Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

KBank Private Banking

KBank Private Banking

​KBank Private Banking พา 2 นักธุรกิจรุ่นใหม่ในฐานะทายาทผู้สืบทอด

เยือนลอมบาร์ด โอเดียร์ พันธมิตรระดับโลก แนะแนวทางการวางแผนและส่งต่อ
ทรัพย์สินครอบครัวเพื่อความมั่งคั่งที่ยั่งยืน 

KBank Private Banking ผู้นำด้านการบริหารความมั่งคั่งมาตรฐานระดับสากล ด้วยบริการที่ออกแบบเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าคนสำคัญผู้ที่มีสินทรัพย์สูงของธนาคารกสิกรไทย ด้วยการเป็นผู้ให้บริการคำปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพในทุกมิติของการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะการบริการข้อมูลเพื่อการจัดการและบริหารทรัพย์สินของครอบครัวให้เกิดความยั่งยืนสืบไป โดยลูกค้ายังคงสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคนสำคัญในครอบครัวอย่างไร้กังวล
 
ถึงวันนี้ KBank Private Banking สานต่อพันธมิตรกับลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) ไพรเวทแบงค์ระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ที่มีอายุกว่า 222 ปี เพื่อส่งมอบบริการ Private Banking มาตรฐานระดับสากลให้กับลูกค้าในไทยได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการวางแผนและส่งต่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนของครอบครัว (Family Wealth Planning Services)
 
KBank Private Banking จับมือลอมบาร์ด โอเดียร์ 
ส่งมอบบริการให้คำปรึกษาเพื่อวางแผนความมั่งคั่งเและยั่งยืนของครอบครัวแด่ลูกค้าคนสำคัญ

สำหรับความสำคัญของการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัวเพื่อสร้างความมั่งคั่งที่สมบูรณ์อย่างยั่งยืนนั้น คุณนนท์ บุรณศิริ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพย์สินครอบครัว กลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย ได้เริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า 
“ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับทายาทเจ้าของธุรกิจซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่หลายต่อหลายคน ทำให้เราอยากนำเรื่องการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัวเพื่อให้ได้ไปคุยกับที่บ้าน คุยกับครอบครัว ไปตกผลึกร่วมกันว่า จะทำอย่างไรให้เราอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ซึ่งนั่นเป็นปรัชญาการทำงานที่ KBank Private Banking ยึดถือเป็นอันดับแรกเลยล่ะครับ ผมคิดว่าลูกค้าของเราทุกคนมีความมั่งคั่งมากอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ความมั่งคั่งนั้นอยู่อย่างยั่งยืน และเป็นความสุขร่วมกันของทุกๆ คนในครอบครัว อีกทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและมีโอกาสได้แบ่งปันกลับคืนสู่สังคม ด้วยทั้งหมดนี้ถือเป็นปรัชญาที่ตรงกันของ KBank Private Banking และลอมบาร์ด โอเดียร์
นั่นทำให้ล่าสุด คุณนนท์ได้ออกเดินทางสู่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อไปเยือน ลอมบาร์ด โอเดียร์ พร้อมกับทายาทเจ้าของธุรกิจระดับแถวหน้าของเมืองไทย อีกทั้งเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่กำลังประสบความสำเร็จและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ธุรกิจเมืองไทยจนเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง 
“KBank Private Banking อยากให้ลูกค้าทุกทานได้ตระหนักถึงความสำคัญและเรียนรู้ในเรื่องการบริหารจัดการสินทรัพย์ของครอบครัวเพื่อส่งผ่านความมั่งคั่งต่อไปในอีกหลายๆ ชั่วอายุคน รวมถึงเรื่องการลงทุน ซึ่ง KBank Private Banking มีพันธมิตรสำคัญระดับโลก อย่าง ลอมบาร์ด โอเดียร์ ที่ทำมายาวนานกว่า 222 ปี โดยในครั้งนี้ พวกเราได้ออกเดินทางไปด้วยกัน เมื่อไปถึง มร.แพทริค           โอเดียร์ ประธานกรรมการ บริษัท ลอมบาร์ด โอเดียร์ จำกัด ได้ให้เกียรติ มาต้อนรับทุกคนด้วยตัวเอง และได้เล่าถึงธุรกิจครอบครัวที่           ส่งต่อมา 7 ชั่วอายุคนนั้นทำอย่างไร แยกความเป็นครอบครัวออกจากธุรกิจอย่างไร ธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงอยู่รอดมาได้อย่างไร ดูแลครอบครัวกันอย่างไร หลังจากได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้ ลูกค้าก็ประทับใจมากขึ้นเพราะทุกคนก็ต่างเติบโตในธุรกิจครอบครัวเช่นเดียวกัน     การเดินทางครั้งนี้ทุกคนแฮปปี้ที่ได้เปิดโลกทัศน์ด้วยครับ เรียกว่าสิ่งที่ได้กลับมาทุกคนไม่ผิดหวังเลย”

สองสาวนักธุรกิจในฐานะทายาทผู้สืบทอดแบ่งปันประสบการณ์
ทั้งมิติต่อยอดธุรกิจครอบครัวให้มั่งคั่งยั่งยืน และสร้างธุรกิจใหม่เพื่อสังคม

วันนี้ KBank Private Banking ได้เชิญสองสาวนักธุรกิจคู่เพื่อนซี้ที่ร่วมเดินทางมาร่วมพูดคุย โดยหลังจากได้รับคำแนะนำ            และคำปรึกษาด้านการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ครอบครัวที่ลอมบาร์ด โอเดียร์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เธอทั้งสองมีมุมมองต่างไปอย่างไร กับภาระหน้าที่ที่เธอต้องรับผิดชอบในธุรกิจของครอบครัว  เริ่มจากคุณจูน จุฑาศรี คูวินิชกุล ทายาทกลุ่มธุรกิจมูลค่าพันล้านอย่าง เมททากรุ๊ป จำกัด และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง GrabTaxi (Thailand) ในไทยกับกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นเรียนจาก Harvard Business School จนประสบความสำเร็จ
“จริงๆ แล้ว เป้าหมายของเมททากรุ๊ปคือกลุ่มธุรกิจที่สร้างคุณค่าเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ก้าวไปข้างหน้า ต้องการสร้างความสุขให้ทุกๆ คน และก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน ขณะเดียวกันก็ต้องคืนความสุขให้กับสังคมด้วยการทำให้สังคมดีขึ้นได้ด้วย” คุณจูนเริ่มต้นเล่าคอนเซ็ปต์ของธุรกิจครอบครัวที่ปลูกฝังให้เธอเป็นนักธุรกิจหญิงในทุกวันนี้ และนั่นทำให้ธุรกิจที่เธอร่วมก่อตั้งเอง อย่าง GrabTaxi (Thailand) ก็มีจุดมุ่งหมายที่สร้างขึ้นเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในเรื่องของการเดินทาง และนั่นไม่ได้แตกต่างจากพันธกิจหลักของธุรกิจครอบครัวแต่อย่างใด”
“การทำธุรกิจจะต้องมีมุมมองเพื่อสังคม จูนได้เรียนรู้ทั้งจากคุณพ่อและคุณแม่ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนจากการเรียนรู้ที่ฮาร์วาร์ดหรือที่ต่างๆ ที่เราไปพบไปเจอ อย่างครั้งนี้ไปที่ลอมบาร์ดฯ ตนเองก็ได้แนวคิดของคนที่ประสบความสำเร็จต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงวิธีบริหารธุรกิจครอบครัวเพื่อตอบแทนคืนให้กับสังคมได้มากขึ้น รวมถึงวันนี้จูนได้แง่คิดในการทำธุรกิจต่างๆ โดยยึด 3 หลัก คือ 1. ความสุขที่แท้จริงคืออะไร? 2. ทรัพยากรของโลกที่มีจำกัด มันเลยเป็นโลกของทุนนิยมที่ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งคือธุรกิจ ดังนั้นเราจะพัฒนาการเดินทางของคนให้คืนกลับสู่สังคมอย่างไร และ 3.ความรับผิดชอบต่อธุรกิจครอบครัว” 
ด้าน คุณโน้ต สุภัค รักขิตธนะ ผู้ร่วมก่อตั้ง และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มอริท อินเตอร์ จำกัด ที่เป็นทั้งเพื่อนซี้ตั้งแต่วัยเด็ก กระทั่งเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมสร้างธุรกิจที่จะสร้างความฮือฮาให้กับเมืองไทยและจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีกไม่นาน โดยในฐานะทายาทเจ้าของธุรกิจกระจกระดับแถวหน้าแล้ว การเรียนจบทางด้านอินทีเรียดีไซน์  ทำให้เธอได้รับหน้าที่สานต่อธุรกิจในบทบาท Project Co-Ordinator ในเรื่องการดีไซน์สินค้า ไม่เพียงแค่นั้นคุณโน้ตยังเป็นนักลงทุนที่หลงใหลในเรื่องการลงทุนเป็นอย่างมาก
“โน้ตชอบลอมบาร์ดฯ ตรงที่เขาใส่ใจเรา เขาถามเราว่าวางแผนอนาคตอย่างไร เราอยากจะมีวิถีชีวิตอย่างไร เขาใส่ใจรายละเอียดของชีวิตเรา ต้องบอกก่อนว่า โน้ตไปทริปลอมบาร์ดฯ ครั้งนี้แบบ open สุดๆ ไม่ปิดกั้นตัวเองใดๆ โน้ตรู้สึกว่าชีวิตเราหนึ่งชีวิต ทรัพย์สินที่มีค่ากับชีวิตเราคือสังคมเราและเพื่อนเรา เราไม่ได้ขอให้เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก แต่ขอแค่มีเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต มีสังคมที่ดี และมีคนรักเราจริงๆ และโน้ตก็สัมผัสและรู้สึกได้ว่าลอมบาร์ดฯ เขาจริงใจกับเรา ทำให้เขาแตกต่างจากที่อื่น”
“สำหรับตัวเอง...วันนี้เราได้มิตรภาพที่ยั่งยืนในการทำธุรกิจกับเพื่อน คือ จูน แม้เราจะต่างกันสุดขั้วแต่ก็สนิทกันมาก เราคุยกันทุกเรื่อง จูนรักเราที่เป็นเรา และได้ข้อคิดดีๆ จากเพื่อนเสมอ เรากำลังสร้างธุรกิจที่ต่อยอดสิ่งดีๆ เพื่อสังคม โน้ตกับจูนมีหลักการคิดที่เหมือนกันคือการมีพาร์ทเนอร์ทำธุรกิจที่ดี เข้าใจในหลักการเดียวกัน ก็เหมือนกับ KBank Private Banking ที่มีพาร์ทเนอร์อย่างลอมบาร์ดฯ มันเป็นหลักคิดที่ดีมากค่ะที่เราได้ต่อยอดจากองค์ความรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน” 
โปรย...
ทำอย่างไรให้ความมั่งคั่งนั้นอยู่อย่างยั่งยืน และเป็นความสุขร่วมกันของทุกๆ คนในครอบครัว อีกทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและมีโอกาสได้แบ่งปันกลับคืนสู่สังคม ด้วยทั้งหมดนี้ถือเป็นปรัชญาที่ตรงกันของ KBank Private Banking และลอมบาร์ด โอเดียร์

ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2561

กลับ
PRIVATE BANKING