Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

3 Pockets of Wealth Allocation

 



ออม (Liquidity)

PRIVATE BANKING  

15-20%

สำหรับใช้จ่ายชีวิตประจำวัน ควรอยู่ในสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดง่าย เช่น กองทุนตลาดเงิน เพื่อให้ชนะเงินเฟ้อ


1st Pocket

เป้าหมายการลงทุนเพื่อสภาพคล่อง ได้แก่ สินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในเวลารวดเร็วโดยที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เช่น เงินฝาก และกองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนส่วนมากในตราสารหนี้ระยะสั้นและมีอันดับความน่าเชื่อถือดี


เก็บ (Long-Term Investment)

PRIVATE BANKING  

60-70%

สำหรับการลงทุนระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง เงินส่วนนี้ควรกระจายการลงทุน (Asset Allocation)


2nd Pocket

เป้าหมายการลงทุนเพื่อสะสมความมั่งคั่งระยะยาว มีส่วนประกอบ 2 ส่วน

Core Portfolio: ระยะเวลาลงทุนมากกว่า 5 ปี

  • เงินลงทุนส่วนใหญ่
  • กระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทและทั่วโลก เพื่อ
    - แสวงหาผลตอบแทนในทุกสภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงิน
    - กระจายความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งที่ในชั่วขณะหนึ่งอาจเกิดภาวะราคาตกต่ำรุนแรงจนเป็นเหตุให้เกิดความตื่นตระหนกและตัดขาดทุน ทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายระยะยาว
​​​

Satellite Portfolio: ระยะเวลาลงทุน 12-18 เดือน

  • ​​กระจายสัดส่วนลงทุนตามประเภทเช่น Growth, Income, และ Uncorrelated
    - แสวงหาผลตอบแทนจากวัฏจักรเศรษฐกิจระยะสั้นถึงปานกลาง (Cyclical Change) หรือความแตกต่างของ Valuation ณ ช่วงเวลาใด เวลาหนึ่ง ที่อาจทำให้สินทรัพย์ประเภทหนึ่งๆ ในภูมิภาคหนึ่งๆ มีศักยภาพสร้างผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์อื่น

​​​


เก็งกำไร (Aspiration)

PRIVATE BANKING  

15-20%

สำหรับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสสร้างผลตอบแทน


3rd Pocket

เป้าหมายการลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง โดยมีเงื่อนไขแตกต่างจากกระเป๋า 2 เช่น

  • ลงทุนด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะและรับความเสี่ยงของการกระจุกตัวหรือความผันผวนสูงหรือการขาดสภาพคล่องได้ เช่น ลงทุนโดยตรงในหุ้นรายตัว หรืออสังหาริมทรัพย์
  • ลงทุนในกลยุทธ์ที่สร้างผลตอบแทนจากวัฏจักรเศรษฐกิจระยะยาวหรือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง