​ความขัดแย้งทางผลประโยชน์

          ​พนักงานต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวที่ขัดแย้งกับผลประโยชน์ของธนาคารหรือของลูกค้าธนาคาร การกำหนดนโยบายของธนาคารในส่วนที่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นตั้งอยู่บนหลักการที่ว่าพนักงานต้องตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้าและของธนาคารเท่านั้น ทั้งนี้ พนักงานต้องไม่ยอมให้เหตุผลในส่วนของตนเองหรือบุคคลในครอบครัวของตนมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจที่ทำให้เบี่ยงเบนไปจากหลักการข้างต้น

  • พนักงานต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ส่วนตนกับธนาคารหรือกับลูกค้า อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ขึ้น พนักงานหรือธนาคารควรดำเนินการเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ได้ปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อลูกค้าและธนาคาร โดยการเปิดเผยข้อมูล หรือปฏิเสธการดำเนินการใด ๆ หรือดำเนินการอย่างอื่นตามความเหมาะสม ธนาคารจะไม่ดำเนินการใด ๆ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของธนาคารเหนือกว่าผลประโยชน์ของลูกค้าอย่างไม่ยุติธรรม
  • ในกรณีที่พนักงานหรือสมาชิกในครอบครัวของพนักงานมีผลประโยชน์ทางตรงหรือทางอ้อมที่ขัดแย้งหรืออาจขัดแย้งกับผลประโยชน์ของธนาคาร พนักงานจะต้องแจ้งให้ผู้กำกับดูแลการปฏิบัติงาน (Compliance Officer) หรือผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจอื่น ๆ ทราบล่วงหน้า และพนักงานดังกล่าวไม่ควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์นั้น เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารตัดสินใจด้วยความเที่ยงธรรม
  • การที่พนักงานมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมภายนอกองค์กร หรือดำรงตำแหน่งภายนอกธนาคาร อาทิ การเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน หรือเป็นพนักงานในองค์กรอื่น กิจกรรมนั้น ๆ จะต้องไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับลูกค้าธนาคารไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และจะต้องไม่ทำให้เกิดผลเสียหายต่อธนาคาร รวมทั้งจะต้องไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลนั้นๆ
  • ธนาคารห้ามพนักงานรับทำงานเป็นพนักงานประจำแบบเต็มเวลา หรือพนักงานชั่วคราวในองค์กรอื่นที่ดำเนินกิจการในลักษณะเดียวกันกับธนาคาร หรือกิจการที่แข่งขันกับธนาคาร หรือกิจการที่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกับธนาคาร​