตร ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ร้านค้า โรงเรียน โรงพยาบาล เป็นต้น รวมทั้งมีระบบน้ำประปา และระบบไฟฟ้า หรือมีถนนตัดผ่าน
- รูปทรงของที่ดิน ควรเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพราะเหมาะแก่การใช้สอย คำนวณสร้างสิ่งก่อสร้าง และอาคารต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะที่ดินที่มีหน้ากว้างและติดถนน จะยิ่งมีมูลค่าสูง
- ขนาดของที่ดิน ไม่ควรใหญ่จนเกินไป เพราะทำให้แลกเปลี่ยนมือได้ยาก ใช้เงินลงทุนสูง ขณะที่พื้นที่เล็ก ทำให้ใช้สอยที่ดินได้อย่างจำกัด และต่อยอดได้ยาก
- สภาพที่ดิน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณา หากที่ดินมีลักษณะอ่อนยวบ อาจไม่เหมาะแก่การปลูกสิ่งก่อสร้าง เสี่ยงต่อการทรุดตัวในอนาคต และหากเป็นที่ดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ก็สามารถตักหน้าดินขายแทนการทำเกษตรกรรมได้
- ศึกษาประวัติของที่ดินก่อนซื้อ เพื่อป้องกันปัญหาที่ตามมาภายหลัง เช่น ที่ดินมีปัญหาเคยติดจำนอง หรือถูกอายัด เป็นสุสาน หรือโรงฆ่าสัตว์มาก่อน โดยผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบกับสำนักงานที่ดิน กรมโยธาธิการ และผังเมือง เพื่อให้สามารถทำการซื้อขายที่ดินเปล่าได้อย่างถูกต้อง
- ตรวจสอบราคาประเมินที่ดิน ทั้งจากราคาซื้อขาย ราคาตลาด และราคาประเมินทุนทรัพย์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ขั้นตอนการตรวจสอบราคาประเมินที่ดินด้วยตัวเอง รู้ไว้ดีอย่างไร!
ซื้อที่ดินกับกสิกรไทยดีกว่าอย่างไร
ซื้อขายที่ดินกับกสิกรไทยมีข้อดีหลายประการ เพราะมีที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ให้เลือกทุกจังหวัดคลอบคลุมทั่วไทย และมีช่วงราคาที่ดินหลากหลายให้เลือกตามงบประมาณที่ต้องการ พร้อมข้อมูลเชิงลึก สะดวกผู้ซื้อ ไม่ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูล หรือปรึกษากับเจ้าหน้าที่ผ่านทาง Live Chat และสามารถนัดหมายเข้าชมทรัพย์ได้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลตามวันเวลาที่ต้องการ เรียกได้ว่า คัด-คุ้ม-ครบ จบที่เดียวที่ K-Property