Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

หุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และจีนน่าลงทุน

หุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และจีนน่าลงทุน

​​



เมื่อปี 2018 หุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และจีนขาดทุนอย่างหนักถึง 16% และ 25% ตามลำดับ โดย 2 สาเหตุสำคัญ คือ
 
  1. ท่าทีที่แข็งกร้าวของ Fed ในการดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด โดยได้เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องถึง 4 ครั้ง ส่งผลให้ Fed funds rate ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.5% ในช่วงปลายปี จาก 1.5% ในช่วงต้นปี พร้อมทั้งการ แข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ  ที่ปรับสูงขึ้นถึง 4% กดดันค่าเงินกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และค่าเงินหยวนจีน ให้อ่อนค่า 4% และ 6% ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้กระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากตลาดหุ้นข้างต้นกลับไปยังตลาดหุ้นสหรัฐฯ
  2. ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯ และนานาประเทศ โดยเฉพาะกับจีน ที่ผลัดกันตั้งกำแพงภาษีเพื่อตอบโต้กันไปมาตลอดปี จนกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตสินค้าในวงกว้าง ดัชนีภาคการผลิตและการส่งออกของหลายประเทศในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และจีนปรับลดลง นำไปสู่การคาดการณ์ถึงการชะลอตัวลงของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลกระทบในเชิงลบต่อบรรยากาศการลงทุน

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ที่ผ่านมาแล้วร่วม 43 วัน ดัชนีหุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และจีน ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 9% และ 12% ตอบรับกับข่าวดีที่เข้ามาในตลาด ไม่ว่าจะเป็น ท่าทีที่อ่อนลงของ Fed ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยรายงานการประชุมล่าสุดเดือน ม.ค. ระบุว่า Fed ไม่เร่งรีบในการปรับขึ้นดอกเบี้ย และสามารถอดทนเพื่อรอดูความชัดเจนของพัฒนาการทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ก่อนจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง รวมไปถึง ข่าวความคืบหน้าว่าสหรัฐฯ และจีนจะสามารถตกลงกันได้ในประเด็นข้อพิพาทการค้าระหว่างกัน โดยหลังการเจรจาระหว่างวันที่ 7-9 ม.ค. 2019 ตัวแทนสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่าการเจรจามีความคืบหน้า โดยจีนได้ให้สัญญาว่าจะซื้อสินค้าจำนวนมากขึ้นจากสหรัฐฯ ทั้งในกลุ่มสินค้าเกษตร พลังงาน รวมถึงสินค้าในภาคการผลิตและบริการ 

ต่อจากนี้ มุมมองต่อตลาดหุ้นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และจีน ยังมีมุมมองเชิงบวก และมองว่าโอกาสที่ดัชนีของตลาดหุ้นทั้งสองจะปรับลดลงมีไม่มาก และด้วยระดับราคา ณ ขณะนี้ ผ่าน 1-year Forward P/E ที่ระดับ 11.9 เท่า และ 10.9 เท่า ยังถูกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 1-year Forward P/E ในรอบ10 ปีที่ผ่านมา ที่ระดับ 12.1 เท่า และ 12.9 เท่า จึงมีความน่าสนใจในการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่พร้อมเข้าทยอยลงทุนและมีระยะเวลาการลงทุนอย่างน้อย 5 ปี เพื่อข้ามผ่านความผันผวนระยะสั้นในตลาด


ประจำวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562


กลับ
PRIVATE BANKING