ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก มนุษย์เริ่มเจอผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นจากการทำลายสภาพแวดล้อม จึงทำให้หลายคนเริ่มตระหนักถึงการเยียวยาสิ่งแวดล้อมก่อนจะสายเกินแก้ทำให้ในปีนี้อีกหนึ่งเกิดเทรนด์ท่องเที่ยวใหม่ที่มาแรง คือ การเที่ยวหรือทํากิจกรรมอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) เพราะนอกจากเป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเอง และครอบครัว ยังเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมไปในตัวอีกด้วย โดยผลสํารวจจาก Booking.com เผยว่า 87% ของชาวไทยเชื่อว่าต้องช่วยกันรักษาโลกไว้ตั้งแต่ตอนนี้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสสัมผัสโลกอันสวยงาม ด้วยเหตุนี้เราได้รวบรวม 6 ประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนที่จะช่วยให้ผ่อนคลายไร้กังวล พร้อมรักษ์โลกให้อยู่กับเราไปนาน ๆ
การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) คือ การท่องเที่ยวที่คำนึงถึงขีดความสามารถในการรองรับของธรรมชาติ ชุมชน ขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีชีวิตที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพื่อปกป้อง รักษาและพัฒนาสิ่งเหล่านี้ให้ถึงคนรุ่นหลัง
|
ออกท่องเที่ยว พร้อมทํากิจกรรมสร้างคุณค่าให้แก่โลก
เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
ดำน้ำปลูกปะการัง สร้างความงามของโลกใต้ทะเล
Address : 8/3 หมู่ 2 ตําบลแม่หาด อําเภอเกาะเต่า จังหวัด สุราษฎร์ธานี | Map : Google Map
ลงสู่ภาคใต้กับทิวทัศน์ของทะเลที่ให้คุณได้ชมความสวยงามของโลกใต้น้ำไปพร้อม ๆ กับกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์อย่างการปลูกปะการัง ที่เรียกได้ว่าเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมอันดับต้น ๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ โดยสามารถเพลิดเพลินทิวทัศน์ทะเล และ ร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติได้ที่เกาะเต่านั่นเอง
บนเกาะเต่าแห่งนี้นั้นมีโครงการ Adopt A Coral ที่จะมีทีมนักดำน้ำของโครงการคอยแนะนำ พร้อมสอนวิธีการฟื้นฟู และ ปลูกถ่ายปะการัง พร้อม ๆ กับพาชมแหล่งปลูกถ่ายปะการังของโครงการ ณ ใต้ท้องทะเล
นอกจากนี้ยังสามารถข้ามเรือไปที่เกาะนางยวนซึ่งเป็นเกาะสวยติดอันดับของโลก มีทั้งหาดทรายขาว และ น้ำทะเลใส ที่สำคัญยังเป็นชุมชนใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นตั้งแต่บนผืนดินตลอดจนใต้ผืนน้ำ โดยบนเกาะแห่งนี้มีกิจกรรมให้ทำมากมาย รวมไปถึงมีโรงเรียนสำหรับการสอนดำน้ำเพื่อให้ทุกท่านได้ลงไปชมความสวยงามใต้ท้องทะเลได้อย่างปลอดภัย โดยยึดหลักการดำน้ำที่ไม่รบกวนธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนั่นเอง
บ้านสะปัน Retreat จ.น่าน
ท่องเที่ยวแบบเรียบง่าย ไม่รบกวนธรรมชาติ
Address : 52 หมู่ 1 ตําบลดงพญา อําเภอบ่อเกลือ จังหวัด น่าน | Map : Google Map
เริ่มต้นด้วยการออกไปพักผ่อนกับครอบครัว ด้วยที่พักธรรมชาติสไตล์เรียบง่ายที่บ้านสะปัน Retreat จังหวัดน่าน รายล้อมด้วยธรรมชาติของภูเขา ลำธารไหลผ่าน และ มีทุ่งนากว้างสุดสายตา เหมาะสำหรับการพักผ่อนให้ชีวิตเดินเป็นจังหวะช้าๆ อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างหนึ่งของจังหวัดน่าน
เพื่อให้เต็มอิ่มกับธรรมชาติมากขึ้น จึงอยากชวนทุกท่านเดิน หรือ ปั่นจักรยานชมสายธาร และ ไอหมอกยามเช้า หรือ นอนดูดาว ฟังเสียงธรรมชาติที่ช่วยสร้างความสงบ และ ผ่อนคลายอย่างแท้จริง โดยการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ นับว่าเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพราะ เป็นใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างพอดี สร้างจิตสำนึกที่ดีเกี่ยวกับธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อมนั่นเอง
อิ่มอร่อยและเสริมสุขภาพดีไปกับอาหารออแกนิก
80/20 จ.กรุงเทพฯ
อาหารออร์แกนิก มุ่งเน้นการช่วยเหลือชุมชน
Address : 1052-1054, 26 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก จังหวัด กรุงเทพ | Map : Google Map Open : วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 18.00 – 23.00 น. | Tel : 099-1182200
นอกจากการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนแล้ว ร้านอาหารต่าง ๆ ก็ได้ตอบรับกับเทรนด์ความยั่งยืนนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยการทำอาหารออร์แกนิก ที่นำวัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มในชุมชน เพื่อเป็นการกระจายรายได้ โดยหนึ่งในร้านอาหารที่มีแนวคิดนี้ นั่นก็คือ ร้าน 80/20 ที่ตั้งใจให้อาหารทุก ๆ จานมีส่วนช่วยในการสร้างความเปลี่ยนแปลงกับสิ่งแวดล้อม และ ชุมชน คือ การใช้วัตถุดิบไทย 80% ผสมกับวัตถุดิบต่างประเทศ 20% อีกทั้งยังมีแนวคิด Zero Waste ที่พยายามใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ให้คุ้มค่าที่สุด ลดขยะเศษอาหารให้เหลือน้อยที่สุดนั้นเอง
สำหรับเมนูแนะนำของร้าน 80/20 คือ ปลาอินทรีย์ดอง ที่เสิร์ฟคู่กับเนื้อมะพร้าวอ่อน ครีมมะพร้าว มะพร้าวเผา และ น้ำส้มสายชูมะพร้าวที่ทางร้านได้ทำขึ้นเอง หรือจะเป็น อกเป็ดรมควันใบชา ที่เสิร์ฟมาคู่กับหัวหอมย่าง ต้นกระเทียมย่าง กุ๋ยช่าย กุ๋ยช่ายฟิวเร่ กระเทียมดำ หอมแดงดองหวาน ซอสขนุน และ ขนุนอ่อนกงฟิทในน้ำเป็ด ที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่สร้างสรรค์ออกมาไม่เหมือนใคร ที่ล้วนแล้วแต่มีรสชาติแสนอร่อยจากเมนูที่รักษ์โลกจากนโยบายคืนสู่ชุมชน กับ แนวคิด Zero Waste นั่นเอง
จำปา, ตรีวนันดาคอมมูนิตี้ จ.ภูเก็ต
ยึดหลัก Zero Waste ลดปริมาณขยะ
Address : หมู่ที่46 ตําบลเทพกระษัตรี อําเภอถลาง จังหวัด ภูเก็ต | Map : Google Map
Open : วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 12.00 – 15.00 และ 17:00 - 22:00 น. | Tel: 076-342122
ร้านอาหารจำปา อีกหนึ่งร้านอาหารรักษ์โลก ที่เน้นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และ ยึดหลัก Zero Waste อีกทั้งยังเป็นร้านในเครือของผู้บริหารเดียวกับร้านพรุ ร้านอาหารมิชลินรักษ์โลกดวงแรกของประเทศไทย โดยสำหรับร้านจำปานี้มีหลักนโยบายที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของชุมชน เพื่อกระจายรายได้
- การใช้ไฟทำอาหารจากฟืน เพื่อดึงรสชาติอาหาร และ ลดก๊าซพิษจากการใช้เตาแก๊ส
- ลดการใช้พลาสติก
- มีการแยกขยะในครัว
- การใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่าที่สุด โดยส่วนเหลือจะนำไปเป็นอาหารสัตว์และทำปุ๋ย
นอกจากความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและชุมชนแล้ว แต่ละเมนูของร้านจำปา ก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร โดยขอแนะนำเมนู บีทรูทย่างบาร์บีคิว และ ปลาหมึกย่าง ที่เสิร์ฟมาพร้อมมันหวานและซอสฮอลันเดส นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายที่นำวัตถุดิบต่าง ๆ มาผสมผสานกันได้อย่างสร้างสรรค์ เช่น ปลากระบอกแดงที่เสิร์ฟมาพร้อมฟักทองกับมะม่วง และมัลเบอรรี่สดจากฟาร์มเสิร์ฟคู่กับโยเกิร์ตและกระเจี๊ยบแดง เป็นร้านที่ให้คุณได้รับประทานอาหารอร่อย ดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังสนับสนุนชุมชนไปพร้อม ๆ การการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมไปด้วยในตัว นอกจากนี้ทางร้านยังมีคอมมูนิตี้สินค้าโฮมเมดอย่าง ผัก ผลไม้ ขนมปังอบใหม่ และ ชีสวีแกนให้คุณสามารถซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย
ผ่อนคลายกายใจพร้อมดูแลผิวพรรณด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
Banyan Tree Spa จ.กรุงเทพฯ
สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดในสปาใจกลางกรุง
Address : 21/100 ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร จังหวัด กรุงเทพ | Map : Google Map Open : ทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น. | Tel : 02-6791052
เมื่อพูดถึงความยั่งยืน และ ความใส่ใจสิ่งแวดล้อมแล้ว คงไม่นึกถึง Banyan Tree ไปไม่ได้ เพราะ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ให้ความสำคัญเรื่องการปลูกฝังค่านิยมความยั่งยืน ตลอดจนการส่งต่อความยั่งยืนนี้คืนสู่ชุมชน จนได้รับรางวัลมากมายในระดับสากล
ทุก ๆ ท่านน่าจะคุ้นเคยกันดีกับโรงแรมหรู และ บริการสปาคุณภาพอย่าง Banyan Tree Spa ที่ตั้งอยู่บนตึกระฟ้าของโรงแรม Banyan Tree จุดเด่นของที่นี่คือ Spa Therapist มากประสบการณ์ และ บริการแบบเหนือระดับ ทำให้คว้ารางวัล Hall of Fame(*) จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครั้งที่ 12
* รางวัลนี้มอบให้เฉพาะธุรกิจที่คว้ารางวัลยอดเยี่ยมมาก่อนติดกันถึง 3 ครั้ง เท่านั้น
สำหรับคอร์สสปาของ Banyan Tree นั้นมีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นการนวดน้ำมันจากขี้ผื้งของเทียนถั่วเหลือง หรือ การประคบร้อนที่ผสมระหว่างศาสตร์การนวดจากตะวันตกและตะวันออก
โปรแกรมการนวดที่อยากจะแนะนำ คือ Tropical Rainmist การผสมผสานการนวดกับการอบไอน้ำให้คุณได้ผ่อนคลาย และ มีกระแสน้ำจากฝักบัวที่จะช่วยคืนความสดชื่นให้กับผิว
และแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมาให้บริการของที่นี่ เป็นสูตรเก่าแก่โบราณ และ มีส่วนผสมจากธรรมชาติเท่านั้น จึงดีต่อสุขภาพ ปลอดสารเคมี และ ไม่อันตรายต่อผิว นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น
- การใช้ปั้มน้ำที่มีเทคโนโลยีช่วยประหยัดน้ำ
- ลดจำนวนธูปที่ใช้จุด
- ใช้ขวดเซรามิค เพื่อใส่ส่วนผสมต่าง ๆ แทนการใช้พลาสติก
Mala Spa จ.ภูเก็ต
คืนความสมดุลให้ร่างกายด้วยธรรมชาติ จากสปาเจ้าของรางวัลระดับโลก
Address : 10/88 ถนนริมหาด ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัด ภูเก็ต | Map : Google Map Open : ทุกวัน เวลา 9.00 – 20.00 น. | Tel : 076-358777
อีกหนึ่งแบรนด์โรงแรมรักษ์โลกในประเทศไทยนั่นก็คือ Keemala ภูเก็ต ที่นอกจากจะหรูหรา เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติแล้ว ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น
- เป็นรีสอร์ทแรก ๆ ที่มีฟาร์มปลูกผักเป็นของตัวเอง
- งดใช้แก้วพลาสติก
- หันมาใช้หลอดกระดาษ และ กระดาษรีไซเคิล
และอีกจุดเด่นของที่นี่ นั่นก็คือ Mala Spa ที่นอกจากจะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมตามวิธีการหลักของโรงแรมแล้ว ยังงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี เน้นการปรับสมดุลร่างกายด้วยศาสตร์เก่าแก่และดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมาพร้อมด้วยอุปกรณ์ดูแลผิวพรรณมากมาย ที่จะทำให้คุณได้รู้สึกผ่อนคลาย และ สดชื่นตั้งแต่ภายในสู่ภายนอกเลยทีเดียว ที่สำคัญ สปาแห่งนี้ยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ เช่น
- Haute Grandeur Global Excellence Award
- Best Luxury Boutique Spa in Southeast Asia Award
- Luxury Eco Resort Regional Award
สถานที่ที่เราหยิบยกมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวและทํากิจกรรมอย่างยั่งยืน และ เป็นอีกหนึ่งวิธีการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราอาจมองข้าม อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้การตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม คือ สิ่งที่เราทุกคนควรให้ความสำคัญ เพื่อรักษาธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ ให้คงอยู่ต่อไปสู่ลูกหลานในอนาคต และ หวังว่าสถานที่ที่ยกมานี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกท่านในการออกไปผ่อนคลายตัวเองพร้อม ๆ กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอันแสนสำคัญของเรา