NotiPass_80%แจ้งปิดระบบ K-Trade Connect ในวันที่ 11 ธันวาคม 2562 เวลา 22:00 น. ถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เวลา 02:00 น.
$รายละเอียดเพิ่มเติม%/th/announcement/Pages/SystemMaintenanceK-Trade-Connect.aspx/
Page Content
ประกาศแจ้งนโยบายการคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับการใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ของ
บมจ.ธนาคารกสิกรไทย
ปรับปรุงล่าสุดเดือนตุลาคม 2565
บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (“ธนาคาร”) มีความจำเป็นต้องทำการเก็บรวบรวมใช้
และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“CCTV”)
ซึ่งเป็นระบบ
และอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยของธนาคาร
และติดตั้งอยู่ใน และบริเวณโดยรอบของอาคาร สถานที่ และ / หรือพื้นที่ใดๆ ของธนาคาร
เพื่อการตรวจสอบ การสังเกตการณ์ และเพื่อการอื่นใดตามที่จะกล่าวต่อไป
ธนาคารจึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับการใช้งาน
CCTV (“นโยบาย”) ฉบับนี้ขึ้นเพื่อชี้แจงให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์
และรายละเอียดเกี่ยวกับเก็บรวบรวมใช้ และ /
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ธนาคารบันทึกจาก CCTV
ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่าน โดยมีรายละเอียดดังนี้
- นโยบายฉบับนี้ใช้กับใครบ้าง และวิธีการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ธนาคารจะเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อท่านอยู่ใน
และบริเวณโดยรอบของอาคาร สถานที่ และ / หรือพื้นที่ใดๆ ของธนาคาร
โดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกบันทึกจาก CCTV ด้วยวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนี้
- 1.1 ธนาคารจะติดตั้ง CCTV ที่จุดสำคัญภายในสถานที่ อาคาร และ / หรือพื้นที่ต่างๆ ของธนาคาร
ยกเว้นบางพื้นที่ เช่น ห้องสุขา เป็นต้น
- 1.2 ระบบ CCTV ของธนาคารเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นในกรณีที่อุปกรณ์ /
ระบบเกิดความขัดข้อง และ / หรือต้องทำการซ่อมบำรุง
- 1.3 ธนาคารจะจัดแสดงป้ายตามความเหมาะสมใน และบริเวณสถานที่ อาคาร และ /
หรือพื้นที่ที่มีการติดตั้ง CCTV
- ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่ธนาคารเก็บรวบรวมใช้ และ / หรือเปิดเผย
ธนาคารจะเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บันทึกจาก CCTV
โดยประเภทข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
- 2.1 ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว เสียงที่ถูกบันทึกไว้
- 2.2 อุณหภูมิร่างกายผ่านเครื่องตรวจจับอุณหภูมิ (Thermal Scan)
- 2.3 ทรัพย์สิน เช่น ยานพาหนะ เมื่อเข้าไปภายในสถานที่ อาคาร และพื้นที่ใดๆ ของธนาคาร
(ต่อไปในนโยบายฉบับนี้หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลที่บันทึกจาก CCTV
ข้างต้น รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”)
- ธนาคารเก็บรวบรวมใช้ และ /
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง
ธนาคารจะเก็บรวบรวมใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยอาศัยฐานทางกฎหมายเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของธนาคาร เช่น
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
เพื่อดำเนินการตามความยินยอมที่ได้รับ
และ / หรือเพื่อดำเนินการ ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ
สำหรับวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- 3.1 เพื่อความปลอดภัยของชีวิต ร่างกาย สุขภาพอนามัย และ / หรือทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
- 3.2 เพื่อตรวจสอบ สังเกตการณ์ และควบคุมการเข้ามาภายในอาคาร สถานที่ พื้นที่ใดๆ ของธนาคาร
และเพื่อป้องกัน ระงับ ลดความเสี่ยงจากการประพฤติมิชอบ อาชญากรรม
การฝ่าฝืนกฎหมาย และ /
หรือโรคติดต่อ
เพื่อการรักษาความปลอดภัยของอาคาร
สถานที่ พื้นที่ใดๆ ของธนาคาร ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง บุคลากร พนักงาน ผู้มาติดต่อ
ทรัพย์สิน และข้อมูลของธนาคารที่ตั้งอยู่ หรือเก็บไว้ในสถานที่นั้นๆ
- 3.3 เพื่อช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาท การสืบสวนสอบสวน
การดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียน และการแจ้งเบาะแสอย่างมีประสิทธิภาพ
- 3.4 เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินคดี ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การพิสูจน์
หรือหักล้างในการดำเนินคดีอาญา คดีแพ่ง คดีแรงงาน
- 3.5 เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย และ / หรือ ให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล
หน่วยงานของรัฐ และผู้มีอำนาจตามกฎหมาย
- 3.6 เพื่อการใช้สิทธิของธนาคาร หรือปกป้องผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของธนาคาร
- 3.7 เพื่อใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการภายในธนาคารเอง
- ธนาคารอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ใครบ้าง
ธนาคารจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ
และจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเฉพาะเพียงบริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร
ผู้ให้บริการของธนาคาร ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐ ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย
หรือบุคคลภายนอกอื่นใดเฉพาะกรณีที่กฎหมายกำหนด
ให้ดำเนินการดังกล่าวเท่านั้น และ / หรือเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
- ธนาคารส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศหรือไม่
ธนาคารอาจมีความจำเป็นต้องส่ง
หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศให้แก่บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร
ผู้ให้บริการของธนาคาร หน่วยงานของรัฐ ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ
หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของธนาคาร
เช่น การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ไปเก็บไว้บน
แพลตฟอร์มคลาวด์
หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เป็นต้น
กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ
ธนาคารจะดูแลให้มั่นใจว่าการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็น
และเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น
มีข้อตกลงกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าวเพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย
หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร
ธนาคารอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน
(Binding Corporate Rules) ที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และจะดำเนินการให้การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
ไปยังบริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร
ที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวก็ได้
- ธนาคารจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด
ธนาคารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้
โดยมีระยะเวลาในการจัดเก็บไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ท่านได้เข้าอาคาร สถานที่ และ /
หรือพื้นที่ใดๆ ของธนาคาร หรือในกรณีที่มีการดำเนินการทางศาล
หรือทางวินัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้ จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว
ซึ่งรวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ด้วย หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ ธนาคารจะมีการดำเนินการในขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อทำการลบ
หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้
เมื่อหมดความจำเป็น หรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
- ธนาคารคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
ธนาคารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค
(Technical Safeguard) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (Administrative Safeguard)
และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard)
เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน สภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อป้องกันการเข้าถึง
เก็บรวบรวม เปลี่ยนแปลง แก้ไข ใช้ และ /
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ
ทั้งนี้เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
ธนาคารได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
โดยธนาคารได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
มาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้งานอุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บ
และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัย
และเหมาะสม การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
การกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน
สิทธิในการอนุญาตให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูล
และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บ
หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยจัดให้มีมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ
หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการ
และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
รวมถึงการตรวจสอบเพื่อประเมินประสิทธิผลของการปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบ
และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา
และผู้รับข้อมูลจากธนาคารมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่
ธนาคารกำหนดขึ้น
- สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง
สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ
โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้
หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่ธนาคารกำหนดขึ้น
และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20
ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรม ตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดา และ / หรือมารดา
ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์
- สิทธิขอถอนความยินยอม
- สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่ธนาคารอาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการ
ตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล
เพื่อประโยชน์สาธารณะ
การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากธนาคารปฏิเสธคำขอข้างต้น
ธนาคารจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
ทั้งนี้ ท่านสามารถดำเนินการขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
Download แบบฟอร์มการใช้สิทธิได้ที่นี่
- ธนาคารจะแก้ไขเพิ่มเติม หรือปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หรือไม่
ธนาคารอาจพิจารณาทบทวนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง
หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม และเท่าที่กฎหมายอนุญาต ทั้งนี้
ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้
ธนาคารจะดำเนินการประกาศนโยบายฉบับปัจจุบันให้ท่านทราบบนเว็บไซต์ของธนาคาร
- ท่านจะติดต่อธนาคาร และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างไร
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวมใช้
และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อธนาคาร และ /
หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้