หุ้นเทคโนโลยีที่ว่าดี ลงทุนตอนนี้สายไปหรือยัง?

กลุ่มเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนีหุ้นทั่วโลกทำให้คนส่วนมากสนใจเข้าลงทุน หากใครยังไม่ได้ลงทุน ลงทุนช่วงนี้ยังไม่สายเกินไป แต่ให้ถือลงทุนระยะยาว 5 ปีขึ้นไป

อะไรทำให้หุ้นเทคโนโลยีสร้างผลตอบแทนดีในช่วงที่ผ่านมา

ในระยะยาวหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนีหุ้นทั่วโลกที่ 12.46% ต่อปี vs 8.55% ต่อปี* หากย้อนกลับไปเฉพาะช่วง 10 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินมีส่วนในการผลักดันราคาหุ้นเทคโนโลยีจากดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำช่วงปี 2010 – 2020 แต่ยังมีปัจจัยเชิงพื้นฐานที่สำคัญ อาทิ การลงทุนวิจัยและพัฒนาที่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีมีความสามารถแข่งขันเหนือคู่แข่ง (Competitive advantage) นำมาสู่การสร้างรายได้จากสินค้าหรือบริการที่ตรงใจผู้บริโภคและเกิดการใช้ซ้ำแนะนำบอกต่อจนรายได้เติบโตต่อเนื่อง แต่คงมีคำถามจากนักลงทุนจำนวนไม่น้อยว่าราคาหุ้นตอนนี้แพงไปแล้วหรือยัง?



เคล็ดลับในการเลือกลงทุนหุ้นเทคโนโลยีให้เงินเติบโตระยะยาว

ก่อนจะไปตอบคำถามนั้น เรามาดูว่าจากสถิติในอดีตหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีไม่เคยซื้อขายถูกกว่าดัชนีหุ้นโลก โดยซื้อขายบนค่าเฉลี่ย P/E 24.1 เท่า vs ดัชนีหุ้นโลก 17.4 เท่า* ดังนั้นหนึ่งในเคล็ดลับการเข้าลงทุนหุ้นเทคโนโลยีคือการซื้อหุ้นในช่วงเวลาที่ “ราคาสมเหตุสมผล” แต่การจะทำเช่นนั้นได้เราต้องมีความสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆของบริษัทจดทะเบียน เช่น กลยุทธ์ทางธุรกิจ ฐานลูกค้า ต้นทุนต่างๆ หรือแม้แต่วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร การเป็นนักลงทุนรายย่อยจึงค่อนข้างเสียเปรียบและมีต้นทุนสูงในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ นอกเหนือจากนี้การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศปัจจุบันหากมีกำไรและนำเงินกลับประเทศไทยไม่ว่าจะปีใดต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยอีกนะ ดังนั้นการลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) ที่มีบริษัทจัดการลงทุนและทีมงานระดับโลกคอยคัดสรรหุ้นให้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับนักลงทุนชาวไทย





* ที่มา Bloomberg ข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 20 ปี (1 ก.ย. 2546 - 31 ส.ค. 2566) MSCI World IT Index เป็นตัวแทนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และ MSCI ACWI Index เป็นตัวแทนหุ้นทั่วโลก



Threadneedle กองทุนระดับโลกเชี่ยวชาญหุ้นเทคโนโลยี

ล่าสุด KAsset ได้เสนอขายกองทุน K-GTECH ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Threadneedle (Lux) Global Technology, Class IU USD จุดเด่นกองทุนคือเน้นคัดเลือกลงทุนหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลกที่มีการเติบโตโดดเด่นแต่ราคายังสมเหตุสมผลอยู่ (Growth-At-a-Reasonable Price: GARP) จำนวน 50-80 ตัว บริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีมากกว่า 35 ปี และผลการดำเนินงานล่าสุดได้รับ Overall Morningstar Rating 5 ดาว ในกลุ่ม EAA Fund Sector Equity Technology (ข้อมูล Morningstar ณ 31 ส.ค. 2566)



ใจหนึ่งก็กลัว แต่ก็ไม่อยากพลาดโอกาสทำไงดี?

ปัจจุบัน KBank ยังมีมุมมองเป็นกลางต่อหุ้นทั่วโลก โดยเชื่อว่าการคัดสรรหุ้น (stock selection) ในภาวะตลาดเช่นนี้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากนักลงทุนมีสัดส่วนหุ้นสหรัฐฯ อยู่แล้ว โดยเฉพาะ K-USXNDQ ที่มีน้ำหนักหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ 7 ตัวแรกมากกว่า 1 ใน 3 หากมีกำไรอาจจะพิจารณาสับเปลี่ยนบางส่วนมาลงทุน K-GTECH เนื่องจากเรามองว่าหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆยังมีโอกาสการลงทุนอยู่และราคาหุ้นยังสมเหตุสมผล จึงตอบคำถามนักลงทุนว่า “ลงทุนหุ้นเทคฯตอนนี้ยังไม่สายไป แต่ให้เน้นลงทุนระยะยาว 5 ปีขึ้นไป” สำหรับนักลงทุนใหม่สามารถเข้าซื้อได้เช่นกัน โดยแนะนำสัดส่วนไม่เกิน 5% ของพอร์ตการลงทุน แต่หากเป็นไปได้แนะนำการลงทุนแบบ DCA ทุกๆไตรมาสอย่างมีวินัยจะช่วยลดความผันผวนของ NAV ลงได้ จากบทความ K Wealth ก่อนหน้า “ไม่ต้องจับจังหวะลงทุนก็ได้ผลตอบแทนดีกว่าถือเงินสดในระยะยาว” ชี้ให้เห็นว่าแม้เราจะลงทุนในจังหวะแย่ที่สุด (จุดสูงสุดของแต่ละปี) ก็ยังสร้างผลตอบแทนมากกว่าการถือเงินสดไว้ในระยะยาว



ผู้เขียน

K WEALTH Trainer สุกฤษฎิ์ กิตติธนโสภณ
Back to top