ออมและลงทุน
สังคมไร้เงินสด ทุกอย่างจบในแชทเดียว
วิวัฒนาการการสื่อสารของมนุษย์ ถูกพัฒนาเพื่อทำให้เราเรียนรู้และเข้าใจกันมากขึ้น โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น ขนาดของสังคมก็ใหญ่ขึ้น โดยที่เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างไร้พรมแดน
หากมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการสื่อสารที่ไร้พรมแดนนี้ โดยที่เทคโนโลยีการสื่อสาร เริ่มมีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวันมากกว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูล เราคงไม่พูดถึงการสื่อสารด้วยนกพิราบ การส่งจดหมายผ่านไปรษณีย์ แต่ยุคที่เริ่มมีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง มีการส่งข้อความสื่อสารกัน ค่อนข้างเรียลไทม์คงหนีไม่พ้น “เพจเจอร์” พูดถึงตรงนี้ หลายๆ ท่านที่อ่านบทความนี้อยู่ อาจเกิดไม่ทัน หรือไม่เคยใช้งานเจ้าเพจเจอร์ที่ว่านี้ จึงอยากจะขอเล่าเพิ่มสักหน่อย เพจเจอร์เป็นเพียงเครื่องมือในการรับข้อความสั้นๆ เพียงทางเดียว โดยผู้ส่งจะต้องโทรและฝากข้อความผ่านโอเปอร์เรเตอร์ เป็นตัวกลางในการสื่อสารอีกด้วย ถัดมาเมื่อมีอินเตอร์เน็ต แน่นอนว่ามาพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าแบบไม่หยุดยั้ง โปรแกรมส่งข้อความในยุคแรกๆ ที่หลายๆ คนน่าจะเคยใช้งานคงหนีไม่พ้น “MSN Messenger” เรียกได้ว่าเป็นยุคแรกของเครือข่ายสังคม หรือ Age of Social Network เมื่อเลิกเรียนหรือเลิกงานหลายๆ ท่านมาออน (Online) ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พร้อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบโมเด็ม ขูดรหัสเติมชั่วโมงจากบัตร เพื่อรอคุยกัน รอเขย่าหน้าจอทักทายกัน (เล่าระเอียดขนาดนี้รู้อายุผู้เขียนเลย ^^) ใหม่ขึ้นมาอีกสักนิดเป็นยุคแห่ง Social Media เต็มรูปแบบ เพราะเป็นยุคของ 3G และ Wi-Fi การสื่อสารเริ่มติดตัวเราไปทุกที่ ทุกเวลา เปลี่ยนจากหน้าจอคอมมาอยู่ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ส่วนแอพพลิเคชั่นสำหรับแชทที่โด่งดังในยุคแรกๆ คงจะเป็น “WhatsApp” หลายๆ ท่านที่อ่านบทความนี้น่าจะต้องเคยผ่านการใช้งานมาบ้าง ซึ่งในหลายๆ ประเทศยังเป็นที่นิยมอยู่ถึงขณะนี้ แต่แน่นอนเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4G และ 5G ในปัจจุบัน แอพฯที่คนไทยผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้งานกันนั่นคือ “LINE” (ไลน์)
เราอยู่ในยุคที่ไม่ขอเบอร์โทรศัพท์กัน แต่ขอ add LINE ยุคที่คนส่วนใหญ่ใช้โทร LINE มากกว่าการโทรออกจากฟังก์ชั่นโทรศัพท์ปกติ เหตุผลหลักคือ “ฟรี” ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขอแค่มีอินเตอร์เน็ต นอกจากฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เราใช้งานฟรีกันจนชินใช้แล้ว ในวันนี้ LINE ไม่ได้มีดีแค่ user friendly หรือการใช้งานที่ง่าย การส่งข้อความ ส่งรูป ส่งเสียง ส่งสติ๊กเกอร์น่ารักๆ คุยกันเป็นกลุ่ม เปิดโพลให้เพื่อนๆ ร่วมโหวต ฯลฯ LINE ยังมีฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่ทำให้ชีวิตเราง่ายกว่าเดิมโดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ
ในเมื่อ LINE เปรียบเสมือนแอพฯ สามัญประจำบ้านที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องมีอยู่ในโทรศัพท์กันอยู่แล้ว เทคโนโลยีที่ก้าวไกลทำให้เกิดความง่ายและความสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแชทกับเพื่อนเรื่องงานอยู่ดีๆ นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนยังไม่ได้จ่ายค่าข้าวมื้อกลางวันที่ไปกินด้วยกันเลย ก็มีฟังก์ชันลับใน แชท ช่วยทวงเงินเพื่อนแบบไม่ต้องเขิน พร้อมทั้งระบุจำนวนที่อยากทวงได้ทันที หรือจะทวงเป็นแก๊งก็ยังได้ หรือเวลาจะโอนเงินให้เพื่อนก็ไม่ต้องสลับแอพฯไปมา แค่เลือกชื่อเพื่อนใน LINE ก็โอนได้เลย โดยหักจากบัญชีต่างหาก ไม่ต้องเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากหลักของเราก็ได้
ส่วนใครสายออนไลน์ ไม่ว่าจะชอปปิง สั่งอาหาร หรือแม้กระทั่งจองที่พักทั่วโลก ล่าสุดมีบัตรเดบิตออนไลน์ให้สายชอปออนไลน์ตัวยงต้องร้องว้าว เพราะจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย
ใครที่ชอปเยอะแล้ว อยากให้ระวังเรื่องเงินเก็บด้วย ถ้าจะเก็บเงินในกระปุกออมสินก็ไม่ได้อะไร ย้ายมาเก็บในบัญชีออนไลน์ สะดวกสบายมีดอกเบี้ยให้ด้วย กดเงินสดที่ตู้ ATM ก็ไม่ต้องใช้บัตรให้เปลืองค่าธรรมเนียมรายปี อยากสร้างระเบียบวินัยในการออม ก็ลองใช้ฟังก์ชั่นเก็บเงินตามเป้าหมายได้ง่ายๆ หักเงินออมอัตโนมัติทุกเดือนไม่ต้องกลัวลืม แถมดอกเบี้ยก็สุดปัง
หรือถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินร้อนเงินขึ้นมาเมื่อไหร่ LINE ยังแปลงร่างเป็นกระเป๋าเงินสำรองให้เราได้อีกด้วย ความพิเศษคือขอวงเงินสินเชื่อง่ายๆ ไม่ต้องไปธนาคาร ไม่ต้องมีรายได้ประจำก็กู้ได้ แถมอยากเลือกจ่ายคืนแบบขั้นต่ำหรือผ่อนชำระเป็นงวดสบายๆ ก็ยังได้
พูดไปก็เหมือนขายของ แต่ที่เล่ามาทั้งหมดแค่อยากจะบอกว่าวิวัฒนาการการสื่อสารก้าวไกลกว่าที่เราคิด หากอยากรู้ว่าโลกจะไปไกลได้แค่ไหนคงต้องลองสมัคร “LINK BK” มาใช้แล้วล่ะ สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย มีแล้วจะได้คุยกับเขารู้เรื่อง แต่อย่าลืมความรวดเร็วของเทคโนโลยีก็มาพร้อมกับสิ่งที่ต้องระวัง ทุกครั้งที่คลิกอ่านสักนิดก่อนติ๊กยอมรับหรือตอบตกลงทำธุรกรรมอะไร ขอให้สนุกกับการใช้เทคโนโลยีนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- เทคโนโลยีวัน New Normal
- SOCIAL DISTANCING โลกใหม่ที่มีเรา
- รู้ทัน ก่อนถูกสวมรอยออนไลน์
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง:
- LINK BK