ออมและลงทุน
Wealth Plus ทางเลือกลงทุนในยุคดอกเบี้ยต่ำ
เรื่องราวใน “อดีต” ที่ไม่มีวันย้อนกลับมาแต่ก็มี “ความสุข” เมื่อนึกถึง คือเรื่องอะไรกันบ้างครับ สมัยเริ่มทำงานใหม่ๆ ดอกเบี้ยเงินฝากประจำธนาคารพาณิชย์สมัยนั้นสูงถึง 15% ต่อปี เรียกได้ว่า “นั่งกินดอกเบี้ยกันได้อย่างสบาย” เคยคิดเล่นๆ ใครที่มีเงินเก็บสักก้อน 3 ล้าน จะเลือกฝากเงินอย่างเดียวแล้วไม่ต้องทำงานก็ได้ เพราะดอกเบี้ยที่ได้รับเดือนละ 37,500 บาทหรือปีละ 4.5 แสนบาท เชื่อมั้ยครับว่าดอกเบี้ยที่ได้รับในแต่ละเดือนยังมากกว่าเงินเดือนพนักงานจบปริญญาโทสมัยนั้น หันมามองดอกเบี้ยเงินฝากประจำวันนี้เหลือเพียงไม่ถึง 1% ฝากทั้งปีได้ผลตอบแทนนิดเดียว แล้วจะมีทางเลือกไหนที่สามารถเพิ่มผลตอบแทนที่ดีในยุคดอกเบี้ยต่ำได้บ้าง
ลงทุนอะไรดีที่ให้ผลตอบแทนสูง
คำถามยอดฮิตที่ว่า “ลงทุนอะไรดีที่ให้ผลตอบแทนสูง” ท่านผู้อ่านมีคำตอบในใจกันมั้ยครับ ถูกต้องแล้วครับ การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ส่วนใหญ่จะนึกถึงการลงทุนในหุ้นรายตัวในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูง แต่ถ้าพิจารณาถึงความเสี่ยงควบคู่ไปด้วย ก็มีโอกาสที่จะขาดทุนได้สูงเช่นกัน เห็นได้จากต้นปีดัชนีตลาดหลักทรัพย์สูงสุดต้นปีที่ 1,600.48 จุด เมื่อ 17 ม.ค. 63 และจุดต่ำสุดที่ 1,024.46 จุดเมื่อ 23 มี.ค. 63 โดยระหว่างวันซื้อขายดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีหลุด 1,000 จุดให้เห็น ดังนั้น ถ้าเลือกซื้อขายผิดจังหวะ ซื้อต้นปี และขายตอนจุดต่ำสุด จับจังหวะได้แม่นยำ ก็มีโอกาสที่จะขาดทุนได้สูงถึง 36% ในระยะสั้นๆเพียง 3 เดือน แต่ถ้าเรา ”เอาชนะความกลัว” และกล้าลงทุนตอนที่คนส่วนใหญ่ “เทขายหุ้น” เราก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนสูงถึง 40% (1,438 จุด ณ 8 มิ.ย. 63) ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนเช่นกัน จะเห็นได้ว่า “การลงทุนหุ้น มีความผันผวนสูง” มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงมากๆ แล้วมันเหมาะกับเรามั้ย คำถามที่ท่านผู้อ่านต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ถ้าลงทุนสัก 1 ล้าน ผ่านไป 3 เดือน เงินเหลือเพียง 6.4 แสน เรารับได้มั้ย
Wealth Plus ตัวช่วยจัดพอร์ตการลงทุนส่วนตัว
ถ้าไม่อยากเสี่ยงลงทุนใน ”หุ้นรายตัว” ที่มีความผันผวนสูง การลดความเสี่ยงด้วยการวางแผนจัดสรรเงินลงทุนไปในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง ตามคำที่ว่า “อย่าใส่ไข่ไว้ในตระกร้า ใบเดียว” เพราะเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นมา จะได้ไม่สูญเสียเงินไปทั้งหมด การลงทุนที่ดีควรมีความหลากหลายของสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น เงินฝาก หุ้น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ หุ้นกู้ ทองคำ ฯลฯ เพราะเมื่อสินทรัพย์ตัวหนึ่งที่ขาดทุน จะถูกชดเชยด้วยผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ อย่างเช่นในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลง ก็ยังมีผลตอบแทนจากตราสารหนี้และทองคำ มารองรับผลขาดทุนจากตลาดหุ้นได้บ้าง
การรู้ถึงความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเองและรู้จักเลือกสินทรัพย์ที่ลงทุน รวมไปถึงลักษณะการจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว หากเรา “ไม่มีเวลาดูข้อมูล ไม่รู้จะเริ่มเลือกตัวไหนดี” ตอนนี้มีตัวช่วยในเรื่องการลงทุนใน “App K PLUS” เลือกการลงทุน ที่ชื่อว่า “Wealth plus” ซึ่งข้อดี คิอ มีการจัดการพอร์ตการลงทุนในกองทุนรวมแบบอัตโนมัติที่เหมาะกับความเสี่ยงของผู้ลงทุน โดยเราสามารถเลือกเป้าหมายการลงทุนได้และมี ”การปรับพอร์ตอัตโนมัติให้ทุกๆ 6 เดือน” หรือเมื่อมีสถานการณ์พิเศษต่างๆเกิดขึ้น โดยไม่ต้อง monitor พอร์ตหรือคอยจับจังหวะการลงทุนเอง เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวในการให้คำแนะนำการลงทุน
การสร้างแผนการลงทุนใหม่ได้ 2 แบบ คือ แบบแรก “ลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง เพื่อผลตอบแทน เอาชนะเงินฝาก” แบบที่สอง “ลงทุนเพื่อเป้าหมาย จัดพอร์ตลงทุนให้ทุกความฝันเป็นจริง” การจัดพอร์ตเลือกกองทุนให้อัตโนมัติ ตามแผนการลงทุนที่ต้องการ จะมีการประเมินความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งความเสี่ยงของผู้ลงทุน มีทั้งหมด 5 ระดับ จาก “ระดับต่ำ” ไปถึง “ระดับสูง” โดยตัวช่วยการลงทุน จะแนะนำพอร์ตการลงทุนโดยพิจารณาจากการประเมินความเสี่ยงของเรา และจะจำลองแผนการลงทุนให้เห็นผลตอบแทนคาดหวังในทันที โดยสามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้ตามใจเรา เช่น ปรับเงินลงทุนเพิ่ม ปรับเงินลงทุนรายเดือน ปรับระยะเวลาการลงทุนหรือปรับความเสี่ยงเพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
นอกจากการกระจายการลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงที่รับได้แล้ว อย่าลงทุนเพลินจนลืมกันเงินส่วนหนึ่งสำรองไว้เผื่อค่าใช้จ่ายฉุกเฉินด้วยอย่างน้อย 6 เท่าของรายได้สำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำ และ 12 เท่าของรายได้สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสสระ โดยบัญชีเงินฝากสภาพคล่องสูง แนะนำให้เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิคส์ หรือ K-eSavings ที่ได้ผลตอบแทนสูงถึง 1.50% ต่อปี สามารถเปิดบัญชีง่ายด้วยตัวเองผ่าน K-PLUS เปิดปุ๊ปใช้งานได้ปั๊บ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ