ท่าทีล่าสุดของทางธนาคารกลางหลักของโลกอย่างสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น เริ่มอ่อนลงต่อการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด โดยเริ่มจากธนาคารกลางพี่ใหญ่ของตลาดทั่วโลกอย่าง Fed ออกมาบอกว่าพร้อมที่จะอดทนรอ และไม่รีบที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย และมองว่าแรงกดดันเงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ และความเสี่ยงเริ่มเปิดกว้างขึ้นหลังจากเศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบของข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ด้านธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ก็เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการให้เงินกู้แบบมีระยะเวลาดอกเบี้ยต่ำ หรือที่เรียกว่า TLTRO (Targeted Long-term Refinancing Operation) แก่ธนาคารพาณิชย์ พร้อมทั้งอาจจะเลื่อนเวลาการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เดิมคาดว่าจะปรับขึ้นประมาณช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ออกไป ขณะที่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ก็ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่องและพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อผลักดันให้เงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
นักลงทุนที่คาดหวังกับการฝากเงินกับธนาคาร ก็คงจะต้องทนต่อไป แม้ว่าจะสูงขึ้นบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ แถมการฝากเงินกับทางธนาคารพาณิชย์นั้นก็ไม่ได้ถูกคุ้มครองเงินต้นและผลตอบแทน 100% เพราะนับตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2018 สถาบันคุ้มครองเงินฝากได้ลดการค้ำประกันเงินฝากจากวงเงิน 15 ล้านบาท เป็น 10 ล้านบาท และจะปรับลดลงต่อไปเรื่อยๆ คือ จะลดลงเป็น 5 ล้านบาท ในวันที่ 11 สิงหาคม 2019 และเหลือคุ้มครองเพียง 1 ล้านบาท ในวันที่ 11 สิงหาคม 2020
แนวทางการลงทุนลักษณะหนึ่งที่เริ่มนำมาใช้แพร่หลายมากขึ้นคือ การใช้หุ้นกู้อนุพันธ์ ช่วยลดความเสี่ยงและตลาดขาลง การลงทุนลักษณะนี้เป็นส่วนผสมระหว่างการฝากเงินผ่านการซื้อหุ้นกู้บวกกับอนุพันธ์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับสินทรัพย์ที่กำหนดไว้ เช่น ดัชนีหุ้น อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน ทองคำ น้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เป็นต้น เพื่อให้เห็นภาพที่ง่ายขึ้น เริ่มต้นจากนักลงทุนมีเงินลงทุน 100 บาท และมีระยะเวลาการลงทุน 3 ปี ให้นักลงทุนแบ่งเงินเป็น 2 ส่วน โดยนำเงินส่วนแรกจำนวนประมาณ 94 บาทไปลงทุนในหุ้นกู้ และเมื่อครบ 3 ปี เงินจำนวนนี้จะโตขึ้นไปเป็น100 บาท (เงินต้น + ดอกเบี้ย) สำหรับเงินส่วนที่สองอีกประมาณ 6 บาท จะนำไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับสินทรัพย์ที่กำหนดไว้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์อ้างอิง แต่ปกป้องนักลงทุนจากผลขาดทุนหากราคาสินทรัพย์อ้างอิงไม่เคลื่อนไหวตามที่คาดไว้ เพราะเมื่อสิ้นปีที่ 3 นักลงทุนก็ยังคงได้รับเงินต้น 100 บาทคืน
จะเห็นได้ว่า หุ้นกู้อนุพันธ์เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจทางหนึ่ง และสามารถให้ผลตอบแทนไม่จำกัดแต่สามารถจำกัดผลขาดทุนได้
ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2562