ออมและลงทุน
4 Mega Trends กับโอกาสในการลงทุน
Mega Trends คือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบและเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ สังคม ธุรกิจ วัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม จากข้อมูลของ Frost & Sullivan ที่ศึกษาเกี่ยวกับ Top 20 Global Trends ในบทความนี้ K-Expert ขอเล่าถึง 4 แนวโน้มใหญ่ที่สำคัญและ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ดังต่อไปนี้
Mega Trend 1: โลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
โครงสร้างประชากรกำลังมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปและโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (UN) คาดการณ์ว่าปี พ.ศ. 2593 จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจากปัจจุบัน หรือมีจำนวนกว่า 3,400 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 30 ของประชากรโลก ในขณะที่สถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะเป็นเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอีก 3 ปีข้างหน้า และเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอดในปี พ.ศ. 2574 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศ หากประชากรวัยทำงานมีไม่เพียงพอ นอกจากนี้ รายจ่ายของภาครัฐมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย จากการแบกรับภาระในการดูแลผู้สูงอายุ และที่สำคัญคือ อาจส่งผลกระทบต่อ GDP ของประเทศโดยรวม
Mega Trend 2: การเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจเศรษฐกิจของโลก
กลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่เริ่มมีบทบาทและความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงในกลุ่มที่เรียกว่า E7 ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ได้แก่ จีน อินเดีย บราซิล รัสเซีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก และตุรกี ถึงแม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่นี้จะมีทิศทางการขยายตัวที่ลดลง เนื่องด้วยกระแสสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าต่างๆ ทั่วโลก แต่ในระยะยาวเชื่อว่ากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในอนาคต ซึ่งหากดูที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศนี้จะพบว่า GDP เพิ่มขึ้นอย่างมากจนมีขนาดใหญ่เกือบเท่าของ GDP ในกลุ่มประเทศมหาอำนาจเดิม อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนขั้วอำนาจเศรษฐกิจของโลกอาจจะนำมาซึ่งการแข่งขันทางการค้าที่จะรุนแรงมากขึ้นในอนาคตด้วย
Mega Trend 3: ความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยี
อีกหนึ่งเมกาเทรนด์ที่หลายคนให้ความสนใจคือ เทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นมากมาย ตัวอย่างเช่น Internet of Things, Robots, Artificial Intelligence (AI), Drones, Blockchain, Virtual reality, 3D Printing, Electric vehicle และ Cloud Computing ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆ นี้เริ่มเข้ามามีบทบาทในโลกมากขึ้น ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยทำให้มนุษย์มีความสะดวกสบาย สามารถจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่หากมนุษย์ปรับตัวไม่ทัน หรือใช้งานเทคโนโลยีอย่างไม่เหมาะสมก็อาจสร้างผลกระทบต่อมนุษย์ได้ เช่น ความกังวลว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ Artificial Intelligence (AI) ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วจะมาทำงานแทนมนุษย์ เนื่องจากสามารถทำงานหลายอย่างและทำได้ดีกว่ามนุษย์ด้วย จากตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในการวินิจฉัยโรคบางชนิด โดย AI มีความแม่นยำมากกว่าแพทย์เสียอีก รวมถึงการใช้ Robo Advisor ในการแนะนำการลงทุน AI เป็นต้น ซึ่งหากกระแสเทคโนโลยียังดำเนินต่อไป โดยไม่มีการเตรียมทรัพยากรมนุษย์ที่ดีพอ เป็นไปได้ที่ในอนาคตหุ่นยนต์อาจจะมาแย่งงานบางประเภทจากมนุษย์ได้
Mega Trend 4: การขยายตัวของชุมชนเมือง
ความเป็นเมืองเป็นเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยที่เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ “สังคมเมือง” โดยประชากรในต่างจังหวัดย้ายเข้ามาอยู่ในเขตเมืองมากขึ้น โดยในอีก 10 ปีข้างหน้า เมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน (Mega Cities) จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น การขยายตัวของเมืองขนาดใหญ่ไม่เพียงก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่ของวิถีในการดำรงชีวิต แต่ยังทำให้เกิดความจำเป็นในการสร้างเมกะโปรเจกต์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น งานโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคขนาดใหญ่ เช่น การสร้างสนามบิน รถไฟฟ้าความเร็วสูง หรือท่าเรือขนส่งสินค้า รวมถึงระบบการศึกษา ระบบประกันสุขภาพ เพื่อสนองตอบความต้องการของคนเมือง นอกจากนี้ อัตราการใช้โซเชียลมีเดีย อินเทอร์เน็ต และการเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ ออนไลน์ก็จะเพิ่มสูงตามไปด้วย
ทั้ง 4 เทรนด์นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวโน้มใหญ่ แต่เป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นจริงไม่ช้าก็เร็วอย่างแน่นอน ดังนั้น นักลงทุนควรต้องศึกษา วิเคราะห์ แนวโน้มใหญ่ในมุมมองของเราว่ามีอะไรบ้าง และเลือกลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มใหญ่ดังกล่าว ตัวอย่างเช่น
ถ้าโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพทั่วโลกจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้น การลงทุนในหุ้น Mega Trend ควรเน้นไปยังบริษัทที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ รวมถึงเภสัชกรรม โรงพยาบาล ผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ เพราะจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของค่ารักษาพยาบาลทั่วโลก หรือในช่วงปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว บริษัทต่างๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีล้วนมีผลการดำเนินงานดีกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่ม “FANG” หรือ 5 บริษัทเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด ได้แก่ Facebook, Apple, Amazon, Netflix และ Google อย่างไรก็ตาม ในตลาดหุ้นไทยอาจมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีค่อนข้างจำกัด นักลงทุนที่สนใจหุ้นกลุ่มนี้สามารถเลือกลงทุนในกองทุน Global Technology ที่เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก เพื่อรับเทรนด์การเติบโตนี้ได้ครับ
ข้อมูลอ้างอิง :
บทความที่เกี่ยวข้อง :
Workshop ที่เกี่ยวข้อง :
- เปิดโลกลงทุนสู่กองทุนต่างประเทศ (FIF)