26 พ.ย. 62

ใช้บัตร ไม่เท่ากับหนี้

คะแนนเฉลี่ย

ออมและลงทุน
ใช้บัตร ไม่เท่ากับหนี้

          เชื่อว่าใกล้ช่วงปลายปีหลายคนคงเริ่มวางแผนชอปปิง มองหาของขวัญ และที่ท่องเที่ยว (รวมถึงการออมและการลงทุน สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ เพราะจะได้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี) ในครั้งนี้เราจะมาเน้นย้ำ และช่วยเตือนเพื่อนๆ สำหรับการใช้บัตรเครดิตในช่วงเวลาแห่งความสุขให้ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งบางครั้งเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยที่เราอาจมองข้ามไป วันนี้ K-Expert จึงมาช่วยสะกิดและเตือนเพื่อนๆ หากทุกคนพร้อมแล้วก็ลองมาอ่านข้อเตือนใจก่อนใช้บัตรเครดิตกันเลย 


1. รู้จุดมุ่งหมายของการใช้บัตรเครดิตแต่ละประเภท

         สิ่งแรกที่เราควรรู้คือ จุดมุ่งหมายหรือสถานที่ที่จะไปชอปปิงหรือใช้บริการ เพื่อจะได้วางแผนเลือกใช้บัตรได้ถูกประเภท เพราะปัจจุบันมีบัตรเครดิตร่วมโครงการต่างๆ มากมาย เช่น ศูนย์การค้าสยามพารากอน บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ปั๊ม ปตท. เทสโก้ โลตัส โฮมโปร หากเราเลือกใช้บัตรได้ถูกที่ ถูกเวลา และถูกใบ เราจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งจากการสะสมคะแนน รับเงินคืน และแลกรับส่วนลดต่างๆ ของโปรโมชันบัตรแต่ละประเภทได้อีกด้วย


2. รู้รอบการตัดบัญชีของบัตรเครดิตแต่ละใบ

ารรู้รอบตัดบัญชีของบัตรแต่ละใบจะช่วยให้เราสามารถวางแผนการใช้บัตรได้อย่างเหมาะสม เพราะหากวางแผนดีดี    เราจะสามารถขยายระยะเวลาการชำระได้สูงสุดถึง 45 วัน และปลอดดอกเบี้ยหากเราชำระเต็มจำนวนและตรงเวลาอีกด้วย เช่น บัตรเครดิตตัดบัญชีวันที่ 10 ของทุกเดือน ก็ให้เริ่มใช้บัตรตั้งแต่วันที่ 11 เป็นต้นไป เพื่อให้มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยที่นานขึ้น จะเห็นว่า แค่ขยับการใช้บัตรให้ช้าลงเพียง 1 วัน รอบการจ่ายบัตรก็ขยายเวลาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงปลายปีแบบนี้บัตรเครดิตบางประเภทยังให้มีการชำระแบบผ่อน 0% นาน 3 เดือน หรือ 6 เดือน ถ้าวางแผนดีดี งานนี้เราสามารถเดินทางไปพักผ่อน ท่องเที่ยว กินใช้ แบบบินก่อน กินก่อน แล้วค่อยผ่อนทีหลังได้ ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่า หลังกลับมาจากเที่ยวแล้ว เราได้เตรียมเงินไว้สำหรับผ่อนชำระแบบ 0% ในทุกๆ เดือนเรียบร้อยแล้วด้วย


3. ใส่เงินไว้ในบัญชีเงินฝากเท่ากับยอดบัตรที่รูด

หากเพื่อนๆ คนไหนเป็นคนที่มีระเบียบวินัยการใช้เงินที่ดี รู้ว่าตัวเองรูดบัตรและใช้จ่ายไปเท่าไร แนะนำให้นำจำนวนเงินเท่ากับยอดที่ใช้จ่ายไปใส่ไว้ในบัญชีสำหรับตัดบัตร เช่น รูดบัตรไป  20,000 บาท ก็ให้นำเงินจำนวน 20,000 บาท ใส่ไว้ในบัญชีเงินฝากเพื่อเตรียมชำระบัตร เพราะเมื่อถึงเวลาที่บัตรเรียกเก็บมาก็ไม่ต้องมากังวลว่าธนาคารจะเรียกเก็บเมื่อไหร่ เงินในบัญชีจะพอตัดหรือไม่ เพราะเราได้กันเงินส่วนนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว

          ถ้าเราสามารถปฎิบัติได้ เริ่มจากเรื่องเล็กๆ แบบนี้ ก็จะทำให้เราวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างเป็นระบบ และทำให้รายการเดินบัญชีของเรามีการเคลื่อนไหวที่ดีอย่างต่อเนื่องด้วย

          นอกจากการจับจ่ายใช้สอยจากบัตรเครดิตแล้ว อีกเรื่องที่อยากมาเตือนเพื่อนๆ คือ การใช้บัตรเครดิตสำหรับการออมและการลงทุน เพราะหลายครั้งที่เราเสียโอกาสที่จะต้องมารอปลายปีแล้วค่อยมาซื้อประกัน กองทุน สำหรับใช้ลดหย่อนภาษี ซึ่งจริงๆ แล้วไม่จำเป็นเลยที่เราต้องมารอเวลาเพราะเราสามารถค่อยๆ ทยอยสะสมการลงทุนในกองทุน LTF & RMF ผ่านบัตรเครดิตได้ทุกเดือน เริ่มต้นขั้นต่ำในการตัดบัตรเพียงเดือนละ 500 บาท ก็สามารถสร้างวินัยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอได้ เช่นเดียวกับการซื้อประกัน เราจะได้รับความคุ้มครองหลังจากการซื้อประกันผ่านบัตรเครดิต และยังสามารถผ่อนชำระได้นานถึง 3-6 เดือน โดยไม่คิดดอกเบี้ยและยังได้คะแนนสะสม มากไปกว่านั้นเวลาชำระเบี้ยปีต่ออายุ เราอาจได้รับ Cash back คืนอีกด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับโปรโมชันของแต่ละที่แต่ละช่วง ถ้ารู้แบบนี้แล้ว หากเราเป็นคนที่มีวินัยในการใช้จ่ายและมีวินัยในการชำระหนี้ เราก็ควรเริ่มออมและลงทุนผ่านบัตรเครดิตเพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับตัวเราได้

          การใช้บัตรเครดิตไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเราใช้เป็น บัตรเครดิตจะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ดีที่จะเป็นตัวช่วยให้เราได้ประโยชน์สูงสุด นอกจากการจับจ่ายใช้สอยแล้ว ยังสามารถต่อยอดไปถึงการออม การลงทุน รวมไปถึงการคุ้มครองป้องกันความเสี่ยงให้กับตัวเราและคนที่เรารักได้อีกด้วย และที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ต้องเกิดจากตัวเรา ถ้ามีการวางแผนในการใช้จ่ายอย่างมีระบบและมีเป้าหมายที่ชัดเจน และรู้จักใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการวางแผนทางการเงิน สิ่งสำคัญมากๆ คือ การที่ผู้ถือบัตรเครดิตมีวินัยในการชำระหนี้บัตรเครดิต แบบนี้เราก็จะพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า “ใช้บัตรยังไงก็ไม่เป็นหนี้” 

 
บทความที่เกี่ยวข้อง :


ให้คะแนนบทความ

อัญชลี แซ่ลิ้ม

ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า ธนาคารกสิกรไทย