การกลับมาผ่อนคลายการเปิดเมืองทำให้เราได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น แต่ละธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจการอีกครั้ง จึงทำให้กอง K-PROPI ที่ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในประเภทอุตสาหกรรมอย่างเช่นคลังเก็บสินค้า ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของ E-Commerce
การฟื้นตัวของห้างสรรพสินค้าและกลุ่มออฟฟิตที่คาดว่าจะค่อยๆ เก็บค่าเช่าจากร้านค้าได้มากขึ้น สินทรัพย์เหล่านี้สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำมากจึงทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น
ข้อดีของการลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs)
- ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) สามารถสร้างกระแสเงินสดได้สม่ำเสมอจากเก็บค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์
- ค่าเช่าสามารถปรับขึ้นตามสภาวะเงินเฟ้อได้ ดังนั้นสามารถป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อในระยะยาว
- มีสภาพคล่องสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ เพราะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
- เป็นสินทรัพย์ที่ใช้ในการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในพอร์ท
เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์ (REITs) ทั้งในและต่างประเทศ
- ผู้ที่ต้องการสภาพคล่องสูงกว่าการลงทุนโดยตรงในกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์
- ผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก และกระจายการลงทุน
- ผู้ลงทุนที่สามารถยอมรับความผันผวนได้ เพราะราคาสามารถปรับขึ้นลงได้ตามสภาวะตลาด
- ผู้ที่สามารถลงทุนได้ระยะยาวตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป
หมายเหตุ :นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลของกองทุน K-PROPIเพิ่มเติมได้จาก บลจ.กสิกรไทย
คลิก