สินเชื่อ/ธุรกิจ
รวยด้วยเงินกู้
แน่ละชีวิตเราอยากจะประสบความสำเร็จ สมปรารถนาที่จะมีเงินมากขึ้น แต่ก็กังวลว่าหากนำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนจะไม่คุ้มค่าหรือหากขาดทุนเงินที่มีอยู่ก็จะหมดไปทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ
แต่หากอยากประสบความสำเร็จก็ต้องกล้าเสี่ยงบ้าง ช่วงเริ่มต้นก็อาจใช้แค่เงินของตนเอง แต่ถ้าได้ลองทำธุรกิจไปสักพักอาจมองเห็นลู่ทางนำเงินคนอื่นมาใช้ในธุรกิจได้ และอาจทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ส่วนจะทำอย่างไรได้บ้างนั้น บทความนี้ K-Expert มีคำตอบให้แน่นอน
• ทำธุรกิจรวยด้วยเงินกู้
จุดเริ่มการลงทุนด้วยเงินตนเองจะรวยได้เท่าที่เงินตัวเองจะทำได้ ธุรกิจที่เติบโตด้วยทุนตัวเองจะโตได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น แต่หากมีการจัดหา
แหล่งเงินลงทุนทำให้เงินเพิ่มเป็นหลายเท่าจากเงินที่ตัวเองมีอยู่ ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตและกำไรได้มากขึ้น เพราะจะมีอำนาจในการต่อรอง ซื้อของได้ราคาถูกลง หรืออาจถึงขั้นกำหนดราคาขายสินค้าในตลาดเองได้ ยิ่งมีการซื้อสินค้ามากขึ้นหรือซื้อด้วยเงินสดก็จะได้รับส่วนลดทางการค้า ส่งผลให้มีการเติบโตทั้งยอดขาย ช่องทางขายที่กว้างขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้มีเงินรองรับลูกหนี้ทางการค้าสูงขึ้น และอาจสามารถเพิ่มเทอมทางการค้าให้กับลูกหนี้ ซึ่งก็วนกลับมาเป็นยอดขายที่สูงขึ้นนั่นเอง ในขณะที่ต้นทุนการซื้อถูกลง กำไรก็มีโอกาสสูงขึ้น รวมถึงการนำเงินไปใช้วางแผนจัดการสต๊อกสินค้า เช่น สามารถสต๊อกสินค้าได้มากขึ้น หากคาดว่าว่าราคาสินค้าหรือวัตถุดิบจะสูงขึ้นในอนาคต
• รวยเร็วทวีคูณกับการวางแผนการรับเงิน
การจัดหาแหล่งเงินบางประเภทสามารถกำหนดการเบิกจ่ายได้ ทำให้สามารถวางแผนการเสียดอกเบี้ยเพื่อบริหารจัดการและต่อยอดด้วยการกำหนดการใช้เงินให้ถูกประเภทและถูกรอบเวลาการใช้เงิน เป็นการบริหารจัดการทางการเงินจากเล็กไปสู่ใหญ่ ด้วยการระดมเงินทุนจากหลายแหล่งเงินกู้บางแหล่งอาจกู้ได้ถึง 100% เต็มของมูลค่า หากเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่ราคาตลาดสูงกว่าราคาซื้อขายจริง
เช่น การทำธุรกิจโดยรับเงินมัดจำก่อนการทำงานและนำเงินมาเป็นรายได้เพื่อใช้ในธุรกิจก่อน ซึ่งลักษณะธุรกิจแบบนี้ก็คือธุรกิจที่รับงานเป็นโปรเจคโดยรับเงินก่อนส่งสินค้า รับเงินดาวน์ก่อนการสร้างบ้านนั่นเอง ซึ่งเป็นการอาศัยเงินจากผู้ซื้อมาลงทุนสร้างหรือใช้ในธุรกิจ เสมือนได้เงินจากลูกค้าโดยไม่มีดอกเบี้ย หรือการจัดหาเงินบนการเทรดสินค้า ที่แทบไม่ต้องลงทุนก่อนขายได้ โดยจะขายสินค้าก็ต่อเมื่อมีคำสั่งซื้อแล้วซึ่งไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้า ส่งผลให้เป็นการลดความเสี่ยงในการลงทุนซึ่งเป็นเงินจมในระยะเวลาหนึ่ง จึงสามารถทำกำไรได้โดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก
• รวยอย่างมั่งคั่งด้วยเงินกู้
นอกจากการทำธุรกิจแล้ว การลงทุนบางอย่างอาจได้รับอัตราผลตอบแทนในอนาคตที่มากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไป เนื่องจากหากมีการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มอัตราการเติบโต เช่น ในอดีต 10 ปี ที่ผ่านมาอาจมีทรัพย์สินบางอย่างที่ราคามีการเติบโตกว่า 50% ซึ่งหากเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับการกู้เงินแล้ว อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ว่าอาจต่ำกว่าอัตราการเติบโตของราคาทรัพย์สินนั้น
เช่น เราสามารถสร้างสินทรัพย์ อย่างที่ดิน บ้านพร้อมที่ดิน หรือคอนโดได้ ในราคา 1,250,000,000 บาท ด้วยเงินตัวเอง 250,000 บาท และด้วยเงินกู้ 1,000,000 บาท (สมมติสัดส่วนเงินกู้ 80%จากราคาประเมิน) เงินผ่อนชำระเดือนละประมาณ 11,610 บาท ระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า อัตราดอกเบี้ย 7%ต่อปี ซึ่งตลอดการกู้ 10 ปี จะมีดอกเบี้ยรวมประมาณ 393,200 บาท คิดเป็นเงินลงทุนพร้อมดอกเบี้ยรวม 1,643,200 บาท (= เงินลงทุนเริ่มต้นของตัวเอง 250,000 บาท + เงินผ่อนรวม 11,610 x 120 เดือน) หากสินทรัพย์ที่ลงทุนมีอัตราการเพิ่มขึ้นของมูลค่าประมาณปีละ 2.77%ต่อปี ในอีก 10 ปีข้างหน้า มูลค่าสินทรัพย์ก็จะเทียบเท่ากับเงินลงทุนพร้อมดอกเบี้ยที่เราจ่ายไป
แต่ในความเป็นจริงแล้วสินทรัพย์ที่ว่าอาจมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่านี้ เช่น หากมีอัตราการเติบโต 4%ต่อปี เมื่อผ่านไป 10 ปี สินทรัพย์ที่ลงทุนไปจะมีมูลค่า 1,850,305 บาท หรือเติบโตโดยรวมประมาณ 50% ตลอดช่วงเวลาที่ลงทุนเลย
อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างการลงทุนในสินทรัพย์ข้างต้นเป็นการลงทุนระยะยาว แต่หากจะกล่าวถึงการลงทุนระยะสั้นแค่หลักวัน หลักสัปดาห์ หรือหลักเดือน โดยอาจเป็นการนำเงินทุนของกิจการที่คาดว่ายังไม่ใช้ในธุรกิจในช่วง 1 เดือนนี้ ก็อาจนำเงินของธุรกิจไปพักในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ที่สามารถขายคืนได้ทุกวันทำการ และจะได้รับเงินค่าขายคืนภายใน 1 วันทำการถัดจากวันทำรายการขายคืน (T+1) เช่น กองทุน K-CASH (กองทุนเปิดเค บริหารเงิน) ที่มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 1.45% (ข้อมูล ณ วันที่ 12 ธ.ค. 62) ซึ่งแม้ผลตอบแทนจะไม่ได้สูงมากมาย แต่ก็สูงกว่าการเก็บไว้เฉยๆ ในเงินฝากทั่วไป
เงินตัวเองแม้ปลอดภาระแต่ก็เติบโตได้อย่างจำกัด แต่การใช้เงินคนอื่นที่อัตราการเติบโตอาจสูงกว่าต้นทุนดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ การเลือกสัดส่วนเงินตัวเองและเงินคนอื่น ให้เหมาะกับศักยภาพของธุรกิจ ประสบการณ์ และความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ ทั้งจากธุรกิจและจากสิ่งที่นำเงินไปลงทุน ประกอบกัน
ผลิตภัณฑ์ หรือ Tools ที่เกี่ยวข้อง :
• สินเชื่อธุรกิจทั่วไป (Loan)
• สินเชื่อธุรกิจโครงการพิเศษ
• กองทุน K-CASH
บทความที่เกี่ยวข้อง :
• 4 เทคนิคหมุนเงินให้คล่อง สำหรับ SME