-
บุคคลธรรมดา นำค่าที่พักและร้านอาหาร ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท ในช่วงวันที่ 29 ต.ค.-15 ธ.ค. 68 อย่าลืม ขอใบกำกับภาษีเป็นหลักฐาน
-
นิติบุคคล นำค่าจัดอบรมสัมมนาให้พนักงานภายในประเทศ มาลดหย่อนได้สูงสุด 2 เท่า ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 15 ธ.ค. 68 รวมถึง นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจโรงแรม นำค่าต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายกิจการ มาลดหย่อนได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. 68 – 31 มี.ค. 69
-
หากลดหย่อนภาษีด้วยการพักผ่อนแล้ว อยากลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมแนะนำ กองทุน ThaiESG หรือ RMF รวมถึงประกันชีวิตที่มีความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
เริ่มแล้วกับมาตรการเที่ยวดีมีคืน ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา ใครยังไม่รู้ว่ามาตรการนี้จะช่วยให้มีเงินในกระเป๋ามากขึ้นอย่างไร ติดตามบทความและคำแนะนำดีๆจาก K WEALTH ในบทความนี้
สรุปเงื่อนไขมาตรการเที่ยวดีมีคืน
มาตรการเที่ยวดีมีคืน คือ มาตรการที่ภาครัฐออกมาเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับมาตรการนี้ 3 กลุ่ม ดังนี้
-
สำหรับบุคคลธรรมดา ที่เสียภาษีและยื่นแบบ ภ.ง.ด. จะใช้สิทธินำค่าที่พักและร้านอาหาร ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงสุด 30,000 บาท ในช่วงวันที่ 29 ต.ค.-15 ธ.ค. 68 มีรายละเอียดตามตาราง
หลักฐานในการลดหย่อน / ใช้บริการที่ไหน
|
เมืองหลัก* (ลดหย่อน 1 เท่า)
|
เมืองรอง* (ลดหย่อน 1.5 เท่า)
|
| E TAX Invoice หรือ ใบกำกับภาษีกระดาษ
(10,000 บาทแรก)
| 10,000
| 15,000
|
| E TAX Invoice เท่านั้น
(10,000 บาทถัดไป)
| 10,000
| 15,000
|
- สำหรับผู้ประกอบการ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
-
นิติบุคคล (บริษัท ห้างหุ้นส่วน) ทั่วไป ใช้สิทธินำค่าใช้จ่ายจัดอบรม ให้กับพนักงานลูกจ้างภายในประเทศ โดยเมืองหลัก หักลดหย่อนได้ 1.5 เท่า และเมืองรอง หักลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนเงินที่จ่ายจริง ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. -15 ธ.ค. 68
-
นิติบุคคล (บริษัท ห้างหุ้นส่วน) ที่ประกอบกิจการโรงแรม นำค่าใช้จ่ายที่ใช้ต่อเติม เปลี่ยนแปลง หรือขยายกิจการ ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. 68 – 31 มี.ค. 69
ข้อควรรู้ก่อนใช้สิทธิมาตรการ เที่ยวดีมีคืน สำหรับบุคคลธรรมดา
ก่อนใช้สิทธิ
- เช็กว่า เป็นค่าที่พัก หรือ ค่าบริการร้านอาหาร หรือไม่ กับ ผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือไม่ ถ้าตอบว่าใช่ทั้ง 2 ข้อ และอยู่ในช่วงระยะเวลาของมาตรการ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
- ออกใบกำกับภาษีกระดาษ หรือ E TAX Invoice ถ้าเลือกได้ แนะนำให้เลือก E TAX Invoice เพื่อเพิ่มสิทธิในการลดหย่อนภาษีได้ โดยต้องลงวันที่ในใบกำกับภาษี ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 15 ธ.ค. 68 เท่านั้น (ใช้ยื่นแบบ ภ.ง.ด. ต้นปี 69)
หลังใช้สิทธิ
อย่าลืมเก็บหลักฐานไว้ใช้ประกอบการยื่นภาษีภายใน มี.ค. 69 โดยแยกค่าที่พัก / ค่าบริการร้านอาหาร ตามเมืองหลัก เมืองรอง (มีผลต่อสิทธิลดหย่อน)
คำถามที่พบบ่อย
- เมืองรองมีที่ไหนบ้าง
-
เมืองหลัก(ทั้งจังหวัด) มีที่ไหนบ้าง
มี 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม
-
ร้านอาหารจำเป็นต้องเป็นร้านอาหารภายในโรงแรมไหม
ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารภายในโรงแรม
-
ร้านอาหารต้องมีภูมิลำเนาต่างจากภูมิลำเนาที่มีทะเบียนบ้านไหม
ไม่มีข้อกำหนด ดังนั้น ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สามารถใช้สิทธิได้ พิจารณาจาก สถานที่ตั้งของร้านอาหารว่าเป็นเมืองหลัก เมืองรอง เพื่อใช้กำหนดสิทธิลดหย่อนภาษีว่าจะ 1 เท่า หรือ 1.5 เท่า ของค่าใช้จ่ายจริง
อยากลดหย่อนภาษีเพิ่ม อย่าลืม ThaiESG RMF ประกันชีวิต
ช่วงท้ายปลายปีแบบนี้ นอกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวแล้ว หากยังต้องการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่านกองทุน ThaiESG RMF และเบี้ยประกันชีวิตได้ โดย K WEALTH แนะนำกองทุนลดหย่อนภาษี แบ่งเป็น
- กองทุน ThaiESG มีให้เลือกตามระดับความเสี่ยง โดยเสี่ยงต่ำ ไป สูง ดังนี้
- K-ESGSI-ThaiESG เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว
- K-BL30-ThaiESG เน้นลงทุนทั้งตราสารหนี้และหุ้น โดยลงทุนหุ้นไม่เกิน 30% และ
- K-TNZ-ThaiESG เน้นลงทุนในหุ้นเน้นสร้างความยั่งยืน และอยู่ในกลุ่มดัชนี SET100 ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นไทยกลุ่มอื่นๆ
- นอกจากนี้ยังมีกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เช่น กองทุน K-WPULTIRMF ที่เน้นลงทุนทั้งตราสารหนี้และหุ้น โดยสัดส่วนหุ้นมีประมาณ 85% และ
- ประกันชีวิตที่มีความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป เช่น ประกันชีวิต 11/3 ที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้อีกในช่วงปลายปี