02 ธ.ค. 62

แลกเงินยังไงสะดวกสุด เวลาไปเที่ยว

คะแนนเฉลี่ย

ออมและลงทุน

แลกเงินยังไงสะดวกสุด เวลาไปเที่ยว


          หลังจากทำงานเหน็ดเหนื่อยมาทั้งปี ช่วงปลายปีนี้หลายคนคงจะเตรียมตัวไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนหลังจากซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ การเตรียมเงินสกุลต่างประเทศไปใช้ให้เพียงพอ โดยถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็มาแลกเงินสกุลต่างประเทศที่ธนาคาร บางครั้งถ้าต้องการแลกเงินจำนวนมากหรือเป็นเงินสกุลที่ไม่เป็นที่นิยม อาจจะต้องแจ้งธนาคารล่วงหน้าเพื่อสำรองเงินให้


          คนส่วนใหญ่มักกังวลว่าธนาคารจะคิดเรทแพง จึงวิ่งไปหาเรทถูกตามร้านแลกเงินต่างๆ เช่น ร้านสีเขียว ร้านสีส้ม ซึ่งหากเราพกเงินบาทจำนวนมากเพื่อไปแลกเงินที่ร้าน ก็จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางและความปลอดภัยในการพกเงินสด แต่บางคนคิดว่าแลกเงินสดไปนิดหน่อยก็พอ ที่เหลือเมื่อไปถึงเมืองนอกค่อยใช้บัตรเครดิต แถมยังได้คะแนนสะสมอีกด้วย หลังจากไปเที่ยวกลับมาดูสลิปบัตรเครดิตที่ธนาคารส่งมาเรียกเก็บ ถึงกับแปลกใจว่า ทำไมของที่ซื้อมาเมื่อคิดเป็นเงินบาทแล้วรู้สึกแพงกว่าปกติ จริงๆ แล้วการรูดใช้บัตรเครดิต ทางธนาคารจะมีการชาร์จค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศซึ่งสูงถึง 2.5% ทำให้หลายครั้งการใช้เงินสดซื้อสินค้าจะถูกกว่าการรูดซื้อด้วยบัตรเครดิต


          ปัจจุบันธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่างๆ มากมาย เพื่อมารองรับการแลกเงินรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้เราสะดวกเมื่อใช้จ่ายในต่างประเทศมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ไหนจะเหมาะกับใคร ลองอ่านดูเลยค่ะ



1. ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ อยากแลกเงินเรทถูก ไม่อยากถูกชาร์จ 2.5% จากการรูดใช้บัตรเครดิต และชอบของแจก ของแถม ตั้งงบประมาณท่องเที่ยวแบบจำกัดไม่บานปลาย แนะนำให้พก “บัตรเดบิต JOURNEY” กสิกรไทยติดตัวไว้


          • มีบัตร JOURNEY แล้ว ไม่ว่าจะแลกเงินสดที่ธนาคารกสิกรไทย หรือจะรูดใช้บัตร JOURNEY ซื้อสินค้าและบริการในสกุลเงินต่างประเทศ เรทจะถูกกว่าเรทปกติของธนาคารและร้านแลกเงินหลายแห่ง หากต้องการแลกเงินเรทถูก เพียงแค่โชว์บัตรให้เจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา ส่วนถ้าจะไปรูดซื้อสินค้าในสกุลเงินต่างประเทศ สำหรับบัตรเดบิต เราจะต้องมีเงินอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ให้ธนาคารหักเงินทันที ข้อดีคือการใช้บัตรนี้รูดจะไม่มีการชาร์จค่าธรรมเนียม 2.5% เหมือนบัตรเครดิต ถือเป็นการสร้างวินัยการเงินด้วยเช่นกัน คือมีเท่าไร ใช้เท่าที่มี กลับมาไม่ต้องทำงานใช้หนี้บัตรเครดิตเหมือนทริปที่ผ่านมา


          • นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์ที่แถมมากับบัตร JOURNEY เช่น 

               - ประกันเดินทางต่างประเทศสูงสุด 10 วัน ความคุ้มครองสูงสุด 1,500,000 บาท 

               - นั่ง Miracle Lounge สนามบินชิวๆ หาอะไรทาน ก่อนออกเดินทาง

               - ส่วนลด GRAB เดินทางไปกลับสนามบิน และอื่นๆ อีกมากมาย 

         (สำหรับลูกค้าที่สมัครบัตรเดบิต JOURNEY ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 62 รับเพิ่ม SIM Go Inter ASIA-AUS-USA 6 GB นาน 10 วัน) 

          โดยบัตรนี้จะมีค่าธรรมเนียมทำบัตร 700 บาท และในปีถัดไปจะเสียค่าธรรมเนียมรายปี ปีละ 550 บาท เหมาะกับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ และเน้นการใช้สิทธิประโยชน์แบบเต็มที่


2. ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเช็กเรทอัตราแลกเปลี่ยนบ่อยๆ อยากแลกเงินเรทถูกมาเก็บไว้ล่วงหน้าโดยไม่ต้องไปร้านแลกเงินหรือธนาคาร และชอบใช้ Mobile Application แนะนำดาวน์โหลด “APP YouTrip” 

          • YouTrip เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักเดินทาง เมื่อดาวน์โหลดแล้วจะสามารถสมัครบัตร YouTrip โดยสามารถโอนเงินเข้า YouTrip ผ่านทาง K PLUS เข้าบัญชี Wallet แลกเงินล่วงหน้าเก็บไว้ได้ถึง 10 สกุลเงิน เช่น สกุลเงิน THB USD GBP EUR HKD JPY AUD SGD CAD CHF ซึ่งหากเรามีแนวโน้มเดินทางไปประเทศที่ใช้เงินสกุลเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์มาก

          • เมื่อไปต่างประเทศสามารถนำบัตร YouTrip ไปรูดซื้อสินค้าและบริการ พร้อมทั้งการชอปออนไลน์ในเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งสามารถชำระได้ถึง 150 สกุลเงิน ไม่มีค่าชาร์จ 2.5% เหมือนบัตรเครดิต

          • เมื่อกลับจากไปเมืองนอก หากมีเงินเหลือสามารถเก็บไว้ใน Wallet สำหรับการไปเที่ยวครั้งถัดไป หรือรอเช็กเรทที่ดีที่สุดแล้วค่อยกดแลกเงินผ่าน Application กลับมาเป็นเงินบาทได้อีกครั้ง

          ช่วงนี้มีโปรโมชันหากสมัครบัตร YouTrip ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ต.ค. 63 ไม่คิดค่าแรกเข้า 100 บาท และค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท ที่สำคัญ สมัครง่ายๆ ผ่าน K PLUS แล้วรอรับบัตร YouTrip 5-7 วัน     ทำการได้เลย


3. ถ้าคุณเป็นคนที่ทำงานจนนาทีสุดท้าย ไม่มีเวลาไปแลกเงิน จนถึงขั้นต้องไปแลกเงินตามบูธธนาคารที่สนามบินด้วยเรทอัตราแลกเปลี่ยนปกติ หากกำลังเดินทางไปเที่ยว ญี่ปุ่น ยุโรปและอเมริกา แนะนำ “เครื่องแลกเปลี่ยนเงินอัตโนมัติ” (Automated Currency Exchange Machine) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น B1 บริเวณแอร์พอร์ตลิ้งค์ สถานีสุวรรณภูมิ เพราะจะได้เรทถูกกว่าแลกที่บูธธนาคาร 

          • สำหรับการแลกเงินไปต่างประเทศ ปัจจุบันแลกได้ 3 สกุลเงินหลัก คือ USD, EUR, JPY ส่วนการรับแลกเงินต่างประเทศกลับเป็นเงินบาท สามารถแลกได้ถึง 12 สกุลเงิน เพียงแต่ยอดเงินในการทำรายการต้องไม่เกิน 30,000 บาท/รายการ และไม่เกิน 99,999 บาท/วัน/คน 


ตัวอย่างอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการแลกเงิน 1 USD/THB ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 

อัตราแลกเปลี่ยน
อัตราประกาศของธนาคาร(KBANK)
เครื่องแลกเงินอัตโนมัติ (KBANK)
ร้านแลกเงินเรทถูก
บัตรเดบิต JOURNEY
YouTrip Wallet
1 USD/THB
30.39
30.25
30.21
30.14
30.14


*อัตราแลกเปลี่ยนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามที่ธนาคารกำหนด

          หากวันนี้คุณมีทริปเดินทางอยู่แล้ว ลองตั้งงบประมาณดูว่าจะแลกเงินสกุลต่างประเทศไปใช้เท่าไรให้เพียงพอ แนะนำให้แยกเก็บเงินในหลายๆ กระเป๋า จริงๆ เงินสดไม่ต้องพกไปมากนัก ถ้าคุณมีบัตรเดบิต JOURNEY หรือ YouTrip เพราะสามารถใช้บัตรรูดซื้อสินค้าและบริการได้ ซึ่งหากเงินสดไม่พอก็สามารถกดตู้ ATM เป็นเงินฉุกเฉินได้ในต่างประเทศ โดยมีค่าธรรมเนียมการกดครั้งละ 100 บาท (สำหรับบัตร YouTrip ฟรีค่าธรรมเนียมการกดตู้ ATM ต่างประเทศจนถึง 31 ม.ค. 63) ไม่รวมค่าธรรมเนียมกดตู้ ATM ของแต่ละประเทศที่เรียกเก็บเพิ่ม แต่ถ้ากังวลว่าเงินในบัญชีออมทรัพย์ไม่เพียงพอ แนะนำให้พกบัตรเครดิตติดตัวไปด้วย โดยใช้เท่าที่จำเป็น กลับจากการเที่ยวจะได้ไม่เป็นหนี้ก้อนใหญ่ค่ะ



ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขของผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่

     • บัตรเดบิต JOURNEY 

     • บัตร YouTrip 



บทความที่เกี่ยวข้อง :



ให้คะแนนบทความ

ลออรัตน์ รักษ์บุญยวง CFP®

ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า ธนาคารกสิกรไทย