หมดปัญหาเดือนชนเดือน! กับวิธีเก็บเงิน ทำตามได้ง่ายๆ ได้ผลจริง

ลองดูวิธีการเก็บเงินที่ง่ายและมีประสิทธิภาพเหล่านี้เพื่อให้ออมเงินได้มากขึ้นและมีสุขภาพการเงินที่ดี พร้อมเคล็ดลับที่ช่วยให้การออมเงินของทุกคนเป็นเรื่องง่ายและสำเร็จในทุกเดือน ดังนี้

1. แบ่งบัญชีให้ชัดเจน

การแบ่งบัญชีเพื่อจัดการค่าใช้จ่ายช่วยให้ควบคุมงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น เป็นวิธีเก็บเงินที่ทำให้การติดตามการใช้จ่าย รวมถึงการวางแผนการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น มาดูกันว่าการแบ่งบัญชีทำได้อย่างไรบ้าง

บัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวัน

บัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวันเป็นบัญชีที่ใช้จัดการค่าใช้จ่ายทั่วไปที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่คงที่ มักมีการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้แบ่งเงินสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวันเป็นประมาณ 50% ของรายรับทั้งหมด

คนที่มีเดือน 30,000 บาท ควรแบ่งเงินประมาณ 50% หรือ 15,000 บาทสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวัน การจัดการกับค่าใช้จ่ายประจำวันจะช่วยให้มีเงินเหลือเก็บได้ดียิ่งขึ้น

บัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายประจำเดือน

บัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายประจำเดือนเป็นบัญชีที่ใช้จัดการกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกเดือน โดยปกติแล้วจะเป็นค่าใช้จ่ายที่คงที่และไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ค่าบ้าน ค่าบัตรเครดิต ค่าประกันสุขภาพ วิธีเก็บเงินให้อยู่ ทำได้ง่ายๆ ด้วยการแบ่งเงินสำหรับค่าใช้จ่ายประจำเดือนเป็นประมาณ 30% ของรายรับทั้งหมด

หากรายรับทั้งหมดคือ 30,000 บาท ควรจัดสรรให้กับบัญชีนี้ประมาณ 9,000 บาทต่อเดือน การแยกบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายประจำเดือนช่วยให้ติดตามและควบคุมค่าใช้จ่ายที่คงที่ได้ดีขึ้น

บัญชีสำหรับเงินออม

บัญชีสำหรับเงินออม เป็นบัญชีที่ใช้สำหรับการเก็บเงินออมเพื่ออนาคตหรือเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การเก็บเงินเพื่อการลงทุน การเก็บเงินฉุกเฉิน หรือการวางแผนเกษียณอายุ โดยส่วนนี้ควรเป็นส่วนสำคัญในการวางแผนเก็บเงิน แนะนำให้แบ่งเงินสำหรับเงินออมเป็นประมาณ 20% ของรายรับทั้งหมด

สำหรับคนที่มีรายรับต่อเดือน 30,000 บาท ควรแบ่งเงินประมาณ 20% หรือ 6,000 บาทสำหรับการออม การจัดสรรเงินส่วนนี้จะช่วยให้มีเงินสำรองในกรณีฉุกเฉินและเพิ่มมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

บัญชีสำหรับเงินลงทุน

บัญชีสำหรับเงินลงทุนเป็นบัญชีที่ใช้สำหรับการจัดสรรเงินไปยังการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาว เช่น หุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์อื่นๆ การจัดสรรเงินในบัญชีนี้มีความสำคัญเพื่อให้การลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและบรรลุเป้าหมายทางการเงินในอนาคต โดยควรแบ่งเงินสำหรับการลงทุนเป็นประมาณ 15% ของรายรับทั้งหมด

หากมีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาท ควรแบ่งเงินประมาณ 15% หรือ 4,500 บาทสำหรับการลงทุน วิธีเก็บเงินด้วยการแยกบัญชีสำหรับการลงทุนทำให้ติดตามและจัดการเงินลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้วางแผนการลงทุนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

2. อย่ากลัวการใช้บัตรเครดิต

การใช้บัตรเครดิตเป็นอีกวิธีออมเงินที่หลายคนอาจมองข้ามไป เพราะหากใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะช่วยในการออมเงินได้ดีทีเดียว การใช้เครดิตอย่างเหมาะสมช่วยให้ติดตามการใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ง่าย ทำให้สามารถวางแผนการเงินและจัดการค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น

หากเลือกบัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษในร้านค้าต่างๆ จะช่วยให้ประหยัดเงินได้มากขึ้น นอกจากนี้ การใช้บัตรเครดิตที่มีโปรแกรมผ่อนชำระ 0%* ก็ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง เงินที่ประหยัดจากส่วนลดหรือการผ่อนชำระสามารถนำมาใช้เป็นเงินเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมทริค! ใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้มีเงินเก็บ

มาดูวิธีการใช้บัตรเครดิตที่ไม่เพียงช่วยประหยัดเงิน แต่ยังช่วยในการเก็บเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย มีทริคที่น่าสนใจ ดังนี้

• เลือกบัตรเครดิตให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ควรสังเกตจากประเภทการใช้จ่ายว่าใช้จ่ายหมวดหมู่ไหนมากที่สุด เช่น การช็อปปิ้ง การเดินทาง หรือการรับประทานอาหาร เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์และโปรโมชันที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้สามารถประหยัดเงินและเก็บเงินได้มากขึ้น
• บันทึกการใช้บัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ การบันทึกรายการใช้จ่ายในบันทึกการเงินหรือแอปจัดการงบประมาณ ทำให้เห็นภาพรวมและควบคุมไม่ให้ใช้จ่ายเกินงบประมาณ ส่งผลให้ออมเงินได้มากขึ้นและมีสุขภาพการเงินที่ดี
• แบ่งหมวดหมู่การใช้บัตรเครดิต การแบ่งหมวดหมู่การใช้บัตรเครดิตช่วยให้จัดระเบียบการใช้จ่ายได้ดีขึ้น โดยการสร้างหมวดหมู่ที่ชัดเจน เช่น การซื้อของชำ การเดินทาง หรือการทานอาหาร และใช้บัตรเครดิตสำหรับแต่ละหมวดหมู่ตามความเหมาะสม จะช่วยให้ติดตามการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น และควบคุมงบประมาณได้ดีขึ้น
• วางแผนใช้หนี้บัตรเครดิต การวางแผนใช้หนี้บัตรเครดิตเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลยอดหนี้ทั้งหมด รวมถึงอัตราดอกเบี้ยและวันครบกำหนด จากนั้นจัดลำดับหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน กำหนดงบประมาณรายเดือนเพื่อการชำระหนี้ การวางแผนนี้ช่วยลดภาระดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม จัดการหนี้อย่างมีระเบียบ และส่งเสริมการออมเงินมากขึ้น
• เปลี่ยนเงินคืนเป็นเงินเก็บ การเปลี่ยนเงินคืนจากการใช้บัตรเครดิตเป็นเงินเก็บ ทำได้โดยการกำหนดให้เงินคืนที่ได้รับถูกโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีลงทุน การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มยอดเงินออมโดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายปกติ

3. ศึกษาการลงทุน

การศึกษาการลงทุนเป็นวิธีเก็บเงินที่ทำได้โดยการเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเลือกการลงทุน เช่น หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งช่วยให้เข้าใจตลาดการเงินและเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ให้ผลตอบแทนสูง การวางแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มยอดเงินออมและบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น

4. หาตัวช่วยจัดการเงิน

การใช้แอปพลิเคชันเป็นตัวช่วยจัดการเงินคือวิธีเก็บเงินที่ช่วยให้เก็บเงินได้มากขึ้นและมีการวางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะแอปช่วยจัดการเงินช่วยบันทึกและติดตามการใช้จ่ายในแต่ละวัน ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมของการใช้จ่ายและควบคุมงบประมาณได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งงบประมาณสำหรับแต่ละหมวดหมู่และตรวจสอบการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงติดตามความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการออมเงินได้ง่ายขึ้น แอปยังมีรายงานและกราฟที่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มการใช้จ่าย ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของตนเองและทำการปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ

5. ใช้ไปเท่าไร ให้ออมเท่านั้น

วิธีการออมเงินที่ช่วยให้เก็บเงินอยู่ โดยการตั้งเป้าหมายให้ออมเงินตามเปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่ใช้จ่ายจริง ตัวอย่างเช่น หากใช้จ่ายเงิน 10,000 บาทในเดือนนั้น ก็จะต้องออมเงิน 10% ของจำนวนเงินที่ใช้จ่ายไป ซึ่งหมายความว่าต้องออมเงิน 1,000 บาทในเดือนนั้น

การใช้วิธีนี้ช่วยให้จัดการการเงินได้ดีขึ้น เพราะการออมจะเป็นส่วนหนึ่งของการใช้จ่าย ทำให้การออมเป็นสิ่งที่เป็นนิสัยและง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงการใช้จ่ายมาก ทำให้การเก็บเงินเป็นไปอย่างมีระเบียบและไม่รู้สึกหนักไปในแต่ละเดือน

6. ตั้งเป้าหมายการเก็บเงิน

การตั้งเป้าหมายการเก็บเงินช่วยให้ออมเงินอย่างมีระเบียบ และมีแรงจูงใจในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ เช่น การซื้อบ้าน การศึกษาต่อ หรือการท่องเที่ยว สามารถแบ่งออกเป็นระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้การออมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงคำนวณจำนวนเงินที่ต้องออมเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เช่น หากต้องการออมเงิน 120,000 บาทภายใน 1 ปี ให้คำนวณว่าแต่ละเดือนควรออม 10,000 บาท การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยกำหนดทิศทางในการออมเงินและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น

บัตรเครดิตช่วยให้จัดการเงินสดได้ดีขึ้น เนื่องจากสามารถซื้อสินค้าและบริการก่อนแล้วจ่ายเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยไม่ต้องใช้เงินสดในทันที ช่วยให้มีเวลาในการวางแผนการใช้จ่ายและออมเงินมากขึ้น

การใช้บัตรเครดิตไม่ได้เป็นเพียงการชำระเงินที่สะดวก แต่ยังสามารถเป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการการเงินและเก็บเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองทำความรู้จักกับวิธีที่บัตรเครดิตสามารถช่วยในการเก็บเงินได้ดังนี้

1. มีเครดิตเงินคืน

บัตรเครดิตที่มีเครดิตเงินคืน อย่างบัตรเครดิต Titanium กสิกรไทย ให้เงินคืนเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดการใช้จ่าย เช่น จำกัดเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิตสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท / บัตร / รอบบัญชีบัตรเครดิต และจำกัดเครดิตเงินคืนในแต่ละกลุ่มประเภทร้านค้า (ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และประเภทอื่นๆ) ไม่เกิน 500 บาท / บัตร / รอบบัญชีบัตรเครดิต

ซึ่งหมายความว่าจะได้รับเงินคืนจากการใช้จ่ายในแต่ละเดือน การใช้บัตรเครดิตที่มีเครดิตเงินคืนช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อของหรือการใช้บริการต่างๆ และเงินที่ได้รับคืนสามารถนำไปเพิ่มยอดเงินออมได้อีกด้วย

2. มีคะแนนสะสม

บัตรเครดิตที่มีคะแนนสะสม อย่างบัตรเครดิต Platinum กสิกรไทย ให้คะแนนจากการใช้จ่าย 25 บาท = 1 คะแนน หรือบัตรเครดิต KBank – Shopee Credit Card ที่เป็นตัวช่วยในการช็อปปิ้งออนไลน์ ได้คะแนนสูงสุด X10* เมื่อช็อปที่ Shopee หรือคะแนน X2 เมื่อช็อปออนไลน์อื่นๆ ซึ่งนำไปแลกเป็นของรางวัลหรือส่วนลดในอนาคตได้ การใช้บัตรเครดิตที่มีคะแนนสะสมช่วยให้ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น การแลกรางวัลหรือส่วนลดจากร้านค้าและบริการต่างๆ การสะสมคะแนนช่วยลดค่าใช้จ่ายในอนาคตและเป็นวิธีเก็บเงินโดยไม่ต้องใช้เงินเพิ่ม เท่านี้ก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะ!

3. พอยท์แลกไมล์ได้

บัตรเครดิต THE PASSION กสิกรไทย ที่ได้คะแนนสูงสุด X3* ทำให้เราสามารถได้คะแนนไวขึ้น เพื่อนำพอยท์ไปแลกเป็นไมล์การบิน ซึ่งสามารถใช้แลกเป็นตั๋วเครื่องบินหรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การใช้บัตรเครดิตที่มีระบบแลกไมล์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะไมล์ที่สะสมสามารถใช้สำหรับการบินฟรีหรือส่วนลดค่าเดินทางได้ การสะสมไมล์จากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทำให้สามารถประหยัดเงินในค่าเดินทางและเพิ่มยอดเงินออมในระยะยาว

4. ปลอดภัย หายห่วง

การใช้บัตรเครดิตมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากมีระบบป้องกันการฉ้อโกงและการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น การยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP และการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ บัตรเครดิตยังมักมีการประกันความรับผิดชอบจากการฉ้อโกง ซึ่งช่วยให้รู้สึกปลอดภัยในการใช้จ่าย สามารถบริหารจัดการงบประมาณและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น ส่งผลให้สามารถเก็บเงินได้มากขึ้น

การจัดการปัญหาเดือนชนเดือนและสร้างการเก็บเงินที่มั่นคงเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนต้องเผชิญ การวางแผนการเงินอย่างมีระเบียบสามารถช่วยให้มีสภาพคล่องที่ดีและลดความเครียดจากการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้บัตรเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการเก็บเงินได้

โดยการเลือกบัตรที่มีเครดิตเงินคืนอย่างบัตรเครดิต Titanium กสิกรไทย หรือบัตรเครดิตที่มีคะแนนสะสมอย่างบัตรเครดิต Platinum กสิกรไทย และ บัตรเครดิต KBank – Shopee Credit Card ซึ่งสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายหรือแลกเป็นสิ่งของมีค่าได้และการเลือก บัตรเครดิต THE PASSION กสิกรไทยที่สามารถสะสมคะแนนได้ไวมากยิ่งขึ้น และยังนำพอยท์สะสมจากากรใช้จ่ายไปแลกเป็นตั๋วเครื่องบินได้อีก

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
**อัตราดอกเบี้ย 0% เมื่อลูกค้าชำระเต็มจำนวนภายในวันครบกำหนดชำระ