ออมและลงทุน
ตัวช่วยจัดการเงินในยุคที่เปลี่ยนไป
“แม้เวลาจะผ่านไป แต่เทคโนโลยีก็ยังเป็นตัวช่วยจัดการเงินให้เราได้อย่างรู้ใจไม่เปลี่ยนแปลง”
เมื่อเรานึกย้อนถึงภาพความทรงจำในอดีต เวลาที่เราเข้าไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร จะเห็นลูกค้าของธนาคารนั่งกันแน่นเต็มสาขา ยิ่งช่วงสิ้นเดือนด้วยแล้ว แน่นจนแทบจะไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว แต่พอเวลาผ่านไปภาพเหล่านั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและถูกพัฒนาให้รู้ใจผู้ใช้งานมากขึ้น จนเราสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้โดยไม่ต้องไปธนาคาร การจัดการเงินก็เช่นเดียวกัน เราลองมาดูกันว่าเทคโนโลยีที่รู้ใจช่วยจัดการเงินให้เราได้อย่างไรในยุคที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ค่ะ
ตัวช่วยจัดการค่าใช้จ่าย
สิ่งแรกที่จะช่วยให้เราจัดการค่าใช้จ่ายได้ คือ การทำบันทึกรับจ่ายค่ะ เพราะการทำบันทึกรับจ่ายช่วยให้รู้ว่าในแต่ละเดือนรายได้ของเราหมดไปกับค่าใช้จ่ายอะไร มีค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นหรือค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่สามารถปรับลดได้หรือไม่
•
อดีต การทำบันทึกรับจ่ายต้องทำการบันทึกเองด้วยกระดาษและมือ และบางครั้งก็อาจจำไม่ได้ว่าจ่ายอะไรไปบ้าง พอจะดูจากสลิปที่เก็บเอาไว้ บางทีสลิปก็หายบ้าง จนไม่แน่ใจว่าจ่ายไปแล้วหรือยัง ก็จ่ายซ้ำเข้าไปอีก หรือนึกว่าตัวเองจ่ายไปแล้วบ้าง ลืมจ่ายบ้าง ต่างๆ นานา เหล่านี้ จึงไม่แปลกที่น้อยคนนักจะทำบันทึกรับจ่ายสำเร็จ
•
ปัจจุบัน เทคโนโลยีช่วยให้เราทำบันทึกรับจ่ายได้ง่ายมากขึ้น โดยเราสามารถรู้ค่าใช้จ่ายด้วยการบันทึกเอง ผ่านแอปพลิเคชันบันทึกรับจ่ายที่มีให้เลือกดาวน์โหลดมากมาย และด้วยเทคโนโลยีที่รู้ใจมากขึ้น เราสามารถรู้ค่าใช้จ่ายจากพฤติกรรมการชำระ ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือจากธนาคารต่างๆ อย่างเช่น K PLUS ที่มีรายงานสรุปค่าใช้จ่ายประจำเดือนที่เกิดขึ้นจากการใช้จ่าย ทั้งที่เป็นเงินสดและ
บัตรเครดิตผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS โดยเราสามารถเลือกบันทึกธุรกรรมให้เป็นประเภทค่าใช้จ่ายได้ถึง 14 ประเภท เช่น ชอปปิ้ง อาหาร/เครื่องดื่ม บันเทิง ชำระบิล ค่าเดินทาง เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีตัวช่วยเตือนไม่ให้ลืมชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยจะมีการแจ้งเตือนเมื่อถึงวันที่ต้องชำระ และแสดงรายการเฉพาะบุคคลตามพฤติกรรมการชำระ เช่น เติมเงินอีซี่พาส จ่ายค่าไฟฟ้า เป็นต้น
และเพื่อป้องกันการลืมสำหรับค่าใช้จ่ายที่เราต้องโอนเป็นประจำ เช่น โอนเงินให้คุณพ่อคุณแม่ ก็สามารถตั้งโอนเงินล่วงหน้าได้ทั้งแบบรายเดือน รายสัปดาห์ หรือแบบครั้งเดียวค่ะ ซึ่งนอกจากการตั้งโอนล่วงหน้าไว้เป็นค่าใช้จ่ายแล้ว หากใครที่ต้องการมีเงินเก็บออม ขอแนะนำวิธีนี้เลยค่ะ เก็บออมก่อนใช้จ่าย ด้วยการตั้งโอนเงินล่วงหน้าในวันที่รายได้หรือเงินเดือนของเราเข้าบัญชี เพื่อโอนเงินไปอีกบัญชีไว้เก็บออมค่ะ
สำหรับใครที่ทำงานยุ่งๆ จนบางครั้งลืมจ่ายบ้าง จ่ายแล้วจ่ายอีกบ้าง ฟังก์ชันข้างต้นช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
ตัวช่วยในการจับจ่าย
สำหรับนักชอปปิงตัวยง การได้ชอปในร้านที่ถูกใจทั้งสินค้าและราคาถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งค่ะ แต่การจะหาร้านที่ถูกใจนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
•
อดีต หลายคนมักใช้วิธีการเดินเปรียบเทียบสินค้าและราคาแต่ละร้านไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ร้านที่ถูกใจ หรืออีกหลายคนก็เลือกวิธีการชอปแบบออนไลน์ เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการเดินเปรียบเทียบสินค้าและราคา แต่ยังมีความกังวลเพราะไม่มั่นใจว่าจ่ายเงินไปแล้วจะได้ของหรือไม่
•
ปัจจุบัน การชอปปิงทำได้ง่ายๆ แค่เลือกซื้อสินค้าที่ถูกใจบนมือถือผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร อย่าง K PLUS ที่จะเลือกร้านและสินค้าตามไลฟ์สไตล์การชอปปิงของเรา ไม่ว่าจะเป็นร้านประจำที่ชอบเข้าไปดูสินค้าบ่อยๆ หรือสินค้าที่เราชอบซื้อ เช่น กระเป๋า เสื้อผ้า เป็นต้น เมื่อมีโปรโมชันหรือมีสินค้าออกใหม่ก็จะนำมาให้เราเลือกซื้อ โดยร้านค้าเหล่านี้เป็นร้านค้าที่ใช้บริการ K PLUS SHOP ซึ่งหลังจากที่เราเลือกสินค้าที่ถูกใจแล้ว ก็สามารถทำรายการสั่งซื้อ เลือกวิธีการขนส่ง และสามารถชำระเงินได้ทันทีค่ะ
ส่วนการชำระเงินนั้น เราสามารถเลือกชำระทันทีเป็นเงินสด หรือหากใครมีคะแนน
บัตรเครดิตเยอะๆ แล้วยังไม่มีโอกาสใช้คะแนน สักที ถือว่าเป็นโอกาสดีเลยค่ะ เพราะเราสามารถใช้คะแนนใน
บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าได้เช่นกัน
ดังนั้น การซื้อสินค้าและชำระเงินด้วยวิธีนี้จึงช่วยสร้างความมั่นใจให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายในการรับ-จ่ายเงิน เพราะมีตัวกลางที่น่าเชื่อถืออย่างธนาคารค่ะ เพียงเท่านี้ การชอปปิงของเราก็สะดวกสบายแบบไม่ต้องพกเงินสดเลยค่ะ
ตัวช่วยตัดสินใจลงทุน
ปัญหาส่วนใหญ่ของคนเริ่มต้นลงทุน คือ ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร หรือไม่รู้จะลงทุนอะไรดี เพราะต้องยอมรับว่าการลงทุนนั้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก การมีข้อมูลช่วยตัดสินใจหรือมีผู้แนะนำที่เข้าใจและรู้ใจมาช่วยเลือกลงทุนให้ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนค่ะ
•
อดีต เวลาที่เราต้องการคำแนะนำเรื่องการลงทุน เชื่อว่าหลายๆ คน มักจะนึกถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารเป็นอันดับแรก แต่เมื่อไปที่สาขาธนาคารแล้ว ก็ไม่รู้จะไปถามใครดี ซึ่งอีกหลายคนเลือกที่จะหาข้อมูลเองตามหน้าเว็บไซต์ของสถาบันการเงินต่างๆ หรือค้นหาผ่าน Google
•
ปัจจุบัน หลายๆ สถาบันการเงินมีทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นลงทุน ด้วยการมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาวางแผนการเงิน รวมไปถึงเรื่องการลงทุนด้วย โดยเป็นบริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากใครที่ไม่อยากเดินทางไปหาผู้เชี่ยวชาญก็สามารถหาความรู้จากบทความของผู้เชี่ยวชาญที่สามารถอ่านและเข้าใจได้ง่ายในเรื่องที่เราต้องการอยากรู้ก่อนการลงทุน
| นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่รู้ใจเรามากขึ้น แอปพลิเคชันของธนาคารสามารถคัดเลือกกองทุนที่น่าสนใจในช่วงนั้น โดยที่เราไม่ต้องไปเลือกเอง สำหรับใครที่ยังไม่เคยลงทุนมาก่อนก็สามารถดูกองทุนที่น่าสนใจที่แอปพลิเคชันคัดเลือกมาให้ ไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเริ่มต้นลงทุนได้ เช่น แอปพลิเคชัน K PLUS ค่ะ
|
| โดยในแต่ละกองทุนจะมีข้อมูลที่มาจากต้นสังกัด เช่น ราคากองทุนย้อนหลังในรูปแบบกราฟที่ดูได้ง่ายๆ ค่ะ ซึ่งหากเราต้องการลงทุนก็สามารถทำรายการซื้อได้ทันที หรือภายหลังหากต้องการขายก็สามารถทำรายการได้ทันทีเช่นกันค่ะ
|
| และเมื่อเราได้มีการลงทุนไปเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเข้ามาดูพอร์ต หรือสรุปข้อมูลการ |
เห็นไหมคะว่า ในยุคปัจจุบันการจัดการเงินทำได้ง่ายดายกว่าในยุคเดิมมาก เพราะไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่เทคโนโลยีก็ยังถูกพัฒนาให้รู้ใจเรามากขึ้นนั่นเองค่ะ หากใครอยากมีตัวช่วยจัดการเงินด้วยเทคโนโลยีที่รู้ใจแบบนี้ ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน K PLUS ได้ที่ App Store สำหรับ IOS และ Google Play สำหรับ Android หรือดูรายละเอียดการสมัครได้ที่
คลิกที่นี่ ค่ะ