คู่มือประกันโรคร้ายแรงสำหรับมือใหม่

ประกันโรคร้ายแรงคืออะไร โรคอะไรที่ครอบคลุมบ้าง และควรเลือกอย่างไร บทความนี้มีวิธีเลือกประกันโรคร้ายแรงที่เหมาะกับตัวเองและคนที่รัก

• โรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจ หลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงและใช้ระยะเวลาในการรักษานานหลายปี


• ประกันโรคร้ายแรงจะช่วยดูแลและแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการรักษาหรือให้เป็นเงินก้อนเมื่อตรวจพบโรคร้าย ทำให้หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและสามารถมุ่งเน้นไปที่การรักษาได้อย่างเต็มที่




ในปัจจุบัน คนไทยมีแนวโน้มเป็นโรคร้ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งโรคร้ายแรงต่างๆ ถือเป็นเรื่องไม่ไกลตัวอีกต่อไป เพราะอาจเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่หวานจัด เค็มจัด หรือไขมันสูง ความเครียดจากการทำงาน หรืออาจได้รับสารพิษจากมลภาวะแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งโรคร้ายแรงอันดับต้นๆ ที่คนไทยเป็นมากที่สุด จะเป็นโรคอะไรบ้าง และค่ารักษาพยาบาลจะแพงแค่ไหน มาดูกัน



โรคร้ายแรง

โรคมะเร็ง


เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 และสถิติล่าสุดระบุว่ามีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 139,206 คนต่อปีและมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งประมาณ 84,073 คนต่อปี


ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็งเริ่มตั้งแต่ 50,000 – 1,000,000 บาท หรือมากกว่านั้น อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของการรักษาและระยะของโรค


โรคหัวใจ
ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคหัวใจในโรงพยาบาลเอกชนไทยมีตั้งแต่ 18,000 – 950,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของการรักษา


โรคหลอดเลือดสมอง
ค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 110,000 ถึง 800,000 บาท

นี่เป็นแค่ตัวอย่างโรคร้ายอันดับต้นๆ เท่านั้น ยังมีโรคร้ายอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้ไกลตัวเราเลย ดังนั้นจึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค การใช้ชีวิตให้เหมาะสม เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม เราควรวางแผนรับมือกับโรคร้ายเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ


การทำประกันโรคร้ายแรงจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญ ที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ป่วยสามารถมุ่งเน้นไปที่การรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาด้านการเงิน



ประกันโรคร้ายแรง

ประกันโรคร้ายแรงแบ่งออกเป็น 2 แบบ

แบบที่ 1 เบิกเป็นค่ารักษาต่อครั้ง เหมือนกับประกันสุขภาพทั่วไป โดยคุ้มครองโรคร้ายแรงตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์


แบบที่ 2 ได้รับเป็นเงินก้อน เมื่อตรวจเจอโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ก็สามารถใช้เงินก้อนนี้มาช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าผ่าตัด รวมถึงใช้เป็นเงินรักษาตัวอย่างต่อเนื่องหลังออกจากโรงพยาบาลแล้วได้อีกด้วย


ประกันโรคร้ายแรงมีหลากหลายแบบ สามารถเลือกแบบที่ต้องการ เลือกความคุ้มครอง หรือเบี้ยประกันได้ มีไว้อุ่นใจกว่า ขอแนะนำแบบประกันที่ตอบโจทย์เรื่องโรคร้ายแรงจากธนาคารกสิกรไทย


แบบประกันโรคร้ายแรงไม่เคลมมีคืน

• คุ้มครองโรคร้ายแรง (มะเร็ง หัวใจ สมอง) ทุกระยะ รับเงินก้อน สูงสุด 1 ลบ. (ทั้งระยะเริ่มต้น-รุนแรง)

• หากไม่เป็นโรคร้าย และไม่มีการเคลม มีเงินคืนให้ทุกๆ 5 ปี จำนวน 3 ครั้ง (ปีที่ 5, 10, 15)

• เบี้ยประกันคงที่ ไม่ปรับขึ้นตามอายุ โดยเบี้ยรายเดือนเริ่มต้น 203 บาท (ตัวอย่างเบี้ยประกันเพศชาย อายุ 35 ปี แผน 3 แสนบาท)

• ชำระเบี้ย 15 ปี รับความคุ้มครอง 15 ปี

• เลือกชำระเบี้ยประกันได้ทั้งรายปี หรือจะทยอยจ่ายรายเดือนได้

• ลดหย่อนภาษีได้ ทั้งเบี้ยประกันชีวิตและเบี้ยประกันสุขภาพโรคร้ายแรง

• สมัครง่ายผ่านออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงตอบคำถามสุขภาพสั้น 3 ข้อ

• สมัครได้ตั้งแต่อายุ 21 – 55 ปี

• เหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรง หากเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงมีเงินก้อนไว้ใช้ดูแลตัวเอง และ "ไม่ต้องการจ่ายเบี้ยทิ้งเปล่า" หากไม่เคลมมีเงินคืน


นอกจากนี้ ค่าเบี้ยประกันโรคร้ายแรงยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับค่าเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท


ตัวอย่าง: ความคุ้มครองโรคร้ายแรง เมื่อเทียบกับเบี้ยประกันที่จ่าย



ตัวอย่าง กรณีผู้หญิง อายุ 40 ปี
จ่ายเบี้ยปีแรกไป 16,849.50 บาท
ปีที่ 2 พบว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลาม ได้รับเงินก้อน 1 ล้านบาท
ใช้จ่ายค่ารักษา Targeted Therapy จำนวน 8 แสนบาท ส่วนที่เหลือ 2 แสนบาทใช้ดูแลตัวเองหลังออกจากโรงพยาบาล


จะเห็นได้ว่าประกันโรคร้ายแรงมีความสำคัญอย่างมาก จากตัวอย่างข้างต้น จ่ายเบี้ยแค่หลักหมื่นแต่คุ้มครองถึงหลักล้าน และหากไม่ได้เป็นโรคร้าย ไม่เคลมก็มีเงินคืนทุกๆ 5 ปีอีกด้วย เป็นความคุ้มค่าที่ไม่ควรมองข้าม เพราะโรคร้ายไม่ได้อยู่ไกลตัวเราอีกต่อไป


คำเตือน : โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง


รับประกันโดย บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต


ขอขอบคุณข้อมูลจาก :

• เมืองไทยประกันชีวิต



คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH
Back to top