Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​​​        “อาหารที่ชอบ พร้อมไวน์ที่ใช่” หากใครหลายคนกำลังมองหาร้านอาหารสำหรับมื้อพิเศษ มหานครแห่งนี้มีร้านอาหารสุดหรูมากมายที่พร้อมให้คุณได้ดื่มด่ำช่วงเวลาแห่งความสุข วันนี้ The Explorer ขอพาทุกท่านไปเยือนร้านเหล่านี้พร้อมกันค่ะ


อิ่มอร่อยสไตล์นอร์ดิก – เอเชียน กับ Villa Frantzén


ภาพจาก Facebook Villa Frantzén 

Address : 7 ซอยเย็นอากาศ 3, แขวงช่องนนทรี, เขตยานนาวา, กรุงเทพฯ 10120
Google Map | Tel : 087-3448222 | Facebook | Instagram
Price : ประมาณ 4,000 บาท/ท่าน | Booking
Open : ทุกวัน เวลา 17.30 – 23.30 น. 

        น้อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นร้านอาหารสไตล์นอร์ดิกในไทย ยิ่งเป็นแนวร่วมสมัยอย่างนอร์ดิก – เอเชียนแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะเป็นไปได้ แต่ Villa Frantzén ร้านอาหารระดับมิชลิน 3 ดาว ประจำปี 2024 จากสวีเดนทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วในซอยเย็นอากาศ 3 ย่านยานนาวา พร้อมเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสมื้อที่ใช่ในแบบที่คุณไม่เคยคาดคิด


ภาพจาก Facebook Villa Frantzén 

        ร้านเลือกนำบ้านหลังเก่าในย่านดังกล่าวมาปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นร้านอาหารหรู โดยมีทั้งโซนนั่งรับประทาน บาร์ รวมถึงห้องส่วนตัวหลากหลายขนาดควบรวมอยู่ภายใน พร้อมด้วยสวนหย่อมด้านนอกที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้อยู่ในบ้านพักตากอากาศ ลืมได้ในชั่วขณะว่าคุณกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในย่านธุรกิจอันสุดแสนจะวุ่นวายของมหานคร 


Grilled Scallops & Fermented Parsnips, Grilled Dry-Aged Duck และ Lightly Heated Monkfish & Leeks
ภาพจาก Facebook Villa Frantzén 

        ดังที่กล่าวไว้ว่า Villa Frantzén หนักแน่นกับการนำเสนออาหารสไตล์นอร์ดิก – เอเชียน นั่นจึงทำให้เมนูต่าง ๆ มีความเป็นเอกลักษณ์ในแบบประยุกต์ ซึ่งที่นี่นั้นเสิร์ฟในแบบคอร์ส 6 เมนู และในแต่เมนูจะมีตัวเลือกปลีกย่อยเพื่อช่วยตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากยิ่งขึ้น เมนูที่น่าสนใจนั้นมีทั้ง Grilled Scallops & Fermented Parsnips ที่ราดด้วยซุปทรัฟเฟิลและน้ำมันอัลมอนด์ หรือ Grilled Dry-Aged Duck คู่กับ Roasted Cabbage Purée และซอส Périgourdine ไปจนถึง Lightly Heated Monkfish & Leeks ที่ให้รสของ Pistachio และ Saffron Beurre Blanc รสบางเบา

        Cellar ภายใน Villa Frantzén ซึ่งมีตั้งแต่ไวน์ระดับหลักพันต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น (ภาพซ้าย) อาทิ แชมเปญฝรั่งเศส J-M Sélèque (ภาพกลาง) หรือ Charmes-Chambertin Grand Cru, Domaine Perrot-Minot สุดหรู (ภาพขวา) 


ภาพจาก Facebook Villa Frantzén และ Instagram Domaine Perrot-Minot 

        เช่นเดียวกับไวน์ชั้นเลิศที่ร้านแห่งนี้คัดสรรให้กับคุณมากทางเลือก ทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว รวมถึงแชมเปญชั้นเลิศจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Extra Brut - Premier Cru ‘‘L’Aphrodisiaque’, David Léclapart LV12 แชมเปญระดับท็อปขวดละ 14,000 บาทจากฝรั่งเศส หรือจะเป็นไวน์ขาวที่ให้ความ Complex และ Buttery ในทุกสัมผัสอย่าง Meursault, Domaine Roulot มูลค่า 30,000 บาท พร้อมทั้ง 2013 Charmes-Chambertin Grand Cru, Domaine Perrot-Minot ไวน์แดงระดับแนวหน้าจาก Gevrey-Chambertin กว่า 25,000 บาท นอกจากนี้ ทางร้านยังพร้อมแนะนำด้วยเช่นกันว่าไวน์ขวดใดที่เหมาะกับเมนูนั้น ๆ ที่อยู่ตรงหน้าคุณ เพื่อประสบการณ์การรับประทานที่ใช่และน่าจดจำยิ่งขึ้น 

Source : 

สัมผัสรสชาติที่น่าค้นหาไปกับ Bisou


ภาพจาก Facebook Bisou Bangkok 

Address : 68 ถนนหลังสวน, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน, กรุงเทพฯ 10330
Price : ประมาณ 2,500 บาท / ท่าน | Booking
Open : ทุกวัน เวลา 17.30 – 24.00 น. 

        หลังสวนถือเป็นหนึ่งในย่านใจกลางกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วย ร้านอาหารหลากหลายสไตล์ตั้งเรียงรายคละกันอยู่อย่างมีชีวิตชีวา เช่นเดียวกับร้านอาหารฝรั่งเศสอย่าง Bisou ที่ยกกลิ่นอายของอาหารฝรั่งเศสแบบประยุกต์มาไว้ที่นี่ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งในแง่มุมของการนำเสนอและรสชาติสุดน่าค้นหา


บรรยากาศภายในร้าน Bisou ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้านหลังเล็ก ๆ
ภาพจาก Facebook Bisou Bangkok 

        ร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในซอยเล็ก ๆ ตรงข้ามกับ สินธร วิลเลจ บนถนนหลังสวน บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกโมเดิร์นแต่ยังคงเต็มไปด้วยความเรียบง่าย สะอาดตา และโล่งโปร่งสบาย ด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านหลังคากระจกใสจากชั้นบน พร้อมงานตกแต่งและรายละเอียดการออกแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยเติมแต่งประสบการณ์ของผู้มาเยี่ยมเยือนให้น่าประทับใจยิ่งกว่า


Harakami Tuna Tartare, Wagyu Hanger Steak และ Black Truffle Pasta
ภาพจาก Instagram Bisou Bangkok 

        รังสรรค์โดย Antoine Darquin เชฟฝีมือดีจากฝรั่งเศส พร้อมด้วยซอมเมอลิเยร์คู่หูอย่าง Théo Lavergne นั่นจึงทำให้ทุกเมนูภายในร้านนั้นเต็มไปด้วยคุณภาพและความน่าลิ้มลอง ตั้งแต่ Harakami Tuna Tartare ที่เสริมรสด้วยส้มยูซุ ซุปดาชิบีทรูท และมายองเนสโบนิโต เหมาะกับการเป็น First Bite อย่างยิ่ง หรือจะเป็นเมนูที่จริงจังขึ้นอย่าง Hanger Steak เนื้อวากิวชั้นดี เสิร์ฟคู่กับ Bone Marrow และ Black Truffle Pasta ที่ให้รสทรัฟเฟิลสุดเข้มข้น ที่นี่ก็มีให้คุณได้ชิมเช่นกัน


        บริการเสิร์ฟไวน์ถึงโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มของทางร้านอย่าง Domaine Charvin Côtes du Rhône Le Poutet หรือ Domaine des Carlines Côtes du Jura (ภาพกลาง) เช่นเดียวกับแชมเปญหรูอย่าง Bollinger Spécial Cuvée จากฝรั่งเศส (ภาพขวา) 
ภาพจาก Instagram Bisou Bangkok และเว็บไซต์ Champagne Bollinger 

        ในมุมของไวน์ ทางร้านนั้นมีตั้งแต่ไวน์คลาสสิกไปจนถึงไวน์ชื่อดังกว่า 200 รูปแบบ จัดไว้ให้กับคุณในห้องเก็บไวน์โดยเฉพาะ สามารถเลือกหยิบพร้อมจับคู่กับมื้ออาหารสุดพิเศษบนโต๊ะของคุณได้ดั่งใจปรารถนา ตั้งแต่แชมเปญอย่าง Bollinger Spécial Cuvée รสเข้ม ในราคาขวดละ 9,000 บาท ไปจนถึงไวน์แดงระดับ 1er Grand Cru Classé A มูลค่ากว่า 27,000 บาท อย่าง Château Angulus ไวน์ชั้นนำจากบอร์โด 

        ทั้งนี้ ทางร้านแนะนำว่าผู้ที่สนใจควรสำรองที่นั่งก่อนมาที่ร้านเสมอ เพื่อให้ได้ที่นั่งและบรรยากาศภายในร้านที่ต้องการ หรือหากต้องการเดินทางมาเป็นกลุ่มใหญ่ ทางร้านก็มีห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ที่รองรับแขกได้ถึง 17 คนไว้ให้ด้วยเช่นกัน 

Source

ย้อนตำนานอาหารอิตาเลียน ที่ Gianni


ภาพจาก Facebook Gianni Ristorante 

Address : 63 แอทธินี ทาวเวอร์ ชั้น G ยูนิต D, ถนนวิทยุ, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน, กรุงเทพฯ 10330
Price : ประมาณ 3,000 บาท/ท่าน | Booking
Open : ทุกวัน รอบกลางวัน เวลา 11.30 – 14.00 น. , รอบเย็น เวลา 18.00 – 22.00 น. 

        ว่ากันว่าอาหารอิตาเลียนจะกลมกล่อมยิ่งขึ้นเมื่อได้จับคู่กับไวน์ชั้นดี นั่นจึงทำให้ Gianni ภัตตาคารหรูสุดเก่าแก่ในอาคาร แอทธินี ทาวเวอร์ บนถนนวิทยุนั้นตั้งใจรังสรรค์อาหารอิตาเลียนอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยคุณภาพวัตถุดิบ ความประณีต รวมถึงการนำเสนอด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานกว่าสองทศวรรษในวงการนี้


ที่นั่งโซน Terrace และ Private อันเรียบหรูของร้าน
ภาพจาก Facebook Gianni Ristorante 

        บรรยากาศภายในร้านนั้นกว้างขวางและโล่งสบาย โดยมีการแบ่งโซนที่นั่งออกเป็นแบบ Terrace และ Private ที่แยกไว้สำหรับลูกค้ากลุ่มใหญ่โดยเฉพาะ พร้อมตกแต่งภายในด้วยเก้าอี้สีแดงและโต๊ะที่คลุมด้วยผ้าสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน ให้แขกทุกท่านรู้สึกได้ถึงความเรียบหรูอย่างมีสง่าตามแบบฉบับของอิตาลี


Mediterranean Sea, Pan Roast Sea Bass with Fennel & Prosecco Sauce และ Strozzapreti with Lamb Ragôut
ภาพจาก Facebook และ Instagram Gianni Ristorante 

        ส่วนอาหารของที่นี่ก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Mediterranean Sea, Pan Roast Sea Bass with Fennel & Prosecco Sauce ที่ให้รสเค็มอ่อน ๆ ซ่อนมาพร้อมกับความเปรี้ยวเล็ก ๆ หรือเมนู Strozzapreti with Lamb Ragôut ซึ่งนำเสนอผ่านพาสต้าท้องถิ่นจากแคว้น Emilia-Romagna คู่กับเนื้อแกะตุ๋นไฟอ่อน

        ไวน์ Gaja ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Sperss Barelo, Darmagi Langhe, Gaia & Rey Langhe (ภาพซ้าย) และแชมเปญคุณภาพอย่าง Cristal จาก Louis Roederer ที่ทางร้านมีให้คุณ (ภาพขวา) 


ภาพจาก Facebook Gianni Ristorante และเว็บไซต์ Louis Roederer 

        เพราะความเป็นอิตาลีอย่างแท้จริงสามารถสัมผัสได้เพียงการดื่มผ่านแก้วไวน์ ทางร้านจึงคัดสรรเครื่องดื่มชั้นดีทั้งจากถิ่นต้นกำเนิดและจากแหล่งอื่น ๆ ทั่วโลกไว้ให้กับแขกทุกท่านกว่า 250 รูปแบบ พร้อมเก็บและดูแลด้วยอุณหภูมิ Cellar ที่เหมาะสม ให้ไวน์ที่คุณมองหายังคงคุณภาพในแบบที่ควรได้ลิ้มลอง ไวน์ของที่นี่นั้นมีทั้งจาก Barolo ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นราชาของไวน์อิตาลี อย่าง 2014 Barolo “Conteisa”, Gaja มูลค่า 17,990 บาท หรือแชมเปญคุณภาพในราคาเดียวกันอย่าง Cristal, Louis Roederer ที่ให้ความมีชีวิตชีวาในทุกการดื่ม รวมถึงไวน์จาก Tuscany และอิตาลีทางตอนใต้อีกมากมายด้วยเช่นกัน 

Source

สัมผัสรสชาติแห่งท้องทะเลยุโรป ณ Quince


ภาพจาก Facebook Quince Bangkok 

Address : 14/2 ซอยสมคิด, ถนนเพลินจิต, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน, กรุงเทพฯ 10330
Price : ประมาณ 500 – 1,000 บาท/ท่าน | Booking
Open : ทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร เวลา 10.30 – 23.00 น. 

        เปิดโลกการรับประทานอาหาร พร้อมก้าวสู่อีกระดับของเมนูสไตล์เมดิเตอร์เนเรียนไปกับ Quince ร้านอาหารลุคสบาย ๆ ภายในซอยสมคิด ที่ยกทั้งอาหารคาว หวาน และไวน์ชั้นเลิศมารวมไว้ที่นี่ที่เดียว ให้คุณได้สัมผัสถึงความเป็นยุโรปใต้ได้เพียงเอื้อม


ภาพจาก Facebook Quince Bangkok 

        ด้วยแสงโทนร้อนอ่อน ๆ จากโคมไฟที่ติดประดับอยู่ทั่วร้าน รวมถึงการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สุดคลาสสิกในทุกตารางนิ้ว จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าบรรยากาศภายในร้านแห่งนี้จะช่วยปรุงแต่งมื้อที่คุณมองหาได้อย่างกลมกล่อมขึ้นอีกเท่าตัว หรือหากคุณต้องการสูดอากาศภายนอก รับความร่มรื่นจากแมกไม้น้อยใหญ่ ที่ร้านก็มีโซนเอาท์ดอร์ให้คุณได้จับจองเช่นกัน


เทคนิค Wood-Fire Cooking ในแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นจุดเด่นของร้าน
ภาพจาก Facebook Quince Bangkok 

        จุดเด่นของ Quince คือการนำเสนอเมนูอาหารผ่านกรรมวิธี Wood-Fire Cooking เป็นหลัก เพื่อให้ทุกจานที่ตั้งใจรังสรรค์นั้นเต็มไปด้วยรสชาติและกลิ่นอายของการประกอบอาหารแบบดั้งเดิม ทั้งกลิ่นของฟืนที่ผ่านการเผา ไปจนถึงรอยแตกและไหม้บาง ๆ ที่เพิ่มความน่าดึงดูดให้กับจานที่อยู่ตรงหน้า


Iberico Churrasquito Skirt Steak, Romesco & BBQ’d Leek Pizza และ Spicy Crab Tomato Pasta
ภาพจาก Facebook Quince Bangkok 

         เมนูของที่นี่มีตั้งแต่สไตล์เนื้ออย่าง Iberico Churrasquito Skirt Steak ราดด้วยซอส Tangy Ajo Blanco เข้มข้น หรือพิซซ่า Romesco & BBQ’d Leek สูตรพิเศษที่ผสมผสานวัตถุดิบเฉพาะจากสเปนเข้าด้วยกัน ไปจนถึงเมนูพาสต้าอย่าง Spicy Crab Tomato Pasta ซึ่งผัดกับซอส XO โรยด้วยชีส Parmigiano Reggiano ให้กลิ่นอายของยุโรปใต้ยังคงไม่จางหาย

        เครื่องดื่มหลากหลายประเภท ทั้ง Domäne Wachau Grüner Veltliner Smaragd Weissenkirchen, Frédéric Lornet Crémant de Jura Rosé, Vareij Hilberg Pasquero (ภาพกลาง) รวมถึงแชมเปญหรูจากฝรั่งเศสอย่าง Rosé de Saignée Experience, André Jacquart 1er Cru (ภาพขวา) 


ภาพจาก Facebook Quince Bangkok และ Instagram Champagne André Jacquart 

        เพื่อให้คุณได้สัมผัสถึงตัวตนของเมดิเตอร์เรเนียนอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทางร้านจึงหยิบยกไวน์จากแถบดังกล่าวมานำเสนอเพื่อให้เข้ากับคอนเซปต์ที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็น  Carbenet/Merlot Blend, Le C des Carmes Haut-Brion 2017 จาก Pessac-Léognan Bordeaux มูลค่า 3,700 บาท หรือในราคาเดียวกันอย่าง Cahardonnay, Pernand-Vergelesses 2020, L&L Pavelot จาก Burgundy ไปจนถึงแบบแชมเปญอย่าง Rosé de Saignée Experience, André Jacquart 1er Cru ขวดละ 5,400 บาท นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดื่มจากแถบอื่น ๆ เป็นทางเลือกด้วยเช่นกัน ทั้งจากแถบออสเตรีย เยอรมนี ไปจนถึงจากสหรัฐอเมริกา 

Source

        นอกจากลิสต์ที่เรามอบให้ในวันนี้แล้ว ยังมีร้านอาหารหรูอีกมากมายที่รอให้คุณได้ออกไปค้นหาอยู่ ขอให้มีความสุขกับทุกมื้อที่กำลังจะเกิดขึ้นค่ะ

บทความอื่น ๆ ประจำเดือน

SPECIAL REPORT


ULTIMATE LEISURE

SPECIAL PRIVILEGE : สิทธิพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำประจำเดือนกรกฎาคม



กลับ