Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​        เศรษฐกิจอินเดีย กำลังกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่บนเวทีโลก ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก เติบโตอย่างรวดเร็ว แรงงานวัยหนุ่มสาวจำนวนมหาศาล อินเดียกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ประกอบกับนโยบายที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ ยิ่งทำให้โอกาสการลงทุนในอินเดียมีความน่าสนใจมากขึ้น 


เศรษฐกิจอินเดีย แรงขับเคลื่อนการลงทุน 

        เศรษฐกิจอินเดียได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยการเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐฯ จีน เยอรมัน และ ญี่ปุ่น และฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ อินเดียจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก 


ตาราง : ขนาดเศรษฐกิจของอินเดีย : GDP ไตรมาสที่ 1/2567 เติบโต 7.76% (YoY)

ที่มา Bloomberg ณ วันที่ 14 มิ.ย. 2567 

        การเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญจากภาคเกษตรกรรมไปสู่ภาคบริการและภาคดิจิทัล ซึ่งเทคโนโลยี fintech ก็เป็นหนึ่งในภาคที่เติบโตเร็วที่สุด การเปลี่ยนแปลงนี้ได้สร้างโอกาสใหม่ๆ และดึงดูดการลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก

ตลาดขนาดมหึมา ศักยภาพสูงด้วยพลังคนรุ่นใหม่ 



        อินเดียมีประชากรมากกว่า 1.42 พันล้านคน (ข้อมูลจาก World Bank ณ เดือนธันวาคม 2565) ซึ่งสร้างฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพสำหรับการบริโภคสินค้าและบริการ นอกจากนี้ อินเดียยังมีกลุ่มประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีการศึกษาสูงและมีทักษะที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ 

ศักยภาพทางเศรษฐกิจดิจิทัลและนโยบายจากภาครัฐ
ที่เอื้ออำนวยช่วยดึงดูดการลงทุน

        การเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจอินเดียไปสู่ภาคบริการและดิจิทัลได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงการพัฒนาในภาคเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการเงิน ทำให้เศรษฐกิจมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ดีต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลก



        รัฐบาลอินเดียได้แสดงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมธุรกิจและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผ่านการปฏิรูประบบราชการ กระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล และ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายเหล่านี้ได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับการลงทุนและการเติบโตของธุรกิจ นอกจากนี้ นโยบายของรัฐบาลอินเดียสนับสนุนให้ครัวเรือนสะสมเงินออมสำหรับวัยเกษียณผ่าน Systematic Investment Plans (SIPs) ซึ่งเป็นแผนการลงทุนที่ช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับการลดหย่อนภาษี พร้อมทั้งมีระบบการลงทุนแบบประจำทุกเดือน นโยบายนี้ส่งผลให้เงินทุนในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความมั่นคงให้กับตลาดหุ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับตลาดหุ้นอินเดียในระยะยาวอีกด้วย 

ตลาดหุ้นอินเดีย โอกาสสำหรับนักลงทุน? 

        ตลาดหุ้นอินเดียถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าตลาด (Market Capitalization) กว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2567) และการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงศักยภาพและความมั่นคงของเศรษฐกิจอินเดีย ซึ่งการเติบโตนี้เป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจในประเทศ และการเพิ่มขึ้นของการบริโภคภายในประเทศ ทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก

สภาพคล่องของตลาดหุ้นและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย
เพิ่มโอกาสการลงทุน 



        ด้วยสภาพคล่องที่สูง ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นอินเดียยังมีบริษัทจดทะเบียนหลากหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรมในอินเดียเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นเติบโต และมีโอกาสในการลงทุนที่หลากหลาย โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรกในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มบริการทางการเงิน กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ และ กลุ่มพลังงาน ตามลำดับ 

ความเสี่ยงที่นักลงทุนควรพิจารณา แม้โอกาสจะสดใสในระยะยาว 

    • ระดับราคาในปัจจุบันที่ค่อนข้างแพง : ในระยะยาวปัจจัยพื้นฐานและเศรษฐกิจของอินเดียยังมีความน่าสนใจ อย่างไรก็ตามในระยะสั้นระดับราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาสูง ทำให้ Valuation ค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน
    • ความเสี่ยงด้านกฎหมายและระเบียบ : แม้จะมีการปฎิรูประบบราชการ เพื่อส่งเสริมธุรกิจและดึงดูดนักลงทุน แต่ก็ยังมีความยุ่งยากและกฎระเบียบที่ซับซ้อนอาจทำให้การลงทุนและการดำเนินธุรกิจในอินเดียเป็นไปอย่างล่าช้า
    • โครงสร้างพื้นฐาน : แม้ว่าอินเดียจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ที่ไม่เพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัท
    • ความเสี่ยงด้านค่าเงิน : แนวโน้มเงินเฟ้อและการปรับดอกเบี้ยนโยบายของอินเดีย ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของค่าเงินรูปี 

ตาราง : Forward P/E

ที่มา Bloomberg ณ วันที่ 14 มิ.ย. 2567 

กองทุนอินเดียที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ 

        กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน-A ชนิดสะสมมูลค่า (K-INDIA-A(A)) และ กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-INDIA-A(D)) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Goldman Sachs India Equity Portfolio Class I Shares (Acc.) ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่มีนโยบายลงทุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของทรัพย์สินสุทธิในตราสารทุนและ/หรือตราสารและกองทุนที่มีความเกี่ยวข้องกับตราสารทุนของบริษัทที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศอินเดียหรือมีกำไรหรือรายได้หลักจากประเทศอินเดีย โดยกองทุนหลักมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) ทั้งสองกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ


อ่านรายละเอียดกองทุน
ซื้อกองทุนผ่าน K PLUS
K-INDIA-A(A) 


K-INDIA-A(D) 



        กองทุนกองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นอินเดีย K-INDX กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares India 50 ETF (USD) โดยมีนโยบายการลงทุนให้มีผลตอบแทนตามดัชนีหุ้นบริษัทอินเดียที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากที่สุด 50 บริษัทแรกหรือดัชนี Nifty 50 และป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ 
อ่านรายละเอียดกองทุน
ซื้อกองทุนผ่าน K PLUS




บทความอื่น ๆ ประจำเดือน

ULTIMATE LEISURE


THE EXPLORER

SPECIAL PRIVILEGE : สิทธิพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำประจำเดือนกรกฎาคม
 




กลับ